Friday 25 December 2015

GOD JUL... ทำอะไรดีวันหยุด




god jul ค่ะ เราว่าหลายๆท่านคงงงว่ามันแปลว่าอะไร ถ้าจะไล่ไปถาม google เอาก็คงจะดูใจร้าย god jul = Merry Christmas ในภาษานอร์วีเจี้ยน เดนมาร์ก อาจจะสวีดิชด้วย ไหนๆเรามันพวกแปลกแยกไม่ชอบเหมือนใครเราเลยต้องพูดไม่เหมือนใคร

วันหยุดนี้ถ้าไม่มีอะไรทำ ไม่อยากไปแย่งกันกินแย่งกันเที่ยว รถติดบนถนน เรามีกิจกรรมแน่นำค่ะ นั่นก็คือ

๑.อ่านหนังสือสำหรับเรานิยายยูริคงไม่ต้องแนะนำกันแล้วเนอะ ส่วนตัวขอแนะนำหนังสือของ ป๋อมแป๋ม พิธีกร รายการ “เทยเที่ยวไทย” ชื่อ มะงุมมะงาหรา คำนี้เราว่าหลายๆคนอาจะลืมหรือไม่ก็อาจจะไม่รู้จัก อ่านแล้วขำมากคลายเครียดดีนะคะ เราว่าคุณต้องหัวเราะแบบน้ำหูน้ำตาไหลไม่บทใดก็บทหนึ่งแน่ๆค่ะ

๒.ดูซีรี่ส์ญี่ปุ่นค่ะ โดยส่วนตัวเราเป็นแฟนซีรี่ส์ญี่ปุ่นตั้งแต่สมัยมัธยม ตอนนี้ก็ติดตามทาง ThaiPBS โดยตลอด ยิ่งซีรี่ส์ของ อามามิ ยูกิ แต่เราเพิ่งพบเวปหนึ่งมีแปลซีรี่ส์เก่าๆด้วย เลยอยากแนะนะค่ะ ที่สำคัญถ้าใครติดตามข่าวสารว่า Fuji TV ประกาศ ดราม่าเลสเบี้ยเรื่องแรกของญี่ปุ่น อย่าง Transit Girls เวปนี้ก็มีแปลแบบรวดเร็ว คิดว่าทางคุณ PONDLOSO อาจจะมีแปลผิดบ้างแต่ใจความสำคัญคงเข้าใจหมด เราคนดูก็ต้องของคุณคนแปลมากๆเลยค่ะ ที่สำคัญโหลดแต่ละตอนได้เร็วมากๆไม่เกิน ๕ นาทีก็ดูได้แล้ว เวปนี้ต้องสมัครสมาชิกแล้ว กด THANKS ด้วยนะคะถึงจะมี LINK ขึ้นมาให้โหลด ถ้าเป็นแฟนซีรี่ส์กับหนังญี่ปุ่นเสียเวลาไม่เกิน ๒ นาที ก็ดูได้แล้วค่ะ ส่วนเรื่องที่เราแนะนำ มีทั้งเก่าและใหม่ ทั้งนี้ทั้งนั้นเรายังดูไม่หมดนะคะ แค่ดูว่าเรื่องไหนน่าดูก็กดโหลดๆไว้นั่งดูวันหยุดค่ะ

-Transit Girls ไหนๆเขาก็เคลมว่าเป็นเลสเบี้ยนดราม่าเรื่องแรกของญี่ปุ่นเราจะพลาดได้ไงใช่ไหมคะ อาทิตย์นี้น่าจะฉายตอนสุดท้ายจบแฮปปี้ไหมไม่รู้ แต่ดูนางเอกก็พอแล้วเนอะ แนะนำน้อง ยุย Yui ค่ะ สูงชะลูด  น่ารัก

-Overtime ต่อเวลารัก เรื่องนี้แนะนำเพราะ Makiko Esumi เลยที่เดียว

-Bijo ka Yajuu – เก่งนักรักซะเลย เรื่องนี้เกี่ยวกับหญิงสวยเก่งอีกคน Nanako Matsushima เรื่องนี้เคยฉายทาง ITV นะคะ คือเจ้แกสวยเคลิ้มจริงๆ อ้อมี ยุกาว่าเซ็นเซ ด้วย

-Lunch No Akko-chan มื้อกลางวันของอัคโกะ (นี่แปลเอาเองนะคะ) เรื่องนี้มันเปิดมาเรื่อยๆแต่เหมาะกับวัยทำงานดีนะคะแง่มุมบางอย่าง ที่สำคัญนางเอกน่ารักอีกแล้ว

