Sunday 15 April 2012

เด็กผู้หญิงในปี 2012

ได้แลกเปลี่ยนความเห็นกับคุณคนอ่านว่าเด็กสมัยนี้น่ากลัว คือที่อยากจะบอกไม่ได้น่ากลัวเพราะจิตใจหรือรูปร่างหน้าตา แต่ที่หน้ากลัวสำหรับเราคือ วิธีการคิด การที่ได้รับข้อมูลจากสื่อกระแสหลักมากเกินไป

เด็กผู้หญิงวัยประถมต้นสมัยนี้เริ่มมีแฟน ส่วนเด็กผู้หญิงวัยประถมปลายมีการแย่งแฟนกัน ด่าทอด้วยถ้อยคำที่เกินบรรยาย ทำให้เราหันกลับมามองปัญหาเหล่านี้ว่ามันเกิดมาจากไหน ที่แน่ๆสื่อต่างต้องมีส่วนส่งเสริมให้เด็กๆเกิดความคิดว่าการมีแฟนเป็นสิ่งจำเป็น แต่ที่สำคัญที่สุดคือครอบครัว ผู้ปกครอง

ผู้ปกครองสมควรสอนให้เด็กผู้หญิงมีเกราะตั้งแต่เด็ก ว่าการเป็นเด็กสวย หุ่นดี ขาว ไม่ใช่สิ่งจำเป็น สิ่งสำคัญที่สุดคือการเรียน พอเรียนจบก็ทำมาหาเลี้ยงตนเอง ไม่ใช่สอนเด็กว่าโตไปก็ต้องแต่งงาน ดูแลปรนนิบัติสามีและครอบครัว จะแต่งงานหรือไม่แต่งมันไม่จำเป็นเท่าว่ามีปัญญาทำงานหาเลี้ยงตัวเองได้หรือไม่ พอโตจนทำงานได้ก็ถึงคิดว่าจะแต่งงานหรือไม่ ไม่ใช่ปักธงว่าในชีวิตนี้ต้องแต่งงานมีลูก แล้วไม่คิดอะไรคิดแต่หาแฟน คบไปกี่ปีแล้วถึงแต่งงานตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ

ความสวยงามนั้นไม่ใช่แค่ขาว เพราะโฆษณาทุกแขนงเต็มไปด้วยยาพิษใส่หัวเด็กผู้หญิง ต้องขาว ต้องผอม ถึงจะสวยผู้ชายถึงจะชอบ มันทำให้เด็กไปหาเงินจากไหนก็ไม่รู้ถ้าบ้านไม่มีฐานะเพื่อไปหาหมอลดความอ้วน ไปฉีดให้ขาว สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ผิดที่ถูกยัดเยียดใส่สมองตั้งแต่เด็กยังไม่กี่เดือนเพราะเปิดโทรทัศน์ก็มีสิ่งเหล่านี้กรอกหูแล้ว อยากสวยอยากหุ่นดีได้แต่ไม่ใช่เพื่อคนอื่นแต่เพื่อตัวเอง หนังสือไม่ควรมีการทำรีทัชต่างๆ อย่างเมื่อหลายเดือนก่อนคุณนาตาชา เปลี่ยนวิถี ถ่ายรูปเธอกับครอบครัวลงนิตยสารพลอยแกมเพชร หน้าเธอบนนิตยสารฉบับนั้นไม่มีร่องรอยที่บ่งบอกอายุเธอเลย ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้เลย เคยเจอเธอเมื่อหลายปีก่อนหน้าเธอก็เริ่มมีริ้วรอยบ้างแล้ว โฆษณาต่างๆผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดทั้งหลายที่แสดงให้เห็นว่าต้องขาวถึงจะมีคนมองก็ควรจะเลิกได้แล้ว 

เราควรมีหนังสือให้เด็กผู้หญิงชั้นอนุบาลได้อ่านว่าเกิดเป็นหญิงไม่จำเป็นต้องพึ่งผู้ชาย เราสามารถดูแลได้ มีแนะนำอยู่ 2 เล่ม ที่ซื้อมาให้น้องที่บ้านอ่าน คือ 

สมุดระบายสี GIRLS ARE NOT CHICKS

ที่คนเขียนเขามีความตั้งใจไว้ว่า

"We have had enough of books that make girls think that they are not any good.
We have had enough of books that make girls think that they are too young,
too old, too fat, too ugly, too bold, too loud, too independent.
We like books that ask girls to take pride in ourselves.
Those of us who have been raised as or identify as girls
have have often been given the idea that there is something wrong,
weak and limited about being a girl or woman.
This is not and never has been true.
Girls are not chicks. Girls are thinkers, creators, fighters, healers and superheroes.

