Wednesday 20 June 2012

หัดเขียน 7


หลังจากงมโข่งพยายามหาทางจัดบล๊อกมา 1 ชั่วโมงแล้วไม่ประสบความสำเร็จก็เลยตัดสินใจว่าอัพนิยายดีกว่า 

แก้ไขตามคำแนะนำแล้วนะคะ แต่คงยังไม่หมด รีบปิดคอมไปดูกบนอกกะลาก่อนค่ะ 555 รายการโปรด


บทที่ ๖

หลังจากที่ได้ปรึกษางานกันที่สำนักงาน 2 วันต่อมา เบญจ์ได้ส่ง e-mail มารายงานความคืบหน้าในการติดต่อซื้อลิขสิทธิ์หนังสือ

Subject: ความคืบหน้าการขอซื้อลิขสิทธิ์จาก Anne Holt ค่ะ

คุณณีนนาราคะ ดิฉันส่งเมลไปคุยกับทางเอเจนท์ของ Anne Holt แล้วค่ะ ทางนั้นก็ขอเอกสารแนะนำตัวของสำนักพิมพ์คุณน่ะค่ะ แต่ดิฉันคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ในการขอซื้อลิขสิทธิ์ในครั้งนี้

นับถือ
เบญจ์

Subject:Re ความคืบหน้าการขอซื้อลิขสิทธิ์จาก Anne Holt ค่ะ

ได้ส่ง file pdf เกี่ยวกับสำนักพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษไปให้แล้วนะคะ

นับถือ
ณีนนารา

อีกหนึ่งอาทิตย์ต่อมาคุณเบญจ์ได้ส่งเมลทางเอเจนท์ของ Anne Holt มาให้ ซึ่งไม่ได้มีปัญหาอะไร เบญจ์เข้ามาที่สำนักงานมาคุยรายละเอียดต่างๆกับวรชญาและณีนนารา ซึ่งในที่สุดการซื้อลิขสิทธิ์ก็จบลงด้วยดี ตอนนี้ก็เหลือแค่การแปลจากเบญจ์อย่างเดียว

หลังจากที่ได้ลิขสิทธิ์เรียบร้อย เบญจ์ก็ส่งสำนวนการแปลมาให้ณีนนาราได้อ่านทาง e-mail  เธอก็ตอบกลับไปพร้อมแนะนำว่าคำไหนควรเปลี่ยน น่าจะใช้คำนี้แทนจะได้สละสลวยยิ่งขึ้น  โดยส่วนมากเบญจ์จะเข้ามาปรึกษาณีนนาราที่ออฟฟิศอาทิตย์ละ 1 ครั้ง ซึ่งณีนนาราก็บอกไปว่าถ้าไม่สะดวกก็ส่งเมลมาให้อ่านก็ได้ จะได้ไม่ต้องลำบากฝ่าอากาศร้อนๆมา เพราะเวลามาถึงออฟฟิศทีไร เบญจ์หน้าจะแดงมากพร้อมเหงื่อแฉะเต็มหลัง ทุกๆครั้งที่เบญจ์เข้ามาปรึกษางานที่ออฟฟิศมักจะชวนณีนนาราไปดื่มเครื่องดื่ม และอาหารว่างร้านที่พวกเธอเคยไปด้วยกัน โดยเบญจ์บอกว่าเธอชอบความเงียบสงบของ คาเฟ่เล็กๆแห่งนั้น ขณะที่ทั้งสองต่างฝ่ายต่างทำงานกันไปในความเงียบสงบระหว่างพวกเธอเป็นความสงบที่ไม่อึดอัดอีกแล้ว เบญจ์ก็แปลงาน ส่วนณีนนาราก็ทำงานของเธอไป พอเย็นก่อนถึงเวลาเลิกงานของพนักงานบริษัท เธอทั้งสองก็ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปเพราะจะได้ไม่ต้องผจญคลื่นมนุษย์ทำงานที่ต่างเร่งรีบกลับบ้าน โดยส่วนมากณีนนาราจะไปเดินที่สวนเล็กๆก่อนกลับคอนโด เป็นกิจกรรมที่เธอชอบไปนั่งมองผู้คนเมื่อมีเวลาและโอกาส

