Tuesday 26 June 2012

หัดเขียน 10


ทำงานแค่เกือบเสร็จแต่เบื่อที่จะเคลียร์ต่อค่ะเลยแว๊ปเอา บทที่ ๙ ที่เขียนอยู่ในสต๊อกมาลงให้อ่านกันหวานๆนะคะ ช่วงนี้คนอ่านน้ำตาลอาจจะขึ้น แต่คนเขียนน้ำตาลลดเพราะกำลังอยู่ในช่วงเขียนดราม่าค่ะ ;) เขียนผิดตรงไหนก็ขออภัยนะคะ ช่วงเขียนก็ก่อนจะนอนสมองอาจจะทำงานได้ไม่เต็มที่

บทที่  ๙

วันรุ่งขึ้นณีนนาราเข้ามาที่สำนักงานตั้งแต่เช้า แต่จนบ่ายสองแล้วก็ยังไม่เห็นวี่แววของเบญจ์จะมาทักทายตามปกติ เธอจึงเดินไปที่ห้องค้นคว้าก็ไม่พบเบญจ์ ณีนนาราตัดสินใจที่จะส่งข้อความไปถามไถ่ว่าจะมากินข้าวด้วยกันไหม แล้วเบญจ์ก็ส่งข้อความกลับมาว่าอีกสักประมาณครึ่งชั่วโมงจะมาถึง

“สวัสดีค่ะ ขอโทษที่ทำให้ณีนรอนะคะ”  เบญจ์เปิดประตูเข้ามาด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ

“เป็นอะไรหรือเปล่าคะ หน้าเบญจ์แดงมากเลย”  ณีนนาราถามด้วยความเป็นห่วง

“มีไข้นิดหน่อยค่ะ”

“ไหนขอณีนวัดไข้หน่อยนะคะตัวร้อนมากเลยนะคะ เมื่อวานยังดีๆอยู่เลยนี่นาไปหาหมอดีกว่านะคะ” ณีนนาราเอื้อมเอาหลังมือไปวัดอุณหภูมิที่หน้าผาก

“ไม่เป็นอะไรมากหรอกค่ะ”  เบญจ์ตอบเสียงอู้อี้กลับมา

“ไม่ได้ค่ะไปหาหมอเถอะเดี๋ยวเป็นหนัก” ณีนนารารีบเก็บของพาคนป่วยไปหาหมอที่โรงพยาบาล

ที่โรงพยาบาลณีนนาราจัดการให้ไปหาหมอประจำตัวของเธอ

“ไม่ทราบเริ่มมีอาการเหมือนป่วยตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ ขอหมอดูคอหน่อยนะครับ”  คุณหมอถาม

“เริ่มมีอาการเจ็บคอนิดๆตั้งแต่เย็นวันเสาร์ค่ะ แล้วก็ไปทะเลมาค่ะ” เบญจ์ตอบอ้าปากให้คุณหมอตรวจ

“ไม่เป็นอะไรมากครับ แค่คออักเสบแล้วก็มีไข้สูง เดี๋ยวหมอสั่งยาให้ งดอาหารมันนะครับ รอรับยาได้เลยครับ แต่ถ้าไข้ไม่ลดอีกสัก 2 วันมาหาหมอใหม่ เพราะช่วงนี้ไข้เลือดออกระบาด”

ช่วงระหว่างรอรับยาณีนนาราก็หันมาบ่นเบญจ์เบาๆ  “ป่วยแล้วทำไมไม่บอกล่ะคะ ยอมไปเล่นบานาน่าโบ๊ท แถมไม่ยอมบอกว่าเจ็บคอ”

“ขอโทษค่ะ” เบญจ์ทำหน้าสำนึกผิด

“ไม่เป็นไรค่ะ แต่ทีหลังอย่าฝืนนะคะป่วยหนักจะลำบาก  กลับบ้านกันเถอะ เดี๋ยวณีนไปทำข้าวต้มไว้ให้กินตอนเย็น เผื่อพรุ่งนี้เช้าด้วย  ที่ห้องมีของสดบ้างหรือเปล่าคะ”