- Jacinta & Julie"

ส่วนอีกเล่มหนึ่งคือหนังสือที่เหมาะกับการไว้อ่านให้เด็กเล็กฟัง หรือพอโตขึ้นมาหน่อยก็เหมาะกับการให้เด็กหัดอ่าน คือ

Princess Smartypants by Babette Cole


ซึ่งหน้าแรกก็เริ่มด้วย "Princess Smartypants did not want to get married. She enjoyed being a Ms....."

มีคนเอามาอ่านไว้ในยูทูปด้วย

ทางที่ดีคือน่าจะแปลไทยทำเป็นหนังสือให้เด็กอนุบาลอ่าน น่าผิดหวังที่ประเทศไทยไม่มีหนังสือแบบนี้

หรือเพราะสื่อไทยดีแต่ทำรายการอย่างนี้ เพื่อดูไปขำไป สองแง่สองง่ามถึงจะขำต้องเล่นกับทรวดทรงองเอวผู้หญิงถึงจะขำ หลายคนหาว่าเดี๋ยวนี้ทำเป็นจริตเยอะ ถ้ามีเรื่องการเมืองถกกันอย่างจริงจัง รายการตีแผ่ความแย่ของนักการเมืองและระบบราชการจะสนับสนุนให้มี แต่เอาเรื่องกล้วยๆนมๆมาถามแล้วขำยังไงมันก็ไม่ใช่ค่ะ

ถึงจะมีคำเตือนแต่เมื่ออยู่บนโลกอินเตอร์เนตแล้วเด็กประถมต้นยังดูกันได้เลย หลายคนคงบอกว่ามันฮาดี แต่เรากลับคิดว่ามันอนาถ เพราะวันๆคิดแต่ว่าฮาดีนี่แหละ ผู้หญิงถึงเป็น subject ให้เขาดูถูกได้ตลอด ไม่ต้องใช้คำว่าดูถูกเพศแม่ แต่ขอใช้คำว่าดูถูกเพศหญิงในฐานะมนุษย์คนนึงบนโลกใบนี้เหมือนกัน และจะเศร้ามากถ้าเจอผู้หญิงดูคลิปนี้แล้วชอบ



เขียนบล๊อกนี้จบแล้วไปเปิดเพลง Video ของ India Arie ฟังต่อค่ะ ดูเหมือนจะเขียนเครียดและมีสาระแต่คนเขียนรู้ว่าไม่มีสาระค่ะ แค่อยากบ่น 555+


11 comments:

  1. อยากจะกรี๊ด..........ทำไม่คอมเม้นไม่ขึ้น ตอบไปแล้วเพิ่งมามองว่าทำไมไม่มีคอมเม้นสักข้อความเลยนะ

    "มีสาระเยอะเลยค่ะ ^^

    สื่อมีส่วนมากในการสร้างค่านิยมให้กับคนในสังคม เราว่าไม่เฉพาะแค่เด็ก ผู้ใหญ่ก็เป็น แต่เด็กจะถูกชักจูงได้ง่ายกว่า ดูหนัง ละคร แล้วก็อยากเป็นนางเอกกับเค้าบ้าง ยิ่งถ้าพ่อแม่ไม่มีเวลา ทำแต่งาน ปล่อยลูกไว้กับทีวี เด็กก็ซึมซับเอาความรู้สึกนึกคิดจากสิ่งที่เค้าดู เข้ามาใส่ในตัวเค้า พ่อแม่ไม่ได้นั่งดูทีวีและสอนสิ่งที่ถูกต้องให้ฟัง เด็กก็คิดว่ามันเป็นเรื่องดี ไม่ว่าจะเรื่องมีแฟน ความฟุ้งเฟ้อ การแย่งชิงเพื่อให้ได้มาโดยไม่สนใจวิธีการ การโกหก และอีกหลาย ๆ เรื่อง
    เดี๋ยวนี้เด็กประถมมีแฟน ใช้โทรศัพท์มือถือราคาแพง ขโมยของ ไม่มีระเบียบ ก็เพราะผู้ใหญ่ทำตัวอย่างดูให้ทั้งนั้น เคยเจอกับตัวเอง ลูกบอกให้แม่เข้าคิวรอซื้ออาหาร แต่แม่จูงลูกไปแทรกแถวแล้วก็บอกลูกว่าไม่ต้องอย่างนี้เร็วกว่า ได้ยินแล้วก็เศร้า