เบญจ์มีความชื่นชอบในนิสัยใจคอของณีนนารา เนื่องด้วยณีนนาราเป็นคนที่มีแนวคิดเป็นของตัวเองอย่างสูง ดูเป็นคนสงบไม่ชอบไปไหนหรือทำอะไรที่แปลกไปจากกิจวัตรประจำของเธอ  เบญจ์อยากทำความรู้จักในตัวตนของณีนนารามากกว่านี้แต่เบญจ์ก็ไม่กล้าแสดงท่าทีออกไปมาก ณีนนาราจะยอมรับการเป็นคนที่รักเพศเดียวกันได้มากขนาดไหน ณีนนาราจะมีแฟนแล้วหรือยัง เพราะณีนนาราไม่เคยที่จะพูดคุยเรื่องส่วนตัวเลยสักครั้ง

วันนี้เป็นวันที่เบญจ์จะเข้ามาปรึกษาและรายงานความคืบหน้าในการแปลงานต่อณีนนารา

“สวัสดีค่ะคุณณีน เบญจ์มาเช้าไปหรือเปล่า”  เบญจ์มาเคาะห้องทำงานณีนนาราตั้งแต่ยังไม่สิบโมงเช้า
“ไม่ค่ะ งานที่คุณเบญจ์ส่งมาให้อ่านเมื่อวันก่อนแทบจะไม่มีอะไรต้องแก้นะคะ เรียบร้อยดีค่ะ”

“ดีจังจะได้ไม่ต้องรบกวนแก้ไข คุณณีนจะได้มีเวลาทำงานอื่น ว่าแต่วันนี้คุณณีนมีงานอะไรต่อตอนบ่ายไหมคะ เบญจ์จะขอพาไปเลี้ยงข้าวขอบคุณที่คอยให้คำปรึกษาค่ะ”

“ไม่มีงานอะไรตอนบ่ายค่ะ แต่ตอนสิบเอ็ดโมงมีนัดกับนักเขียนค่ะ ถ้าคุณเบญจ์จะเลี้ยงจริงๆ ณีนขอเป็นช่วงบ่ายสองได้ไหมคะจะได้ออกจากสำนักงานทีเดียวเพราะตอนค่ำณีนมีนัดต่อค่ะ กินข้าวเที่ยงช้าหน่อยคุณเบญจ์จะสะดวกไหมคะ”

“สบายมากค่ะ แต่เบญจ์ไม่รู้จักร้านอาหารอร่อยให้คุณณีนเลือกร้านเลยนะคะ เดี๋ยวเบญจ์ไปนั่งทำงานรอที่ห้องค้นคว้านะคะ”  (*คนเขียนจินตนาการเองว่า สำนักงานของสำนักพิมพ์น่าจะมีห้องสำหรับค้นคว้าที่มีพจนานุกรม หนังสือ reference ต่างๆมากมายค่ะ)

“ค่ะ แต่ถ้าคุณเบญจ์หิวก็ไปหาอะไรรองท้องก่อนก็ได้นะคะ”

******************************************************

เวลาก่อนบ่ายสองโมงเล็กน้อย ณ ห้องค้นคว้า

“คุณเบญจ์คะ งานณีนเสร็จแล้วค่ะ”

“ค่ะ พร้อมแล้วค่ะว่าแต่เราจะไปกินอะไรกันดีคะ”

“ไปกินข้าวแถวๆสวนรื่นกันไหมคะ หรือคุณเบญจ์มีอาหารอะไรที่อยากกินเป็นพิเศษรึเปล่า”

“เบญจ์ยังไงก็ได้ ขอแค่เป็นอาหารไทยหรือไม่ก็อาหารทางเอเชียค่ะ”

“งั้นไปกันเลยค่ะ นั่งแท๊กซี่ไปนะคะ”
ที่ร้านอาหาร

“เบญจ์ให้คุณณีนสั่งอาหารให้นะคะ เพราะเบญจ์ไม่รู้ว่าที่นี่อะไรเด่น”

“จะดีหรือคะ กลัวจะไม่ถูกปาก”

“ดีแน่นอนค่ะ ขอแค่ไม่เผ็ดมากค่ะ”

“ตกลงค่ะ” หลังจากณีนนาราใช้เวลาไม่นานในการเลือกอาหารเธอก็เลือกอาหารกลางๆที่เธอคิดว่าเบญจ์น่าจะกินได้มาสามอย่าง ร้านนี้เป็นร้านประจำของเธอกับเพื่อนๆ “งั้นเอาผัดผักรวม, ลาบคั่วทอด แล้วก็ปลากะพงทอดสมุนไพร จะได้มีที่ว่างสำหรับขนมหวานนะคะ ร้านนี้ขนมหวานอร่อยค่ะ”