“ไม่มีอะไรเลยค่ะ เดี๋ยวไปแวะซูเปอร์ซื้อของไปเก็บไว้กินก็ได้ค่ะ ณีนจะได้ไม่ต้องลำบาก”

ณีนนาราหันมาทำหน้าดุใส่เบญจ์ เบญจ์จึงเงียบแล้วเดินตามไปซูเปอร์สโตร์ใกล้ๆโรงพยาบาล เมื่อซื้อของที่ต้องการทั้งสองก็เรียกแท๊กซี่เพื่อกลับคอนโดของเบญจ์  เมื่อถึงที่พักณีนนาราไล่ให้เบญจ์ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อมากินข้าวแล้วก็กินยา เนื่องจากเบญจ์ตอบเธอมาว่าวันนี้ตื่นมาได้ดื่มนมอุ่นๆไปแก้วเดียว

“นั่งกินข้าวต้มเลยค่ะ เดี๋ยวจะได้กินยาแล้วก็พักผ่อน” ณีนนารายกชามข้าวต้มหมูมาให้คนป่วย

“ลำบากณีนแย่เลย ณีนก็ยังไม่ได้กินกลางวันเหมือนกันนี่คะ  เอาจานมาแบ่งกันสิคะตั้งเยอะเบญจ์กินไม่หมดหรอก” เบญจ์พูดพร้อมไปหยิบชามเล็กมาตักแบ่งให้ณีนนารา

“ค่ะ รีบๆกินแล้วก็รีบกินยานะคะ งดดื่มนมด้วยนะคะ ให้จิบน้ำอุ่นหรือน้ำขิงแทนนะคะ เพราะนมจะทำให้มีเสมหะ อ้องดสระผมด้วยนะคะ สักพรุ่งนี้ค่อยสระ พอสระเสร็จแล้วไดร์ให้แห้งเลยนะคะ ผมของเบญจ์ถึงจะยาวไม่มากแต่อย่าเสี่ยงเลยดีกว่า”

“รับทราบและปฏิบัติค่ะ”  เบญจ์รับคำยิ้มๆ พร้อมนึกในใจว่าป่วยก็ดีเหมือนกันอย่างน้อยก็ทำให้รู้ว่าณีนนาราก็มีความห่วงใยต่อเธอ พอกินอาหารและยาเสร็จ ณีนนาราก็ไล่เธอไปนอนพร้อมบอกว่าจะ เตรียมอาหารไว้ให้สำหรับพรุ่งนี้เช้า  

เมื่อเตรียมอาหารอาหารไว้ให้เบญจ์แล้วณีนนาราจึงไปนั่งทำงานที่ติดมาด้วยพร้อมคิดว่าสักประมาณหนึ่งทุ่มค่อยเดินไปขึ้นรถไฟฟ้ากลับ เมื่อถึงเวลาที่จะกลับเธอก็เดินไปเคาะห้องนอนแต่เบญจ์ไม่เปิดประตู เธอจึงถือวิสาสะเข้าไปในห้องนอนคิดว่าจะไปเรียกให้เบญจ์ตื่นมาล๊อกประตูตอนที่เธอจะกลับคอนโด ณีนนารากลับพบว่าไข้ของเบญจ์นั้นไม่ลดลงเท่าไหร่เลย ณีนนาราตัดสินใจเอาผ้ามาชุบน้ำเย็นเช็ดหน้า, คอ, แขนและขาให้เบญจ์ พร้อมปลุกให้คนป่วยตื่นมากินยาลดไข้ พร้อมตัดสินใจว่าจะอยู่ดูแลเบญจ์อีกสักพัก เธอจึงโทรบอกให้ปูรณ์มารับเธอกลับคอนโดตอนสี่ทุ่มด้วย

“อีกสิบนาทีจะออกไปรับนะณีน ว่าแต่ทำไมแกไม่อยู่ช่วยดูเบญจ์เขาทั้งคืนเลยล่ะ”

“คงไม่เหมาะมั้ง ที่สำคัญฉันไม่มีเสื้อผ้ามาเปลี่ยนด้วย”

