Hello:25 Adele

สวัสดีเย็นวันจันทร์ค่ะ วันนี้เรามาคุยกันเรื่องรสนิยมความชอบกันค่ะ โดยปกติเราจะชอบพูดเสมอๆว่า “ถ้าทุกคนมีรสนิยมโลกนี้ก็อยู่ลำบากคงแย่งสิ่งเดียวกัน” แล้วทำไมอยู่ๆถึงเกิดอยากเขียนถึงเรื่องนี้ เพราะเพลง single ใหม่ของ Adele คนเดียวเลยค่ะ

เนื่องจากเพลง Hello ที่ปล่อยให้ฟังครั้งแรกเมื่อวันที่ ๒๓ ตุลาคม โดยเผยแพร่ทางรายการ  Radio 1 Breakfast Show  และขึ้นอันดับหนึ่งในหลายประเทศทั่วโลก ในทางสื่อ social media ต่างๆ มีความเห็นไปในทางเดียวกันว่าเพลงนี้เยี่ยม มิวสิควีดีโอก็ยอด แถมบอกว่า Adele ออก single นี้มาฆ่าบรรดานักร้องหญิงที่กำลังดังทั้งหมด Taylor ก็ Taylor เถอะเจอคุณแม่ Adele นี่วิ่งหนีแทบไม่ทันประมาณนี้

แต่เราฟังแล้วเห็นต่าง คือยอมรับว่า เนื้อเพลงของอเดลนั้นเจ็บ เจ็บเป็นปกติ แต่เพลงมันไม่ปัง ไม่เปรี้ยงป้าง ทำนองไม่ติดหู เนื้อเพลงมันไม่ฟังเป็นกลอนที่ร้อยเรียงกันแบบ single แรกของสองอัลบัมก่อน โดยรวมพอฟังรอบแรกเราว่างั้นๆ พอรอบสองรอบสามตั้งใจฟังเนื้อเพลงอย่างตั้งใจ เราว่าอืมเรื่องราวมันเจ็บดี แต่ก็ยังไม่ใช่เพลงที่แบบเปรี้ยงปร้างอะไร

...Hello from the outside

At least I can say that I've tried

To tell you I'm sorry, for breaking your heart

But it don't matter, it clearly doesn't tear you apart anymore..............

ส่วนตัวมิวสิควีดีโอเราก็ว่าเฉยๆนะคือถ่ายออกมาสวย อเดลสวยแต่มันเหมือนผู้ชายกับอเดลมันไม่มีเคมีต่อกัน หรือจริงๆมิวสิคมีแค่อเดลคนเดียวก็พอแล้ว

ลองดู Hello

แล้วมาเทียบกับ Chasing Pavement เพลงแรกที่ปล่อยจาก 19 จริงอยู่ตอนนั้น Adele ตอนนั้นยังไม่สวยเท่าตอนนี้แต่เราว่ามิวสิคมันน่าดึงดูดกว่าเยอะเลย ถ้าจำไม่ผิดเหมือนจะมี version ก่อนเวอร์ชั่นนี้ด้วย

ส่วน single แรกจาก 21 Rolling in the deep แค่ทำนองเปิดมาก็โคตรติดหูแล้วเนื้อเพลงยิ่งร้อยเรียงได้เพราะ

สรุปเราเป็นแฟนอเดลนะคะ แต่เราว่า Hello มันไม่ว้าวอะ รอ single ที่สองอาจจะชอบก็ได้นะ

 

รอรักเธอ...อีกครั้ง

รอรักเธอ...อีกครั้ง

หลังจากเขียนถึงนิยายชุดที่เรียกว่าแนวยูริที่ฮิตที่สุดแห่ง พ.ศ.๒๕๕๘ จากนักเขียนที่หลายคนกล่าวถึง “คิลิน” มาสองเล่มคือเล่มแรกกับเล่มสาม แล้วทำไมเราถึงไม่มีบล๊อกเล่มสองล่ะ  อาจจะเป็นเพราะตอนที่เราอ่านจบแล้วเราขี้เกียจ ไม่ก็เราว่าจะเขียนพอมันผ่านไปสักระยะเลยหมดไฟ  หรือแม้กระทั่งเพราะเราเป็นแฟนคลับ “แพร” ความน่ารักของพี่ทรายกับเชียมิสามารถทำลายความภักดีที่เรามีต่อแพรกับนิกกี้ได้ ฮาฮาฮา