ระหว่างทานอาหารเบญจ์ก็พยายามชักชวนณีนนาราพูดคุย เพื่อจะได้ทำความรู้จักกันมากขึ้น

“คุณณีน ทำงานที่มูราซากิมานานแล้วเหรอคะ”

“ก็ตั้งแต่ก่อตั้งเลยค่ะ คือคุณวีชวนณีนมาเป็นหุ้นส่วนค่ะ”

“โห เป็นหุ้นส่วนก็ไม่บอกกันเลยนะคะ ดีนะที่เบญจ์ไม่ได้นินทาอะไรคุณวีไป”  เบญจ์พูดแซว

“แค่หุ้นส่วนเล็กๆเองค่ะ”

“ก็ดีกว่าเบญจ์แน่ๆค่ะ เบญจ์สิคะนอกจากคอนโดแล้วก็เงินเก็บนิดหน่อยก็ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยค่ะ คุณณีนเรียนจบจากอังกฤษหรือเปล่าคะ เห็นไปคาเฟ่ทีไรคุณณีนสั่งแต่ชากับ scone 

“ใช่ค่ะ คุณเบญจ์ช่างสังเกตจังค่ะ ณีนไปอังกฤษตอนจบ ม.5 ค่ะ เสียเวลาเรียน A levels อยู่ 2 ปี แล้วก็เรียนตรี-โท รวดเดียวค่ะ คุณเบญจ์ล่ะคะไปนอร์เวย์ตั้งแต่เมื่อไหร่”
เบญจ์ไม่อยากบอกว่าเธอไม่แค่สังเกตแค่การดื่มชา แต่เธอยังจำได้ว่า ณีนนาราจะสั่งชาแค่ 2 อย่างคือ Vanilla Rooibos กับ English Breakfast เท่านั้น  “เบญจ์ไปนอร์เวย์ตอน ม.5 ค่ะ สอบชิงทุนคล้าย AFS ไป ความจริงอยากไปอเมริกามากกว่าแต่ แม่ไม่ให้ค่ะบอกว่าประเทศแถบสแกนนั้นปลอดภัยกว่า ที่สำคัญใกล้ฝรั่งเศสด้วยค่ะ บูรณ์พี่ชายเบญจ์เขาได้ทุน กพ เรียนที่ฝรั่งเศส โชคดีมากๆที่โฮสที่เบญจ์ไปอยู่เขาเอ็นดูค่ะ เลยหาช่องทางให้เรียนต่อมหาวิทยาลัยที่นู่น พอจบตรีก็ทำงานหาประสบการณ์ 1 ปี แล้วก็หาทุนเรียนโทต่อ ดีที่มหาวิทยาลัยทางสแกนมีทุนฟรีเยอะทีเดียวค่ะ คุณณีนเรียนจบมาทางไหนคะ”

“ตรี- English Lit ส่วนโท- Gender ค่ะ”

“โห อย่างนี้เป็นนักสิทธิสตรีสิคะ”

“ไม่ถึงขนาดนั้นค่ะ แต่ณีนเชื่อในความเท่าเทียมค่ะ ณีนคงไม่ไปเดินประท้วงในความไม่เท่าเทียม แต่ณีนก็จะรักษาสิทธิของณีนไม่ให้คนอื่นมาก้าวล่วงค่ะ”

ไหนๆก็ไหนๆแล้วลองถามความคิดเห็นเรื่องความรักระหว่างเพศเดียวกันดีกว่า อยากรู้แง่มุมความคิดของณีนนารา เธอจะได้ตัดสินใจถูกว่าจะเดินหมากถูกว่าจะพยายามสานความสัมพันธ์หรือหยุดไว้แค่คำว่าเพื่อนร่วมงานดี  “แล้วคุณณีนมีความเห็นอย่างไรกับคนที่รักเพศเดียวกันล่ะคะ คนสแกนนั้นเปิดกว้างกับ ชายรักชาย และหญิงรักหญิง”

“ถ้าตอบอย่างคนเรียน Gender มาก็คือทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมค่ะ ความรักไม่จำเป็นต้องเกิดเฉพาะหญิงกับชายเท่านั้น เรื่องอย่างนี้ใครเป็นคนกำหนดคะ เราเท่านั้นถึงจะกำหนดชีวิตและหัวใจของตัวเราเองได้ อย่าปล่อยเรื่องของเราตัวของเราไปอยู่ในเงื้อมือคนอื่นค่ะ ถึงคนเหล่านั้นจะขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ที่ให้กำเนิดและผู้มีพระคุณก็ตาม”