“เบญจ์เขาไม่ว่าหรอก หรือแกกลัวจะไปปล้ำคนป่วย”  ปูรณ์พูดขำ

“ไอ้ปากมอมจะมารับฉันไหมเนี้ย ถ้าไม่ฉันจะกลับแท๊กซี่เอง”

“งอนไปได้ ไปรับสิเพื่อนทั้งคน อีก 15 นาทีลงมารอได้เลย”

ณีนนาราตัดสินใจว่าจะไม่ไปปลุกเบญจ์ให้มาปิดประตูให้แต่เธอเอากุญแจห้องมาเลยโดยทิ้งข้อความบอกไว้ว่า “มีซุปมิโซะเต้าหู้อยู่ในหม้อนะคะ อุ่นแล้วทานได้เลย ไม่อยากเรียกเบญจ์ขึ้นมาปิดประตูให้ขอเอากุญแจไปด้วยแล้วพรุ่งนี้จะเอามาคืนค่ะ หวังว่าคนป่วยคงจะไม่แอบหนีไปเที่ยวไหนนะคะ  อย่าลืมกินยาด้วย  ณีน”

ปูรณ์มารับณีนนาราไปส่งที่คอนโด โดยที่เจ้าตัวไม่ยอมกลับไปที่ห้อง ทั้งบอกว่าไปเที่ยวครั้งที่ผ่านมาไม่ค่อยได้คุยกันเลย จึงขอนอนที่ห้องณีนนารา

“แกคิดยังไงกับเบญจ์ พูดมาตรงๆ ฉันรู้ว่าแกน่ะดีและเต็มที่กับเพื่อนทุกคน แต่สำหรับเบญจ์  ฉันเห็นแววตาแกตอนคุยกับเขาเหมือนตอนแกมองพี่วีสมัยที่โรงเรียนเลย”  ปูรณ์ถามเพื่อนรักโดยหวังว่าจะเปิดใจเพื่อนรักได้ เพราะคราวนี้นั้นไม่เหมือนตอนณีนนาราแอบชอบวรชญา ครั้งนั้นเป็นเหมือนการแอบชอบข้างเดียวมากกว่า และณีนนาราก็ไม่กล้าพอที่จะไปเปิดใจกับวรชญาด้วย 

“ฉันก็รู้สึกดีกับเบญจ์ รู้สึกดีที่เขาใส่ใจฉัน เหมือนเพื่อนรักคนหนึ่ง เหมือนแกคอยดูแลฉันไง”

“แต่เวลาเพื่อนดูแลกัน ฉันดูแลแก แกไม่มีอารมณ์เขินใช่ไหม แต่แกมีอาการนี้กับเบญจ์ ฉะนั้นฉันคิดว่าไม่เหมือนกัน  ณีนฉันขอร้องล่ะแกอย่ากลัวที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างแกกับเบญจ์เขาได้ไหม  ลองให้โอกาสมากกว่านี้ หรือตกลงคบเป็นแฟนไปเลยก็ได้ แกไม่ต้องกลัวว่าถ้าความรักครั้งนี้ไปไม่รอดแล้วแกจะเสียใจ เพราะฉันพร้อมจะนั่งข้างๆแกเหมือนที่เป็นตลอดมา พูดง่ายก็เหมือนตอนแกนั่งข้างๆเวลาฉันเลิกกับแฟนน่ะ”

“เฮ้อ ฉันก็ถือว่าชอบเบญจ์เขามากพอนะ แต่เขาเพิ่งจะจีบฉันใจคอแกจะให้ฉันไปตกปากรับคำเป็นแฟนเลยหรือไง”

“ตามใจแต่อย่าลืมนะ เวลามันไม่รอท่านะคะคุณณีน  แล้วถ้าเบญจ์รู้ซึ้งถึงนิสัยเอาแต่ใจของแก เขาจะเลิกจีบไปเลยก็ได้”  ปูรณ์พูดแล้วหัวเราะยักคิ้วใส่ณีนนารา ปูรณ์คิดว่าเพื่อนเธอต้องมีตัวกระตุ้น หวังว่าคำพูดของเธอจะทำให้เพื่อนเธอได้คิดบ้าง