-Ramen Daisuki Koizumi san โคอิสึมิซังกับราเม็งชามโปรด เรื่องนี้สร้างมาจากการ์ตูนค่ะ ไม่แนะนำให้ดูตอนมืดๆเพราะราเมนน่ากินมาก

ซีรี่ส์ที่แนะนำทุกเรื่องมีผู้หญิงเป็นนักแสดงเด่นกว่าผู้ชายค่ะ ส่วนหนึ่งที่เราชอบซีรี่ส์ญี่ปุ่นคือนักแสดงหญิงเป็นตัวหลักได้ เนื้อเรื่องกระชับฉับไว มีคติอะไรเล็กๆน้อยๆในซีรี่ส์เสมอๆ

ถ้าสนใจก็ เวปนี้ค่ะ http://dramajo.com/index.php?board=8.0 กดเลือกดูกันตามจริตได้เลยค่ะ

Thursday 10 December 2015

Tint, Shade & Tone โดย KTY



Tint, Shade & Tone

กลับมาแนะนำนิยายตามอารมณ์ จขบ กันอีกครั้ง เรื่องนี้เราน่าจะเคยแนะนำว่าให้ลองไปอ่านกันได้ใน ชุมชนนักเขียน/นักอ่าน ของ comeon ซึ่งตอนนี้น้องคนเขียนเขียนจบแล้วเอามาลงขายใน MEB ให้นักอ่านได้ซื้อหากันแล้ว ส่วนใครอยากได้ครอบครองเป็นเล่มเห็นผู้เขียนว่าจะส่งสำนักพิมพ์ เพราะไม่มีเวลาจัดทำเอง เราคิดว่าคงส่งให้ สนพ.สะพานล่ะมั้งคะ เพราะพิมพ์ของน้อง KTY มา 2 เรื่องแล้ว ส่วนใครยังไม่ได้อ่านแนะนำว่าไปอ่านก่อนค่ะ ถ้าชอบก็สนับสนุนน้องเขากันนะคะ ซื้อใน MEB ก็ดีค่ะน้องเขาได้รับเงินกันไปแบบเต็มๆ อีกอย่างน้อง KTY ใช้ภาษาดี จัดหน้าโอเค ไม่ค่อยมีคำผิด ไม่จำเป็นต้องมีการตรวจทานคำผิดเท่าไร แต่ใครอยากเก็บเป็นเล่มก็รอน้องเขาแจ้งเลยค่ะว่าจะพิมพ์ที่ไหน แต่เราเป็นแฟน MEB ค่ะแม้ตอนนี้ application จะรวนไปบ้าง นิยายยูริใน account นี่เต็มสตรีมสุดๆ

เรื่องย่อ ใน MEB
เรื่องราวในชีวิตประจำวันของบุคคลต่างวัยที่ค่อย ๆ ถักทอความสัมพันธ์ขึ้นทีละนิดจนอบอุ่นไปทั้งหัวใจ โดยบอกเล่าผ่านเฉดสีในแต่ละตอน
"แล้วคุณล่ะ...ชอบสีอะไร?

ช่างเป็นเรื่องย่อที่น้อยนิดแต่เมื่อเริ่มอ่านแล้วคุณจะหลงรัก น้านิด, น้องหนึ่ง และคุณนายภรรตรีผู้เป็นแม่ อย่างเรานี่พูดได้เต็มปากว่าเรื่องนี้ตัวละครที่เราชอบที่สุดเป็นคุณแม่ค่ะ เรื่องจะค่อยๆคลายปมความซับซ้อนของครอบครัวนี้ คนเขียนสามารถบรรยายให้เราหลงรักตัวละครได้ทุกตัว สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของ KTY คือ จะมีตัวละคร มึนๆอึนๆงงๆ ใช้คำพูดได้งงบ้าง แต่มีสไตล์เฉพาะตัวจะเรียกว่าอินดี้ได้ไหมเนี่ย แถมบทรักก็ไม่ได้แบบฮาร์ดคอร์รุนแรง แม้อ่านแล้วตอนที่น้านิดกับน้องหนึ่งรู้ใจกันก็ต้องเข้าใจว่าข้าวใหม่ปลามันจะมีเขียนให้คนอ่านจินตนาการได้ตลอดก็ตาม หุหุ