“แรง เหมือนกันนะคะนี่ ปกติคุณณีนดูเป็นคนเงียบๆไม่พูด แล้วถ้าเป็นความเห็นส่วนตัวไม่เกี่ยวกับเรื่องที่เรียนมาล่ะคะ” เบญจ์พูดไปพลางนึกว่าณีนนารามีบุคลิกที่เธอนึกไม่ถึงเหมือนกัน

“เหมือนที่ตอบไปในตอนแรกค่ะ ณีนไม่เชื่อว่ามนุษย์ต้องเป็นความรัก Heterosexual เท่านั้น ณีนไม่เชื่อในการแต่งงาน ไม่เชื่อว่าทุกคนจะต้องมีแฟนแล้วแต่งงานถึงจะมีชีวิตที่สมบูรณ์ได้ อยู่คนเดียวก็สามารถมีความสุขกับชีวิตได้ หรือถ้ามีแฟนก็สามารถมีความสุขกับการมีเพื่อนคู่คิดที่พร้อมให้ความสุขทางกายด้วย ในข้อนี้ที่เพื่อนธรรมดาให้กับเราไม่ได้ค่ะ ไม่จำเป็นต้องมีงานเลี้ยงใหญ่โตเพื่อป่าวประกาศว่าได้แต่งงานแล้ว ไม่จำเป็นต้องมีรูปพรีเวดดิ้งที่สวยงามค่ะ ถ้ารักกันจริงมีกันและกันก็น่าจะพอนะคะ”

“คุณณีนเป็นคนที่ตรงประเด็นมากเลยค่ะ ไม่มีอ้อมค้อม”  แสดงว่าณีนนาราไม่รังเกียจในความเป็นหญิงรักหญิง เพียงแต่เธอคงต้องค่อยๆเดินหน้าในการสานสัมพันธ์ครั้งนี้ ไม่ว่าจะจบลงกับคำปฏิเสธจากณีนนารา เบญจ์ก็ถือว่าเธอได้พยายามแล้วไม่มีอะไรเสียหาย Nothing to lose

“ณีนก็เป็นคนอย่างนี้แหละค่ะ ปกติจะเงียบๆ แต่ถ้าพอได้คุ้นกันแล้วจะรู้ว่า ณีนนั้นค่อนข้างเป็นคนแรงพอตัวค่ะ ไปกันดีกว่าค่ะยังมีเวลาไปให้อาหารปลากับไหว้พระที่วัดระฆัง เดินย่อยอาหารกันหน่อย ไหนๆคุณเบญจ์ก็เลี้ยงอาหารแล้ว ณีนขอเลี้ยงขนมดีกว่านะคะ”

“ไม่ปฏิเสธค่ะ น้องคิดเงินด้วยค่ะ” สงสัยไม่อยากให้เราถามเรื่องส่วนตัวเลยรีบตัดบท แต่ก็ยังดีที่ยังยืดเวลาให้ได้ทำความรู้จักตัวตนกันอีกหน่อย

ทั้งคู่นั่งแท๊กซี่ไปยังวัดระฆังโฆสิตาราม เพื่อไปไหว้พระและให้อาหารปลาหลังจากนั้นก็นั่งเรือข้ามฝากมายังท่าพระจันทร์ เดินไปยังสวนสันติชัยปราการเพื่อเดินเล่น แล้วณีนนาราก็พาเบญจ์ไปเลี้ยงชากับขนมเป็นการตอบแทน

“ดื่มชาหรือกาแฟดีคะ”

“ชาดีกว่าค่ะ อยากทราบว่า Vanilla Rooibos อร่อยขนาดไหน” เบญจ์บอกพร้อมยิ้มให้

“แล้วจะติดใจนะคะ ร้านนี้มีชาให้เลือกเยอะวันอาทิตย์ไหนถ้าว่าง ณีนชอบมาเดินเล่นแถวๆนี้แล้วก็แวะมาดื่มชาค่ะ”
“ถ้าคุณณีนมาบ่อย งั้นเบญจ์รบกวนให้เลือกขนมให้หน่อยนะคะ มีเยอะเลือกไม่ถูกค่ะ ละลานตาไปหมด ขอเพียงแต่เป็นชิ้นเล็กก็พอค่ะ”

“เอางั้นเหรอคะ กลัวจะไม่ถูกใจคุณเบญจ์น่ะสิคะ”