เบญจ์ลุกขึ้นมาตั้งแต่ 7.30 น. เดินออกมาจากห้องนอนพบข้อความที่ณีนนาราทิ้งไว้ให้ มันทำให้เธอยิ้มพร้อมรู้สึกอุ่นใจว่าณีนนาราน่าจะมีใจให้เธอมากกว่าเพื่อนธรรมดา ความหวังในการที่จะเปลี่ยนจากคำว่าเพื่อนเป็นแฟนเพิ่มขึ้นอีกมากโข 

ณีนนาราเปิดประตูห้องเข้ามาตอน 9.30 น โดยไม่พบเบญจ์ที่ห้องรับแขกจึงจะไปเคาะประตูห้องนอน เบญจ์เปิดประตูออกมาพอดี

“โอ๊ย”  เสียงณีนนาราร้อง ประตูเปิดมากระแทกหน้าผาก

“เป็นอะไรมากหรือเปล่า เบญจ์ขอโทษนะคะ” เบญจ์รีบพาณีนนาราไปนั่งที่โซฟาพร้อมเดินไปหยิบเจลเย็นมาประคบให้ กลัวหน้าผากของณีนนาราจะช้ำและบวม

“ไม่เป็นไรมากค่ะ” ณีนนารารีบขอเจลเย็นมาประคบเองเพราะเขิน เนื่องจากหน้าของเบญจ์อยู่ใกล้เธอมาก และเอ่ยคำถามแก้เขิน “กินซุปที่ณีนทำไว้ให้หรือยังคะ”

“มาอุ่นกินแล้วค่ะ อร่อยมากๆเลย อย่างนี้สงสัยต้องขอให้ณีนทำให้กินบ่อยๆ แล้วเบญจ์จะทำอาหารทางสแกนให้ลองเป็นการตอบแทนนะคะ”

“คือจริงๆแล้วแค่ซื้อวัตถุดิบที่ดีมาทำอาหาร ยังไงก็อร่อยค่ะ”  ณีนนารารีบออกตัวแก้เขิน

“ว่าแต่วันนี้ไม่ไปทำงานเหรอคะ เบญจ์หายแล้วเดี๋ยวให้ไปสำนักงานเป็นเพื่อนนะคะ”

“ไม่ไปค่ะโทรไปบอกคุณวีเรียบร้อย พร้อมหอบงานมาอ่านที่นี่ค่ะ คิดไว้แล้วว่าคนป่วยจะต้องดื้อไม่ยอมพักผ่อน เลยจะมาเฝ้าไข้ค่ะ”

เบญจ์ไม่พูดอะไรต่อไปแค่นั่งอมยิ้มมีความสุขพร้อมมองดูณีนนาราทำงาน เมื่อถึงเวลาเย็นเบญจ์ขันอาสาจะทำอาหารให้กิน เพราะเธอไม่อยากนั่งเฉยเหมือนคนป่วยหนัก ณีนนาราจึงตอบตกลง

“ไม่รู้จะถูกปากรึเปล่านะคะ เพราะทุกทีทำกินเองคนเดียว”

“อร่อยดีค่ะ” ณีนนาราตักข้าวต้มชิมพร้อมเอ่ยชม

“เมื่อวานณีนกลับยังไงคะ ขอโทษด้วยนอนไม่รู้เรื่องเลย”

“เรียกปูรณ์มารับค่ะ คนนั้นสารถีประจำตัวอยู่แล้วเบญจ์ไม่ต้องห่วงนะคะ”

“อิจฉาปูรณ์จัง มีตำแหน่งซะด้วย สงสัยเบญจ์ต้องไปยืมรถที่บ้านมาไว้รับส่งณีนบ้าง  อยากเป็นสารถีประจำตัวของณีนแทนปูรณ์”