แล้วเราก็มีโอกาสได้กลับมาอ่านเรื่อง รอรักเธอ...อีกครั้ง อีกรอบอย่างตั้งใจ เราเลยขอเขียนถึงตามแบบฉบับของเรา  มาอ่านเรื่องย่อของเรื่องนี้ใน MEB กันก่อนดีกว่านะคะ

….เมื่อหญิงคนรัก จำต้องไปปฎิบัติหน้าที่เจ้าสาว และภรรยา

ทำให้ ‘ทราย’ ต้องเดินจากมา และทำตัวหายไปจากชีวิตหล่อน

และนั่นก็นำไปสู่การตัดสินใจที่ทำให้ ‘หล่อน’ ต้องหลับใหลยาวนาน

มีเพียงปาฎิหาริย์เท่านั้น ที่จะทำให้หล่อนฟื้นคืนตื่นกลับมาได้

และเธอก็มั่นใจที่จะรอ...

นิยายเล่มนี้ไม่จำเป็นต้องอ่านอีกสองเรื่องมาก่อนก็ได้นะคะ แต่เราเชื่อว่านักอ่านคงไม่พลาดแน่นอนคนเขียนเขาเขียนดีจริงๆ นี่ไม่ได้อวย แต่ว่าจะไปเรียกค่าเขียนชมอยู่ ;-) ล้อเล่นนะคะ จะว่าไปนิยายเล่มนี้ถ้าเป็นสมัยเราวัยมัธยม นี่จะจัดเรตว่า เหมาะ ๑๕+ หรือเปล่า แต่สมัยนี้คงไม่เท่าไรเพราะนิยายมุ้งมิ้ง ที่วัยรุ่นอ่านเราว่าแรงกกว่านี้เยอะ ต่อจากนี้ไปข้อความจะเปิดเผยเนื้อเรื่องที่สำคัญนะคะถ้ายังไม่ได้อ่าน แล้วเปิดมาเจอ บล๊อกนี้โดยบังเอิญเพราะอยากทราบว่าเรื่องเป็นอย่างไรไปอ่านก่อนนะคะ แต่เราบอกได้ว่าสนุกค่ะ อ่านแล้วคุณจะอยากเป็นไม่พี่ทรายก็เชียค่ะ

SPOILED

 I

 I
 I
 I
 I
 I
 I
 I

v

รอรักเธอ...อีกครั้ง พอเรากลับมาอ่านรอบสองเราเพื่อจะทำการเขียนบล๊อกนี้ จะเรียกว่ารีวิวก็คงเรียกได้ไม่เต็มปาก เอาเป็นว่าเรียกว่าแลกเปลี่ยนความคิดเห็นละกันนะคะ เราชอบนิยายเล่มนี้มากกว่าการอ่านครั้งแรก เราตกหลุมรักทั้งทรายกับเชียมากขึ้น(แต่น้อยกว่าแพรนิดนึง) เรื่องนี้เราเข้าใจว่าด้วยที่เนื้อเรื่องจะไม่ dark เท่า รอรักเธอ มันมีอารมณ์ของคู่รักที่โตแล้ว มีแง่งอน งอแง งี่เง่า อ่านแล้วอมยิ้ม ลุ้นว่าเมื่อไรทั้งคู่จะ officially เป็นแฟนกันเสียที่อ่านอย่างมีความสุขจนถึงหน้า ๓๖๐ หลังจากนั้นถ้าไม่อยากเอาอะไรเบิร์ดกะโหลกอีตามาร์คหมอโง่ ก็ข้ามๆไปๆแล้วค่อยมาอ่านตอนจะจบอีกทีก็ได้ค่ะ