“ไม่หรอกค่ะ เบญจ์เชื่อใจว่าคุณณีนต้องแนะนำของอร่อยแน่นอนค่ะ”

“โอเคค่ะ งั้นขนมชิ้นเล็ก คนละชิ้นแล้วก็ชาใช่ไหมคะ” ณีนถามความสมัครใจของเบญจ์ จึงหันไปสั่ง “Chocolate lava, bread pudding แล้วก็ชา Vanilla Rooibos กับ Dragon Pearl ค่ะ” ณีนนาราหันไปสั่งขนมและเครื่องดื่ม

“อ้าว ทำไมวันนี้เปลี่ยนเครื่องดื่มล่ะคะ”

“ร้านนี้มีชาให้เลือกเยอะค่ะ ณีนก็พยายามเปลี่ยนไปทุกครั้งที่มีโอกาสมาดื่มค่ะ”

“โล่งใจนึกว่า คุณณีนไม่อยากจะดื่มชาชนิดเดียวกับเบญจ์ซะอีก” เบญจ์พูดแซวแล้วยิ้มบางๆให้

“ไม่หรอกค่ะ” ณีนนาราตอบโดยไม่ได้รับรู้เลยว่าเบญจ์ได้พยายามพูดแซวเล่นกับเธอเพื่อเพิ่มระดับความสนิทชิดเชื้อ

“ว่าแต่วันนี้ขอบคุณ คุณณีนมากเลยนะคะที่พามาให้อาหารปลา แถมเดินเล่นอีก เบญจ์ไม่ได้มาแถบนี้นานแล้วค่ะ กิจกรรมส่วนมากเวลากลับมาเมืองไทยคือนอนอยู่บ้านอ่านหนังสือแล้วก็ดูแลรดน้ำต้นไม้ให้พ่อซะเป็นส่วนมาก ยิ่งตอนนี้อยู่คอนโดคนเดียวไม่ค่อยมีกิจกรรมอะไรทำเลยค่ะ”

“ยินดีค่ะ หวังว่าคุณเบญจ์จะไม่เหนื่อยเกินไปนะคะ เห็นร้อนซะหน้าแดง เหงื่อเต็มหลังเลย”

“ไม่ค่ะสนุกดี อ้อแล้วขออีกอย่างได้ไหมคะ เราก็รู้จักกันพอควรแล้วอายุก็ไม่น่าจะต่างกันมากเรามาเรียกแค่ชื่อเล่นเฉยๆกันไหมคะ”
“ถ้าคุณเบญจ์ไม่รังเกียจว่าณีนจะเรียกแค่ชื่อเล่นเฉย ได้เลยค่ะ”

“ไม่รังเกียจแน่นอนค่ะณีน” เบญจ์ยิ้มกับความสำเร็จขั้นเล็กๆในการทำความสนิทสนมให้เพิ่มขึ้นระหว่างเธอ 2 คน

“ค่ะเบญจ์ดื่มชาเถอะค่ะ เดี๋ยวเย็นแล้วไม่อร่อยนะคะ”

ระหว่างที่ทั้งคู่นั่งคุยกันไปทำให้เบญจ์ได้รับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับตัวตนณีนนารามากขึ้น เธอรู้ว่าณีนนาราเรียนโรงเรียนหญิงล้วนมาตั้งแต่ประถมจนกระทั่งไปเรียนที่อังกฤษ ตอนเรียน A Levels ก่อนเข้ามหาวิทยาลัยแม่เธอก็ส่งเธอเข้าโรงเรียนประจำหญิงล้วนที่โน่นอีกทำให้เธอมีเพื่อนต่างเพศน้อยมาก  ส่วนณีนนาราก็รู้ว่าเบญจ์นั้นเรียนโรงเรียนหญิงล้วนชื่อดังสมัยมัธยมศึกษา และอาจจะกลับไปทำงานทางยุโรปอีกครั้งในอนาคต  ทั้งคู่แยกย้ายกันไปเมื่อเวลาเกือบหนึ่งทุ่ม โดยแยกกันไปเพราะณีนนารามีนัดกับเพื่อนๆที่ร้านอาหารริมน้ำเชิงสะพานกรุงธน ตอนแรกเบญจ์อาสาจะนั่งรถแท๊กซี่ไปเป็นเพื่อนแต่ณีนนาราปฏิเสธเพราะไม่อยากรบกวน เธอชินแล้วกับการเดินทางคนเดียว เบญจ์จึงไม่เซ้าซี้เพราะเคารพในการตัดสินใจและกลัวณีนนาราจะไม่ชอบใจ