เราชอบที่เขาเขียนกรณีที่แม่ท้องในวัยเรียนแต่ก็เรียนจนจบ พยายามทำงานหาเงินเลี้ยงลูกคนเดียว ไม่ได้ไปขอความช่วยเหลือจากผู้ชายที่หลอกล่อให้เชื่อใจจนยอมมีอะไรด้วย แล้วเมื่อเกิดตั้งท้องขึ้นมาก็ไล่ให้ไปทำแท้ง มันแสดงถึงความแกร่ง จำเป็นต้องเข้มแข็งเพื่อทั้งตัวเอง ครอบครัว และลูก แต่ข้อเสียเราว่าคุณคนเขียนไม่น่าจะต้องดึงตัวละครเรื่องอื่นมาโยงกันไปหมดก็ได้ค่ะ เพราะพอโยงกันถ้าเขียนได้ไม่ละเอียดพอมันจะมีจุดบกพร่องเรื่องเวลาและอายุให้คนอ่านเห็น เกิดสงสัยเอาได้

เมื่ออ่านแล้วคุณอาจจะชอบความซื่อจนเซ่อในบางเรื่องของน้องหนึ่ง หรือความเจ้าเล่ห์ของน้านิด แต่ที่ชอบที่สุดความรักที่คุณนายแม่มีต่อลูกสาว รู้เท่าทันน้านิด แต่จะหาแม่อย่างนี้ได้ที่ไหนที่ไม่ใช่ในนิยายคะ อีกอย่างน้อง KTY ตั้งชื่อตัวละครเพราะตลอดอย่างเรื่องนี้ มธุรา ภฤดา ภรรตรี อ่านเถอะถ้ายังไม่แน่ใจว่าอ่านดีไหม อ่านสบายๆไปกับความช่างเปรียบเทียบของคนเขียน เรื่องไม่หนักเลยอ่านแล้วยิ้ม แต่ถ้าชอบนิยายหนักหน่อยก็ต้องไปซบอก คิลิน ไม่ก็ชอบแบบหนักโคตรก็ต้อง รักใคร่ ใคร่ครวญ ของ อธิฌลา

ลากันไปง่ายด้วยเพลงที่ไม่เข้ากับเนื้อหาบล๊อกและเนื้อหานิยายเลย แต่เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา Petite เอามาร้องใน The Voice Thailand เราว่าต้นฉบับเจ๋งกว่านะ

Monday 7 December 2015

Gayby Baby



Gayby Baby

ได้มีโอกาสดูหนังสารคดีจากออสเตรเลียเรื่อง “Gayby Baby” ถ้าดูแต่ชื่อเรื่องหรือเห็นคนที่มาโปรโมต อาจจะคิดว่าเป็นหนังเพื่อสิทธิของชาว LGBT แต่เราว่าถ้าได้ไปดูจริงเราว่ามองไปในประเด็นของเด็ก ไปดูความบริสุทธิ์ของเด็กน่าสนใจกว่าเยอะเลยค่ะ เด็กเหล่านี้ถูกเลี้ยงมาด้วยความรัก ความมีวินัย เลี้ยงดูด้วยเหตุผล ดูแล้วสะท้อนถึงเด็กในสังคมไทยได้
ก่อนจะพูดถึงความดีงามของสารคดีเรื่องนี้ เราขอพูดถึงว่ารู้สึกดีใจที่มีคนไปดูเยอะพอสมควร แม้จะมีรอบเดียวในวันธรรมดา จากการคาดคะเนคร่าวๆคงมีคนดูประมาณเกินครึ่งโรงเล็กน้อย ที่นั่งแถวบนสุดก็เต็มทุกที่นั่ง อยากให้คนไทยหันมาดูหนังนอกกระแส หนังสารคดีกันเยอะๆค่ะ ทางโรงหนังจะได้เอาหนังดีๆไปฉายที่โรงอื่นบ้าง ไม่ใช่ต้องมาที่ CTW เท่านั้น หลายคนคงไม่สะดวก แถมหนังฉายรอบดึกกว่าหนังจะจบการเดินทางกลับบ้านสำหรับคนไม่มีรถยนต์ส่วนตัวก็ลำบากแน่นอนค่ะ