“ไม่ต้องหรอกค่ะลำบากเปล่าๆ ณีนก็มีรถเพียงแต่ไม่ค่อยขับเท่านั้นเอง แต่ถ้ารู้ตัวว่าวันไหนมีธุระกลับบ้านดึกแล้วไม่ได้ไปกับปูรณ์ ณีนก็จะขับรถค่ะ  วันนี้ณีนก็ขับมาค่ะ”

“โห ตัดโอกาสสุดๆเลยนะคะ”

“แต่ณีนไม่ได้บอกว่า ไม่ให้เบญจ์เป็นสารถีนี่คะ” ณีนนาราพูดพร้อมยักคิ้ว

“งั้นเป็นอันตกลงแล้ว เริ่มหน้าที่วันอาทิตย์นี้เลยนะคะ อยากไปพุทธมณฑลให้อาหารปลาแล้วก็ไปเดินเล่น....กับณีน” เบญจ์พูดออกมาด้วยความลิงโลด


ทั้งสองสาวกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ โดยการไปเจอที่สำนักงาน ทำงานด้วยกัน กินข้าวกลางวันด้วยกัน ก่อนกลับบ้านก็ไปเดินคุยกันที่สวนสาธารณะเล็กๆใกล้สำนักงาน หรือไปกินข้าวเย็นกับปูรณ์อาทิตย์ละหนึ่งครั้ง  สำหรับณีนนาราการมีกิจกรรมอย่างนี้กับใคร เธอถือว่าคนคนนั้นเป็นคนพิเศษมากสำหรับเธอแล้ว เพียงแต่ว่าการเป็นคนปากแข็งของณีนนาราจะทำให้ความสัมพันธ์ที่เพิ่งเริ่มต้นมีปัญหาหรือไม่

B de Beauvoir 26-06-2012 @Thailand

เป็นไงคะพอหวานเรียกน้ำตาลมาเพิ่มพลังได้กันบ้างไหมคะ ว่าแต่ยังคิดชื่อเรื่องไม่ออกเลยค่ะ

16 comments:

  1. ถ้าป่วยแล้วมีพยาบาลแบบนี้บ้างก็ดีนะคะ ;)

    BYKT

    ReplyDelete
  2. จริงด้วย มีแต่รักษาตัวเองกับไปนอนโรงพยาบาลค่ะ 555+

    คาดว่าต่อไปนี้ความเห็นคุณคงไม่หายแล้วนะคะ เราเจอตัวปัญหาแล้ว

    ReplyDelete
    Replies
    1. เป็นเองก็ต้องหายเอง ดูแลตัวเอง ใครจะมาสนใจ :p ออกแนวประชดประชัน

      นอกจากความน่ารักของณีนกับเบญจ์แล้ว เราชอบมิตรภาพของเพื่อนอย่างณีนกับปูรณ์ด้วย คอยช่วยเหลือ ห่วงใยกันและกัน ประมาณมีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ร่วมต้าน :)

      ในที่สุดก็เจอตัวปัญหาที่ทำให้ความเห็นเราหายแล้วหรือคะ หน้าตาเป็นยังไง ถ้าหน้าตาหน้ารัก เท่หน่อย ๆ ก็ให้อภัยเค้าไปนะคะ 555+

      BYKT

      Delete
    2. ใช่แล้ว คนเราต้องดูแลตัวเอง 555+ ตอนนี้เห็นคุณพระจันทร์สีม่วงมาอัพเดทเรื่องหนังสือ ชักอยากให้ฝรั่งไม่ก็ฮันนี่มาดูแลเวลาป่วยเหมือนกัน :p

      เพื่อนต้องอยู่เคียงข้างตลอดค่ะ ถ้าเป็นเพื่อนรักกันจริง แฟนน่ะเลิกได้ตลอดเวลาแต่เพื่อนถ้าไม่ทะเลาะกันรุนแรงยังไงก็เพื่อนค่ะ พร้อมช่วยเหลือตลอด ขอบอกว่าเซ้นเรากลับเพื่อนนี่แรงมากๆนะคะ