*******************************


“ณีนยังไม่มาเหรอ”  รีน่าเอ่ยถามเพื่อนที่มานั่งอยู่ก่อนแล้วทั้ง 3 คน

“เดี๋ยวคงถึง เมื่อกี๊โทรมาบอกว่ารถติดอยู่ตรงสวนสุนันทา” บัวตอบ

“โหยตายยากว่ะ นู่นเดินมาโน่นแล้ว” ปูรณ์ชี้ให้เพื่อนๆดู

“ขอโทษทีวันนี้รถติด สั่งอะไรกันหรือยัง” ณีนนารากล่าวขอโทษ

“ก็สั่งไป 3-4 อย่างแล้ว รอให้รีน่ากับณีนมาสั่งเพิ่ม” อุ๊บอก

“เราไม่หิว ขอแค่เครื่องดื่มก็พอ” ณีนนาราบอกแล้วยื่นเมนูไปให้รีน่า

“แอบไปกินอะไรกับใครที่ไหนมา” ปูรณ์แซวเพื่อน

“ก็คุณเบญจ์นักแปลไง”

“สั่งอาหารแล้วรีบกินรีบเม้าท์เถอะนานๆ จะได้ครบทีมกว่าคุณรีน่าจะขอสามีออกมาได้ กว่าบัวจะขอฉายเดี่ยวได้โดยไม่มีพี่ที มันยากรู้ไหม”  อุ๊รีบแซวเพื่อน

“แหม อุ๊ก็พูดเกินไปทำยังกับเราและรีน่าถูกขังไม่ให้ออกไปไหน” บัวแก้ตัว

“มันต่างกันตรงไหนล่ะยัยบัว ตอนนี้โทรไปเธอ 2 คนก็ไม่ค่อยจะว่างสักที เห็นไหมอยู่เป็นโสดอย่างฉันสบายจะตาย จะไปไหนก็ไป อยากจะทำอะไรก็ทำ” ปูรณ์รีบย้ำ

เพื่อนๆทั้ง 5 ก็กินข้าวกันไปคุยกันไปโดยมีณีนนาราจิบไวน์ไปฟังเพื่อนๆเธอไปนานๆจะหันไปตอบคำถามสักครั้ง ประมาณสี่ทุ่มครึ่งต่างคนต่างแยกย้ายกันกลับโดยปูรณ์ไปส่งณีนนาราที่คอนโด

“บอกมาซะดีๆว่าอีท่าไหนถึงออกไปกินข้าวกับคุณนอร์เวย์ ฉันเข้าไปคุยกับพี่วีตอนเย็น คิดว่าจะรับแกออกมาพร้อมกันที่ไหนได้ คุณน้ำบอกว่าแกออกมากับคุณนอร์เวย์ตั้งแต่บ่ายแล้ว”

“ก็ไม่มีอะไรงานที่ฉันต้องทำสำหรับวันนี้เสร็จเรียบร้อย คุณเบญจ์ขอเลี้ยงข้าวขอบคุณที่ช่วยเขาแก้สำนวน ก็แค่นั้น”

“แค่นั้นจริงเหรอ เพราะเห็นคุณน้ำเล่าให้ฟังว่าแกออกไปดื่มชากับคุณนอร์เวย์บ่อยๆ”

“ฉันไม่ได้คิดอะไรกับเขา ฉันก็แค่คิดว่าเขาคงเหงาเลยชวนฉันไปดื่มชาด้วยเวลาเข้าออฟฟิศ แล้วเขาก็ไม่ได้ทำตัวน่ารำคาญอะไร เป็นอีกคนหนึ่งที่ความเงียบระหว่างฉันกับเขาไม่ทำให้ฉันอึดอัด”

“แกไม่คิด เพราะแกมันเป็นพวกความรู้สึกช้า แต่เขาล่ะคิดอะไรกับแกหรือเปล่า”

“ฉันไม่รู้”

“ฉันก็หวังว่าถ้าเขาชอบแกขึ้นมาจริงๆ แกจะเปิดโอกาสให้เขาบ้างนะณีน ว่าแต่แกอยากรู้ไหมล่ะว่าเขาเป็นคนยังไง เดี๋ยวฉันไปถามรุ่นพี่ให้”