เรื่องนี้นอกจากมีความรักของคู่หลักของทรายกับเชีย ยังมีคู่ของแครี่กับมิเชลที่แสดงให้เห็นถึงปัญหาที่คู่หญิงรักหญิงจะต้องเจอ เพราะ “แต่โลกนี้...ไม่ได้มีเราแค่สองคน” จริงๆคำนี้มันใช้ได้กับทุกคู่ ช/ญ ญ/ญ ช/ช ยิ่งเกิดมาในครอบครัวใหญ่ปัญหานี้มักจะตามมาเสมอค่ะ ขนาดคู่ทรายกับเชีย พ่อแม่ทั้งคู่เสียชีวิตไปแล้ว เหลือแค่ย่าคนเดียวมันยังเป็นปัญหาใหญ่ได้

ทราย/แซนดี้ เปิดเรื่องมาเราได้คิดว่า ถ้าพี่ทรายจะมั่วขนาดนี้ เป็นผู้ชายนี่จะซื้อถุงยางให้พก หรือก่อนเป็นแฟนจะต้องขอตรวจเลือดก่อนไหมคะ มันลบภาพพี่ทรายจาก “รอรักเธอ” ไปเลย แต่พออ่านไปเราก็ตกหลุมรักพี่ทราย แม้ในบางครั้งพี่ทรายจะดูงี่เง่า ซื่อบื้อนิดๆไปบ้าง แต่ก็น่ารักในแบบพี่ทราย คนอะไร perfect เรียนเก่ง สวย รวย

เชีย/มาอิ/ไหม สาวที่ดูลึกลับนิดๆในตอนแรก คนที่สามารถหยุดทรายไว้ที่เธอได้ คนอะไรที่จะเก่งรอบรู้ไปเสียหมด เราชอบที่สุดคือเธอมีวิธีการหยุดพี่ทรายด้วยคำพูด การกระทำที่น่ารักดี อีกทั้งเธอก็มีมุมอ่อนไหว ทั้งๆที่บางทีเราก็ว่าคนที่อาศัยอยู่ตัวคนเดียวในประเทศตะวันตกแม้จะมีแค่ย่าเหลือคนเดียว ยอมแต่งงานง่ายขนาดนั้นเลย แม้จะขัดใจ แต่ก็เข้าใจได้ค่ะ เราชอบที่คุณคิลินเขียนให้เชียเป็นโรคซึมเศร้า เพราะทำให้คนอ่านได้รับรู้ว่าโรคนี้มันพร้อมเกิดขึ้นได้ตลอด แม้ดูเหมือนจะหายขาดไปแล้วแต่ถ้ามีเรื่องกระทบจิตใจอาการก็พร้อมกำเริบทุกเมื่อ นี่เราอยากเขียนบล๊อกให้ได้อย่าเชียบ้าง ไม่ใช่ในแง่คนติดตามนะคะ แต่ในแง่ความรอบรู้

มาร์ค เป็นผู้ชายที่เราคิดว่าเหมาะแก่การคบเป็นเพื่อนค่ะ จริงใจดีค่ะ แต่เราคิดว่าคุณคิลินเขียนให้มาร์คแทนผู้ชายหลายๆคนที่ชอบคิดว่าจะเปลี่ยนเลสให้มารักผู้ชายได้ ใจจริงอยากให้อีตานี่หายหัวไปจากเรื่อง แต่ก็พอให้โอเคเพราะเป็นพ่อวินเซนต์

แครี่ มีเพื่อนอย่างแครี่นั้นดีนะรักเพื่อนหวังดีกับเพื่อนแม้จะปากสว่างไปบ้างก็ตาม ซึ่งเราไม่โอเคเลยกับการเล่าเรื่องทุกอย่างของทรายให้เพื่อนคนอื่นรับรู้ด้วย เพราะ closed friend ได้หลายคน แต่ best friend อย่างมากก็ ๒ คนนะ ถ้าเราเล่าอะไรให้ best friend ไป แล้วเพื่อนสนิทคนอื่นรู้ด้วยนี่เราจะรู้สึกแย่