    เราว่านิทานบางเรื่องก็ส่งเสริมให้เด็กอยากมีแฟนนะคะ พวก เจ้าหญิงนิทรา สโนไวท์ ฯลฯ ควรจะให้อ่านเรื่องที่สอนจริยธรรมด้านอื่น ๆ บ้าง

    สมัยนี้จะทำอะไรก็ใช้ผู้หญิง ขายรถ สงกรานต์ ไม่งั้นเดี๋ยวไม่มีคนไปดู หรือว่าเราหัวโบราณเกินไป"

    ใช่คะเราควรสร้างค่านิยมให้กับทุกเพศและวัยแต่อย่างว่าไม้อ่อนดัดง่ายไม้แก่ดัดยากไงคะ คงต้องสร้างค่านิยมให้เด็กๆ เพราะเด็กในวันนี้คือผู้ใหญ๋ในวันหน้า หลายเรื่องของเด็กที่ทำก็เพราะผู้ใหญ่ส่งเสริมลอกเลียนจากผู้ใหญ่ทั้งนั้น ส่วนเรื่องฟุ้งเฟ้อ เห็นเด็กมัธยมหิ้วแบรนด์ทั้งหลายแล้วอยากตีพ่อแม่นะคะ

    เรื่องนิทานพวกแฟรี่เทลทั้งหลายทำให้ความคิดว่าผู้หญิงเป็นเพศที่อ่อนแอรอคอยความช่วยเหลือฝังอยู่ในสังคมในทุกๆประเทศ ประเทศไทยมีนิทานดีๆเยอะพอควรนะคะแต่มักจะไปอยู่ในร้านหนังสือใหญ่ๆ ที่คนทั่วไปเข้าไปไม่ถึง น่าเสียดายค่ะ แต่เด็กโตหน่อยเราจะให้อ่าน 'โต๊ะ โต๊ะ จัง' ซื้อแจกเด็กไปหลายเล่มแล้วค่ะ 555+ น้องที่บ้านก็ให้อ่าน

    ReplyDelete
  2. หนังสือสมัยนี้ราคาแพง ๆ ทั้งนั้น ต้นทุนการผลิตสูง หรือว่าอะไร ทำให้หนังสือขายไม่ค่อยได้ ที่จริงควรจะราคาถูกลงกว่าที่เป็นอยู่ คนอ่านจะได้มีกำลังซื้อกันเยอะ ๆ บางทีถ้ามีหนังสือที่อยากได้หลายเล่มแต่ราคารวมแล้วสูงไป พ่อแม่ก็จะเลือกบางเล่มให้ลูกเท่านั้น ถ้าคราวหน้าพามาซื้อใหม่ก็คงจะดี
    เปิดดูคลิป VRZO ได้หน่อยเดียว น้องที่ทำงานได้ยินเสียงก็บอกได้ทันทีเลยว่าเป็นรายการอะไร เค้าบอกว่าดัง แต่ก็จะมีแต่เรื่องแบบนี้แทบจะทั้งนั้น เหมือนว่าใครโดนสัมภาษณ์ก็จะต้องตอบแหวกแนว เพื่อให้โดน มันเป็นรายการวัยรุ่น เราดูแล้วไม่ชอบก็เพราะมันไม่เข้ากับวัยเรามั้ง แต่คิดว่าถ้าคนทำรายการเค้ามีสื่ออยู่ในมือ เค้าน่าจะทำอะไรที่มีประโยชน์ให้กับวัยรุ่นหรือสังคมให้มากกว่านี้ได้นะ

    ReplyDelete
  3. หนังสือสมัยนี้แพง นิยายที่เราอ่านๆกันก็แพง 555+ รัฐน่าจะส่งเสริมเรื่องหนังสือมากกว่านี้ไม่ใช่แค่จัดงานสัปดาห์หนังสือปีละ 2 ครั้ง เพื่อสงเสริมให้คนอื่นอ่านหนังสือนะคะ