Gayby Baby สารคดีที่ตามถ่ายทำเด็ก 4 คน ได้แก่ Gus, Ebony, Matt และ Graham คือทั้ง 4 คนนี้เป็นเมนหลัก แต่ยังมีเด็กคนอื่นๆอีก เด็กทั้ง 4 นี้อยู่อาศัยและเลี้ยงดูในครอบครัว GAY/Lesbian คู่ชาย/ชาย และ คู่หญิง/หญิง ใช้เวลาในการถ่ายทำทั้งหมด 3 ปีครึ่ง แถมหนังเรื่องนี้กำกับโดย Maya Newell เธอก็เป็นหนึ่งในคนที่ถูกเลี้ยงดูมาโดยคู่รักชาวเลสเบี้ยน  โดยที่เธอเห็นว่ามีการถกเถียงกันอย่างหนักในออสเตรเลียว่าจะให้มีการแต่งงานระหว่างเพศเดียวกันอย่างถูกกฎหมายไหม โดยการถกเถียงได้มีเสียงสำคัญที่ตกสำรวจไป คือ เสียงของเด็กเหล่านี้ Maya จึงอยากนำเสนอให้คนอื่นได้รับรู้ด้วย

Gus เด็กชายผู้ชื่นชอบมวยปล้ำมากผู้มีหน้ากาก Rey Mysterio กัสอาศัยอยู่กับแม่ทั้งสองคนกับน้องสาวชื่อรอรี่ย์ กัสบอกว่าเขาไม่เข้าใจหรอกว่าอะไรคือ “แมน แมน ความเป็นชายนั้นเป็นอย่างไรกันแน่” กัสบอกว่าเมื่อก่อนเขาชอบเล่นอะไรฟุ้งฟริ้งก่อนที่จะมาบ้ามวยปล้ำ แต่กัสแสดงความเป็นสุภาพบุรุษตัวน้อยให้เราเห็น หลังจากที่แม่ห้ามไม่ให้เล่นมวยปล้ำกับน้องสาวแรงๆ ห้ามทำรัดคอน้อง แทนที่จะต่อยกันให้จั๊กกะจี้น้องแทน แล้วกัสก็ทำตามเพื่อจะได้เล่นกับน้องได้ แสดงถึงความรักน้องยอม compromise คือนึกถึงตัวเองสมัยเด็กๆเล่นมวยปล้ำกับญาตินี่ไม่มียอมกันหรอก ไม่ใครก็ใครได้ร้องไห้ จนต้องถูกตีกันเรียงตัว  เราชอบที่แม่บอกกัสว่าคนขายไม่มีสิทธิ์ห้ามลองลิปสติก กัสไม่ได้เอามาเล่นเละเทะ กัสเอาตัวทดลองมาทาปากแต่คนขายบอกว่าอย่าเอามาเล่น แม้คนขายจะพูดลงท้ายด้วยคำว่า PLEASE ก็ตาม แสดงว่าคนเรายังถูกครอบงำว่าลิปสติกนั้นเป็นของผู้หญิงผู้ชายไม่ควรใช้