ท้ายนี้นิยายเรื่องนี้อ่านสนุกมากจัดว่าเป็นอยู่ในอันดับต้นๆของนิยายแนวนี้ (รสนิยมแต่ละคนไม่เหมือนกันนะคะ) การบรรยายของคุณคิลินทำให้อยากไปขี่จักรยานในลอนดอนบ้าง แม้เราว่าดูยากไปนิดเพราะการจราจรก็แทบจะไม่แตกต่างจากกรุงเทพ ถ้าขี่จักรยานไปให้อาหารเป็ดที่เคมบริจด์คงง่ายกว่าสำหรับเรา อยากไปตะเวนกินราเมนบ้าง แม้เราว่าร้านอาหารญี่ปุ่นในกรุงเทพเยอะกว่าก็ตาม

ปล.ระหว่างเขียนบล๊อกเราพยายามนึกว่าจะมีเพลงอะไรเหมาะสำหรับพี่ทรายกับเชียบ้าง นึกไปนึกมาไม่ได้สักเพลงแต่บล๊อกมันโล่ง เลยเอาเพลงนี้มาแปะ พี่ทรายจะได้บอกเชีย แล้วก็ในทางกลับกันด้วยว่า I’m officially yours. 

Towel Series by Mario Testino

ไม่ทราบว่าเคยเห็นภาพชุดนี้ที่ถ่ายโดย มาริโอ เทสทิโน ช่างภาพแฟชั่นและPortrait ชาวเปรู ชื่อดังกันไหมคะ โดยส่วนตัวเราไม่ได้รู้จักช่างภาพเยอะแต่เราว่าเขาดังสุดละ ในการถ่ายภาพบุคคล เรารู้จักเขาจากภาพถ่ายของเจ้าหญิงไดอาน่า คือช่วงนั้นบ้าเจ้าหญิงไดค่ะ มีหนังสือรูปภาพขนมาจากอังกฤษเพียบ   ที่จริงต้องบอกว่าบ้าเจ้าชาย  วิลเลี่ยมมากกว่า ตอนเด็กๆหล่อมาก ทำไมโตมาดันหล่อสู้เจ้าชายแฮรี่ไม่ได้ อ้อ รูปราชวงศ์อังกฤษ ที่ให้เผยแพร่กับสื่อมวลชนอย่างเป็นทางการก็ถ่ายโดยมาริโอนะคะ    รูปล่าสุดที่จำได้ก็ภาพครอบครัวของเจ้าชายวิลเลี่ยมค่ะ  เจ้าชายจอร์จทะเล้นน่ารักเลย

ส่วนภาพชุดผ้าเช็ดตัวนี้ ภาพล่าสุดเป็นคริสติน สจ๊วต เป็นภาพที่ 91 ข้อดีของการเป็นช่างภาพชื่อดัง คือถ่ายแต่นางแบบ นักแสดง เซเลป ชื่อดังตลอด เราขอเลือกภาพมาให้ดูบางภาพนะคะ โดยส่วนตัวเห็นว่ารูปขาวดำจะสวยดึงดูดกว่ารูปสี ส่วนรูปสีที่เลือกมาเพราะความชอบส่วนตัวล้วนๆค่ะ

มีทั้ง Cara กับ Freja จะไม่เอามาลงก็กระไรอยู่

ส่วนถ้าใครดูงานแล้วคุ้นๆงานมาริโอ เป็นคนถ่ายภาพแคมเปญโฆษณาให้เบอเบอร์รี่ค่ะ วีดีโอเบื้องหลังการถ่ายทำจะเห็นหน้าเฮียแกแว๊บไปแว๊บมา