      ไอ้ตัวปัญหาคือมันส่งความเห็นที่หายไปอยู่ใน spam ค่ะ หน้าตาไม่เท่เท่าไหร่ว่าไหมคะ ต้องจัดการให้เรียบค่ะ ;)

      Delete
    3. ไม่รู้ว่าคุณพระจันทร์สีม่วงมาอัพเดทหนังสือ แล้วอีกนานไหมจะกว่าจะได้อ่านต่อ ต้องอดทนรอต่อไปค่ะ ถ้าป่วยได้ใครสักคนมาดูแลก็ดีนะคะ ^^

      มีเพื่อนดีก็ต้องรักษาไว้ ที่บอกว่าเซ้นแรงมาก ๆ นี่ยังไงคะ

      คุณจัดการเจ้าตัวปัญหาเรียบร้อยแล้วรึยัง หน้าตาไม่เท่ นิสัยไม่ค่อยดีต้องจัดการค่ะ 555

      BYKT

      Delete
    4. ดีนะที่เรารอคุณพระจันทร์สีม่วงไม่นานเท่าไหร่ เห็นบางคนบอกว่ารอมา 3 ปี

      เซ้นแรงคือ อย่างเช่นเราไม่ชอบแฟนเพื่อนคนหนึ่ง แต่เราจะไปเที่ยวกับเพื่อนนัดไว้แล้ว เซ้นเราจะจับได้ว่าเพื่อนเรามันจะหนีบคนที่เราไม่ชอบไปด้วย เราก็จะโทรไปบอกว่าเราไม่ไปด้วยแล้วนะ ไม่ว่างอะไรประมาณนี้น่ะค่ะ แล้วก็จริงๆเพื่อนมันเอาแฟนไปด้วย 555+ เราไม่ได้ไปว่าร้ายอะไรคนที่เราไม่ชอบนะคะ เพียงแต่ไม่คุยด้วยถ้าไม่จำเป็น ไม่อยากร่วมกิจกรรมด้วย แฟนเพื่อนไม่ใช่แฟนเรา เราไม่ขอข้องเกี่ยว

      ใช่ค่ะจัดการตัวปัญหาเรียบร้อยแล้ว ต้องไปถามคนรู้จักมาเพราะเรื่องบล๊อกเราก็โง่มากๆ

      Delete
    5. แล้วเพื่อนไม่เสียใจแย่หรือคะ นัดกันไว้แล้ว แต่เป็นเราก็ไม่อยากไปกับคนที่ไม่ชอบหรอก ไม่สนุก เสียอารมณ์ด้วย 555

      ที่จริงเราก็มีบล๊อกนะคะ Google+ ก็มี มีหลายอย่างเลย แต่ไม่ได้เข้าไปนานมากแล้ว ไม่แน่ใจว่ายังจำรหัสได้รึเปล่า :p

      BYKT

      Delete
    6. มันก็ไม่ว่าอะไรนี่คะ มีอยู่ครั้งหนึ่งเรานึกไว้แล้วว่าต้องเอาคนที่เราไม่ชอบไป แต่มันเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องไป เรายังคุยกับเพื่อนอีกคนที่คุยกันแทบทุกวันเลยว่า ทำไม ซื้อหวยไม่เคยถูก 555

      Google+ เราไม่ได้เข้าไปใช้เลยค่ะ แอคเค้านั้นไว้ใช่เมลงาน เลยไม่มีเพื่อน จำรหัสไม่ได้บ่งบอกอายุนะคะ :p

      Delete
  3. ว้าว คุณ BYKT มาเม้นเร็วมากเลย
    จริงด้วยเนอะ มีพยาบาลแบบนี้อยากป่วยทุกวันเลย หวานดีเหมือนกันนะ อ่านไปยิ้มไป น่ารักดีค่ะ
    คุณเบญจ์กับณีน จะไปพุทธมณฑลเหรอ ไม่รู้จะมีปลาเหลือให้ขนมปังหรือเปล่า น้ำท่วมปีที่แล้ว ปลาหายเกลี้ยงเลยค่ะ
    รักษาสุขภาพนะคะ