Ebony เด็กสาวผู้รักการร้องเพลง อาศัยอยู่กับแม่ๆและน้องชายทั้ง 2 อีโบนี่กำลังพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะสอบเข้าโรงเรียน New High เพราะแม่เธอบอกว่าถ้าเข้าโรงเรียนนี้จะไม่มีใครสนใจว่าบ้านเธอนั้นมีแม่ 2 คน ไม่เหมือนโรงเรียนแถวบ้าน แม่เธอพยายามอย่างมากส่งเธอเรียนพิเศษฝึกร้องเพลง บ้านเธอไม่ได้มีเงิน เพราะน้องชายคนเล็กเป็นโรคลมบ้าหมู (ซึ่งไม่รู้ว่าสรุปเป็นโรคอะไรกันแน่) ต้องมีแม่คนหนึ่งคอยดูน้องตลอดเวลาจึงออกไปทำงานไม่ได้ แล้วการที่เธอไปเรียนร้องเพลงนี้ทำให้น้องชายคนรองไม่ได้ไปเรียนคาราเต้ เพราะแม่เอาเงินมาลงเดิมพันกับเธอหมด เราว่าครอบครัวนี้ก็แสดงถึงความพยายามของผู้ปกครองที่อยากให้ลูกได้สิ่งที่ดีที่สุด ก็เหมือนพ่อแม่คนไทยนั่นแหละได้เรียนโรงเรียนดีเพื่อนดีหวังว่าผลลัพธ์ภายหน้าก็จะดีไปด้วย แต่สิ่งที่เราไม่ค่อยถูกใจครอบครัวนี้คือ จะมีลูกเยอะไปกันทำไมคะมีแล้วต้อง struggle ในการเลี้ยงดู คิดดูนี่ขนาดอยู่ในประเทศที่รัฐให้เงินค่าเลี้ยงดูยังลำบาก มีลูกคนสองคนก็น่าจะพอแล้ว นี่มี 3 คน (ในหนัง แถมพอมาหาข้อมูลตอนนี้มี 4 คนค่ะ) ท้ายนี้ก็เป็นแค่ความเห็นส่วนตัวเราเฉยๆนะคะ
Matt หนุ่มน้อยผู้มีความคิด อาศัยอยู่กับแม่กับแฟนของแม่ พ่อกับแม่ของแมทหย่ากัน ชื่นชมที่เด็กอย่างแมทเข้าใจไม่เกลียดแฟนของแม่ เขาบอกว่ารู้สึกขอบคุณที่ Louise ดูแลทำอาหารให้เขาทำให้มากกว่าญาติเสียอีก แมทยังมีความคิดเรื่องศาสนาเขาไม่เข้าใจแม่ว่าจะไปโบสถ์ทุกวันอาทิตย์ทำไม ทั้งๆที่พระเจ้าบอกว่ารักร่วมเพศนั้นผิด แต่แมทก็ยอมที่จะศึกษาไบเบิ้ลก่อนตัดสินใจว่าจะนับถือศาสนาไหม แมทและครอบครัวมีโอกาสได้เจอนายกรัฐมนตรี(ขนะนั้น) จูเลีย กิลลาร์ด เพื่อจะได้พูดคุยกันเรื่องกฎหมายให้คนเพศเดียวกันแต่งงานกันอย่างถูกกฎหมาย

Graham เด็กชายผู้อาศัยอยู่กับพ่อ/พ่อและพี่ชาย แกรห์มมีปัญหาเรื่องการอ่าน เขาพูดไม่ได้เพราะบ้านเขาใช้ภาษามือ จนเมื่ออายุ 5 ขวบพ่อเขารับเขามาเลี้ยงดูจาก Foster House ถึงได้มีการฝึกพูดอ่านเขียนอย่างจริงจัง เราชอบที่พ่อเขามีความพยายามและใส่ใจ คอยให้กำลังใจช่วยสอนการบ้านทุกวัน บ้านนี้แสดงให้เห็นว่าไม่ใช่ทุกที่ในโลกจะเปิดประตูยอมรับคนรักเพศเดียวกัน พ่อเขาต้องย้ายไปทำงานที่ฟิจิ เด็กๆไม่สามารถบอกใครๆได้ว่าเขามีพ่อ 2 คน บอกได้แต่ว่าอีกคนเป็นคนดูแลเด็กๆ เพราะพ่อๆไม่รู้ว่าสังคมจะยอมรับได้ขนาดไหน

ดูหนังเรื่องนี้แล้วได้อะไร ได้รับรู้ว่าเด็กไม่ว่าจะเลี้ยงด้วยครอบครัวคู่รักช/ญ ช/ช ญ/ญ ก็เป็นคนดี น่ารัก มีเหตุผลได้ เพียงแค่คนที่เลี้ยงเป็นคนดีเลี้ยงพวกเขาอย่างดี ในทางกลับกันถ้าคนเลี้ยงเลี้ยงไม่ดี เลี้ยงให้เป็นเด็กเกเร เด็กก็เป็นผ้าขาวผู้พร้อมที่จะไม่ดีเพราะซึมซับสิ่งไม่ดีจากคนเลี้ยงมาก ฉะนั้นอย่าเอาคำว่าเด็กมาเป็นข้ออ้างในการไม่ให้การแต่งงานของคู่รักเพศเดียวกันอย่างถูกกฏหมายเกิดขึ้น เพียงเพราะว่ากลัวว่าเด็กจะโตมาอย่างไร ไอ้พวกเด็กเลวๆเหลือขอเต็มไปหมดนี่ไม่ได้เกิดจากครอบครัวชาย/หญิงที่คนมองว่าปกติหรือ
ท้ายนี้ใครอยากดูรูปเด็กๆที่โตแล้วสามารถดูได้ตาม Link เลยค่ะ เสียดายไม่มีรูป แกรห์ม
ส่วนใครสนใจอยากดูเห็นว่าทาง Documentary Club จะทำ DVDs ออกมาประมาณเดือนกุมภาพันธ์นะคะ