“ไม่ต้อง ฉันคบคนเป็นเพื่อนที่ตัวตนเขาเอง ไม่ได้คบเพราะมีคนบอกว่าเขาคนนั้นเป็นคนดี”

“ไม่เป็นไรแกไม่อยากรู้ แต่ฉันอยากรู้ว่าเขาจะจีบแกหรือเปล่า ฉะนั้นฉันจะไปเลียบๆเคียงๆดู กลัวแกเจอคนไม่ดีมาหลอกเอาหัวใจไป”

ณีนนาราได้แต่ส่ายหัวกับความเป็นห่วงเพื่อนแบบปูรณ์ๆ ปูรณ์มาส่งเธอที่คอนโดแล้วก็กลับไปเลย เพราะต้องรีบไปซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เกต 24 ชม. ก่อนกลับไปพักผ่อนที่คอนโด เนื่องจากปูรณ์เป็นพวกนาทีสุดท้าย ตอนนี้ไม่เหลือน้ำดื่มในห้องสักขวด

B de Beauvoir 20-06-2012 @Thailand


ขอบพระคุณอย่างสูงค่ะที่อ่านจนจบ พรุ่งนี้ก็อาจจะอัพนะคะ

12 comments:

  1. เบญจ์เริ่มเดินหน้าแล้ว จะทำยังไงให้ณีนเปิดใจให้บ้าง :)

    ไม่ต้องรีบนะคะ แม้ว่าเราอยากจะอ่านตอนต่อไปตั้งแต่คืนนี้เลย 555
    รู้สึกว่าจะมีคำผิดหลายที่ ชื่อก็สลับกันด้วยค่ะ

    ReplyDelete
  2. will edit and checking all spelling again tomorrow kha. Im using opera app, cant type in Thai.

    ReplyDelete
    Replies
    1. OK & Good night jaa ^^

      Delete
    2. แก้ไขไปบ้างแล้วนะคะ คิดว่าคงไม่หมด แต่ถ้าจะช่วย point out ให้จะขอบคุณมากค่ะ เนื่องจากตอนอ่านเบลอๆค่ะ ไปทานกาแฟก่อนค่ะ

      Delete
    3. ลองดูนะคะ ที่จริงมีไม่เยอะ

      Delete
    4. Will read your comment tomorrow afternoon nakha, I have to go to bkk in the morning and now I'm trying to sleep but cou
      ghing is my biggest enemy that preventing me to go the land of nod ka T__T

      Delete
    5. "อีกหนึ่งอาทิตย์ต่อคุณเบญจ์ - ต่อมา
      ทุกๆครั้งที่คุณเบญจ์ - น่าจะไม่มี คุณ
      มักจะชวนณีนารา - ณีนนารา
      “เบญจ์ให้คุณณีนสั่งอาหารให้นะคะ เพราะณีนไม่รู้ว่าที่นี่อะไรเด่น” - เพราะเบญจ์ไม่รู้ว่าที่นี่อะไรเด่น

      ใช้เวลาไม่นานในการเลือกหาร - อาหาร
      เธอไม่แค่สังเกตุแค่การดื่มชา - สังเกต
      เธอจะได้ตัดสินใจถูกว่าจะเดินหมากถูกว่า ??
      เป็นผู้มีให้กำเนิด - ผู้ที่
      ยังมีเวลาไปให้อาหารปลากับไหว้พระที่วัดระฆังกันดีกว่าค่ะ – น่าจะตัด กันดีกว่าค่ะ ออก
      เรียกแค่ชื่อเล่นเฉย ได้เลยค่ะ - เฉย ๆ
      รถติดตรงอยู่ตรงสวนสุนันทา - รถติดอยู่ตรงสวนสุนันทา
      แหมม อุ๊ก็พูดเกินไป - แหม (ไม่รู้ว่าตั้งใจใส่ ม 2 ตัวรึเปล่า) "

      ขอแก้แค่คำที่เขียนผิดไปก่อนนะคะเนื่องจากตอนนี้คนเขียนเซ็ง เพราะวันนี้รถเสียนั่งรอรถยกมายกรถเข้าอู่นานมาก มีทั้งสิบล้อ 18ล้อ เทรลเลอร์วิ่งฟิ้วๆเฉียดไปตลอดเวลา หวังว่าจะเป็นไรไม่มากเท่านั้นค่ะ ค่าซ่อมมันแพง T__T แถมเพิ่งเติมน้ำมันเต็มถัง ลืมบัตรเครดิตที่ใช้เติมน้ำมันไว้ในรถ โอ้บ่นยาว 555+ แต่เซ็งจริงๆนะคะ