    ReplyDelete
    Replies
    1. คุณ BYKT เขาเป็นนักอ่านกิตติมศักดิ์ค่ะ หลงเข้ามาอ่านความบ้าของเราอยู่ได้ตั้งนาน แต่ตอนนี้มีมาเพิ่มอีก 2 แล้วคือคุณ clearsky กับ คุณ Chicky lloll

      นั่นสิลืมไปเลยว่าน้ำท่วมเอาปลาไปด้วย ตั้งแต่น้ำท่วมก็ไม่ได้ไปให้อาหารปลาที่พุทธมณฑลเลยไปแต่ที่ท่าเทเวศน์กับวัดแถวบ้าน

      หวานใช่ไหมล่ะคะ แต่หวานกันได้อีกไม่นานหรอกเพราะคนเขียนหมันไส้ อิจฉาคนมีแฟน555 ถึงมันจะเป็นนิยายก็เถอะ

      Delete
    2. เราเม้นท์เป็นอาชีพค่ะ คุณ clearsky 555+ เม้นท์จนได้ตำแหน่งกิตติมศักดิ์แล้ว ในความบ้าก็มีสาระนะคะ คนเขียนบ้าเขียน คนอ่านก็บ้าอ่านค่ะ ;)

      BYKT

      Delete
    3. @คุณ Chicky lloll เราเป็นพวกนางร้ายค่ะเห็นใครมีความสุขไม่ได้ (พร้อมหัวเราะเป็น เรโกะ อีกครั้ง) ดราม่าจะต้องมาแน่ๆ รอลุ้นนะคะ

      @คุณ BYKT ขอบคุณที่คุ้ยหาสาระจนเจอนะคะ

      Delete
  4. วันนี้อ่านไป ก็นับมดในบล๊อกนี้ได้ 5 ตัวคะ

    หวานแบบคนเพิ่งจีบกันใหม่ ๆ มันเป็นช่วงที่ตื่นเต้น ลุ้น เป็นช่วงที่หัวใจแข็งขันกันทำงาน

    คนอ่านก็พลอยมีความสุขไปด้วยคะ เห็นด้วยกับคุณ clearsky และคุณ BYKT ถ้ามีพยาบาลน่ารักอย่างนี้ อยากให้ช่วยดูแลหัวใจให้แข็งแรงตลอดไป (อิอิ)

    พูดถึงเรื่องน้ำท่วม ปีนี้หวังว่าจะไม่ท่วมอีกนะคะ สาธุ สาธุ

    Chicky

    ReplyDelete
    Replies
    1. หวังไว้เช่นกันคุณ chicky กลัวมากเลยนะนี่ ปีที่แล้วยังหลอนอยู่เลย

      ส่วนนิยายคุณจขบ ช่วงจีบกันมันน่าตื่นเต้นจริงด้วยเนอะ สุดยอด

      Delete
    2. @Chicky lloll กับ คุณ clearsky

      ดีใจที่คุณคนอ่านทั้งสองอ่านแล้วชอบ รู้สึกว่าหวานไปด้วย คนเขียนก็หัวสมองทำงานหนักมาก เพราะไม่มีประสบการณ์ตรง อาศัยอ่านนิยายเยอะ 555+

      อยากป่วยกันเป็นแถวเลยนะคะ แต่พอป่วยแล้วพบกับความจริงว่าต้องดูแลตัวเองต่อไปจะเศร้ากว่านะคะ

      โดนน้ำท่วมกันด้วยเหรอคะ ดีนะที่บ้านเราไม่โดน ส่วนบ้านที่กรุงเทพมีน้ำล้อมรอบดีไปที่ไม่เข้าไปในบ้าน

      Delete
    3. ดีค่ะอยู่เกาะวิวสวยบรรยากาศดี ไม่เจอน้องน้ำแต่ระวังภัยธรรมชาติอื่นๆนะคะ เพื่อนเราย้ายไปอยู่คอนโดที่บริษัทจัดให้ ไม่ก็หนีไปหัวหินกันหลายคนเลยค่ะ

      Delete