    รายการนี้ได้ดูเพราะเพื่อนส่งมาให้ดูค่ะ เพื่อจะได้ discuss กัน แต่เราคุยกันใน fb ก็มีความคิดหลากหลายเข้ามาค่ะ เรื่องวัยมีส่วนมากในความชอบหรือไม่ชอบของรายการนี้ค่ะ คนที่ออกมาเห็นชอบกับรายการส่วนใหญ่จะเป็นผู้ชายอายุไม่ถึง 30 ปีค่ะ (ไม่มีผู้ชายอายุเกิน 30 อยู่ใน fb เพื่อนเท่าไหร่ค่ะ) ส่วนผู้หญิงอายุต่ำกว่า25 ส่วนมากจะตลกขบขันไปกับคลิป อาจจะมีบ้างที่เรียนสตรีศึกษาที่ไม่ชอบ แต่ผู้หญิงอายุมากกว่า 30 ไม่ชอบคลิบนี้ทุกคนค่ะ 555+
    ลงท้ายด้วยอายุอีกละ

    สรุปแล้วอายุเป็นปัจจัยหลักในความคิดค่ะ ;)

    ReplyDelete
  4. เห็นด้วยค่ะ เรื่องจัดงานหนังสือ และน่าจะไปจัดตามเมื่องใหญ่ ๆ หรือตามต่างจังหวัดบ้าง เก็บภาษีอุตสาหกรรมหนังสือให้น้อยลง (คิดว่าตอนนี้น่าจะสูง หนังสือถึงได้แพง)

    เป็นรายการสมัยนิยมจริงๆ นะ 555

    ReplyDelete
  5. ถือว่าแนะนำให้คุณอินเทรนนะคะ 555+ รู้จักรายการบ้าๆบอๆนี่

    ReplyDelete
  6. ถ้าคนทำรายการมาอ่าน คงดีใจนะคะที่มีคนชอบรายการเค้ามากขนาดนี้ :P

    ReplyDelete
  7. ค่ะปลื้มเลยค่ะ คงแทบกระอักเลือด ถูกสรรเสริญซะลอย 555+

    ReplyDelete
  8. B2S จะจัดงานหนังสือที่เซ็นทรัล ชิดลม ช่วงปลายเดือนนี้ มีกิจกรรมหลายอย่าง สนใจไปชมได้นะคะ ^^

    ReplyDelete
  9. บอกช้าไปนิดค่ะ กว่าจะได้ไปกรุงเทพอีกก็คงกลางเดือนหน้ามีนัดจะไปเลี้ยงข้าวเด็กกับเพื่อนๆค่ะ และอยากไปทาน BAR B Q PLAZA ไม่ได้ทานมาหลายปี อยู่ๆเห็นโฆษณาอยากกินขึ้นมาซะงั้น 555+

    แอบเป็นประชาสัมพันธ์ B2S หรือเปล่าคะเนี้ย :P

    ReplyDelete
    Replies
    1. อนุโมทนาบุญล่วงหน้านะคะ ไม่เคยได้ไปเลี้ยงข้าวเด็กเลย เพื่อนเคยจะไปแต่เห็นว่าต้องจองล่วงหน้านาน แล้ววันว่างของเพื่อนก็ไม่ค่อยจะตรงกัน ส่วนมากจะซื้อของ ขนม ไปให้ที่เจ้าหน้าที่ค่ะ

      งาน B2S เค้ายังไม่เริ่มค่ะ บอกเร็วแล้วน๊า ไม่ได้เงินค่าโฆษณาด้วย 555+

      Delete
  10. เลี้ยงข้าวเด็กส่วนมากจะขับออกมาจากกรุงเทพหน่อยค่ะ เดินทางสักชั่วโมงนิดๆจากกรุงเทพ หรือไม่ก็ซื้อของไปให้มูลนิธิเด็กค่ะ เอาของไปให้เด็กต่อด้วยให้อาหารปลาที่พุทธมณฑลค่ะ แล้วก็ทานข้าวแถวทวีวัฒนา หมดไป 1 วัน สบายๆกับเพื่อนๆไม่กี่คนค่ะ

    เดี๋ยวมีโอกาสจะไปแวะ b2s ค่ะ ว่าจะไปซื้อกางเกงสักตัวพอดีจะได้แวปไป b2s ด้วย

    ReplyDelete