      ขอบคุณนะคะที่ชี้จุดผิดให้

      Delete
    6. "อาการหวัดของคุณคงยังไม่หายดีแน่ ๆ พอพักผ่อนน้อย ไอมากจนนอนไม่หลับ หวัดก็เลยกลับมา ต้องรีบทานยาดักไว้ก่อนที่จะเป็นมากอีก เรื่องรถเสียแบบนี้ประกันเค้าจ่ายให้ไหมคะ บัตรเครดิตก็ต้องแจ้งระงับแล้วค่อยทำใหม่ ทุกอย่างแก้ไขได้ค่ะ อย่าเซ็งนานไม่ดีต่อสุขภาพ :) "


      อาการหวัดยังไม่หายดีจริงๆค่ะ ยังมีไอและน้ำมูกอยู่นิดหน่อยค่ะ รถเสียอย่างนี้ประกันไม่จ่ายค่ะ ไม่ได้เกิดอุบัติเหตุอะไร ส่วนบัตรเครดิตดีที่เป็นใบที่วงเงินไม่มากค่ะ โทรน้าไปบอกให้เจ้าของอู่เก็บไว้ให้แล้วค่ะ เซ็งตัวเองที่หลงๆลืมแล้วก็เซ็งที่โดนบ่นว่าไม่รอบคอบค่ะ (ถึงมันจะเป็นเรื่องจริงก็เหอะ) 555+

      Delete
    7. "ไปธุระก็ระวังฝนด้วยนะคะ แถวที่ทำงานเราครึ้มมาแต่ไกล เรื่องหลงลืมนี่เป็นบ่อยค่ะ บางทีแค่เดินจะไปหยิบของ หันไปคุยกับเพื่อนก็ลืมซะแล้ว เพื่อนก็เป็นเหมือนกัน บ่งบอกถึงวัยได้เป็นอย่างดี 555 สงสัยต้องหาใบแปะก๊วยมาช่วยแล้วค่ะ

      BYKT"

      โชคดีไปฝนตกมาแป๊ปเดียวตอนกลับมาแล้ว ไม่งั้นได้เปียกแน่ๆค่ะ เพื่อนก็บอกให้ไปกินแปะก๊วยเหมือนกันตอนที่เราบ่นว่าพักนี้ขี้หลงขี้ลืมค่ะ เรื่องอายุพูดๆไป จะกลายเป็นว่าคนอ่านบล๊อกนี้จะไม่มีวัยสิบกว่า 555+

      Delete
  3. คุณ clearsky
    มีอีกคนแล้วที่คอมเม้นแล้วไม่ขึ้น แต่ยังไงเราจะก๊อปปี้คอมเม้นมาคุยกันนะคะ คนอ่านน้อย คนคอมเม้นก็น้องต้องเอาใจกันหน่อย 555

    "ไม่ได้เข้ามาอ่านหลายวัน มีเพิ่มตั้งสามตอน ขอบคุณค่ะสำหรับความตั้งใจเขียน กลัวคนอ่านจะร อนาน
    เราชอบจังที่บอกว่า"อยู่คนเดียวก็สามารถมี่ความสุขกับชีวิตได้" จริงด้วยเนอะ แต่พ่อแม่เราจะยอมหรือเปล่าล่ะ เฮ้อ.....
    รักษาสุขภาพกายและใจนะคะ เป็นห่วง

    clearsky"


    เดี๋ยวก็หายไปอีกสักวัน 2 วันค่ะ ดีใจที่คนอ่านชอบนะคะ ส่วนเรื่องอยู่คนเดียวก็มีความสุขได้มาจากความคิดเราเองค่ะ เห็นคนมีความรักไม่ว่ากับ ญ/ญ ช/ช ญ/ช ก็มีทุกข์กันซะเยอะเลยขอแบบอยู่คนเดียวดีกว่าค่ะ

    ReplyDelete
  4. เพิ่งได้เข้ามาอ่านนิยายค่ะ
    แต่สงสัยว่าร้านชาแถวสวนสันตินี่ร้านไหนเหรอค่ะ

    ReplyDelete
    Replies
    1. ความจริงมีหลายร้านเนอะแต่ร้านที่ชาเยอะ คือร้านข้างร้านมะตะบะชื่อดังค่ะ
      ร้านเค้กชื่อ Ann's sweet ค่ะ

      Delete