นักแสดงสาวที่ร้องเพลงเก่งด้วย

วันนี้ยุ่งแต่เช้าค่ะ ตอนนี้งานซาไปเยอะ อยู่ในอารมณ์อยากเขียนเลยมาเขียนบล๊อกตอนเที่ยงซะเลย ระหว่างรอสลัดเป็นอาหารกลางวัน หัวข้อวันนี้คิดได้ตั้งแต่เมื่อวานตอนดู The Voice ซึ่งเราว่าปีนี้ไม่สนุกเอาเสียเลย เราหาข้อมูลไว้ตั้งแต่เมื่อวานแล้วคิดว่าคงใช้เวลาไม่นานเท่าไรก่อนมีงานต้องทำอีก

ไม่รู้ว่าคุณๆจะสังเกตกันไหมคะว่า ดารา นักร้อง ต่างประเทศเขามันจะแยกกันโดยชัดเจนไม่เหมือนเมืองไทยที่โดยมากดารานักร้องมักจะทำได้ทุกอย่างแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาเหล่านั้นจะทำได้ดี เราเลยหันกลับไปมองว่ามีดาราต่างประเทศคนไหนบ้างที่เป็นนักแสดงแล้วยังร้องเพลงได้ดีอย่างเหลือเชื่อ

Gwyneth Paltrow แม้เจ๊แกจะโดนจิกกัดว่าแสดงหนังไม่ได้ดีเด่อะไร ได้ดีเพราะพ่อเป็นผู้กำกับ หลายๆคนไม่ชอบเธอ แต่สำหรับเรา ชอบเธอนะ แถมเธอยังร้องเพลงได้ดีอีกด้วย เพลงเธอที่ร้องประกอบหนังก็เป็นเพลงที่เราโคตรชอบ คือชอบหลายเพลงนะ แต่อยากนำเสนอเพลงนี้ Forget You ที่ทำให้เธอได้ขึ้นไปแสดงกับ Ceelo บนเวทีแกรมมี่ด้วย แต่จะเด็ดกว่านี้ถ้าเธอไม่ได้เปลี่ยนเนื้อเพลงจาก Fuck You เป็น Forget You

Kate Winslet อีกหนึ่งดาราสาวมากฝีมือ ถ้าใครเคยดูเธอตั้งแต่หนังสมัย Sense and Sensibility คงเคยได้ยินเพลงที่เธอร้องในหนังแต่วันนี้เราขอนำเสนอน่าจะเป็นเพลงที่ดังที่สุดของเธอ เพราะมี MV ประกอบออกมาด้วย แถมเนื้อเพลงเราก็ชอบมากด้วย What If

Emilia Clarke จาก Game of Thrones ใครเป็นแฟน GOT ไม่รู้ว่ารู้ไหม Daenerys Targaryen นั้นมากความสามารถจริงๆ ลองฟังเพลงคลิปสั้นๆที่เธอแสดงในวัน Red Nose Day เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ฟังแค่นี้ก็รู้ว่าเสียงดีเนอะ จริงๆมีคลิปอื่นแต่เราว่าเพลงนี้น่าสนใจกว่า

Zooey Deschanel จริงๆเราชอบพี่สาวเธอมากกว่านะ 555 แถมเธอก็น่าจะเรียกว่าเป็นนักร้องเต็มตัวได้เหมือนกันเพราะมีวงดูโอ้ของตัวเอง ชื่อ She & Him ขายได้เป็นล้านอัลบัมอยู่ แต่สำหรับเธอเราเห็นหน้าทีไรก็มักจะนึกถึงหนังเรื่อง (500) Days of Summer มากกว่า

Sara Ramirez อีกหนึ่งนักแสดงมากความสามารถที่มีอัลบัมขายเป็นของตัวเอง หลายคนรู้และอีกหลายๆคนไม่รู้ว่าเธอเป็นนักแสดงละครเวทีมากความสามารถคนหนึ่ง และโดยส่วนมากนักแสดงละครเวทีมักจะร้องเพลงเพราะ เรานี่โตรชอบเพลงเธอตอนที่ Grey’s Anatomy ทำ episode เป็น musical เพลาะเพลงที่ร้องก็เป็นเพลงที่เราชอบ

มีอีกหลายคนอะ ไว้ต่อภาค ๒  ดีกว่าเนอะ วันนี้ไปทำงานต่อละค่ะ