Tuesday 13 March 2012

เพลงโปรด 2

มาคุยกันเรื่องเพลงต่อกันเป็นวันที่2 ก็รู้ๆกันอยู่นะคะเพลงที่ดังคนรู้จักเยอะเราจะไม่พูดถึง อ้อเพลงนี้ดังสำหรับคนต่างชาติพอควรนะคะ ที่เราว่าไม่ดังคือในเมืองไทยค่ะ วันนี้จะพูดถึงเพลงที่ออกแนวเฟมินิสนิดๆ เพลงที่มีคติว่าให้รู้สึกดีกับหน้าตาตัวเอง มีสมองย่อมดีกว่าแต่งตัวไปวันๆเพลงนี้คือ

Video by India Arie

เพลง Video เป็นซิงเกิ้ลแรกของอัลบัมแรกที่ India เปิดตัวในอัลบัมที่มีชื่อว่า Acoustic Soul ในปี 2001 เพลงนี้ถือว่าเป็นเพลงที่ประสบความสำเร็จที่สุดของ India เนื่องจากได้อยู่ใน 100 อันดับของชาร์ต Billboard ในปี 2002 รวมถึงได้ถูกเสนอชื่อชิง Record of the year บนเวที Grammy Awards  ด้วย แต่ก็พ่ายแพ้ต่อ Walk On ของ U2 ไป (แอบมี bias เราว่า Video เพราะว่า Walk On อีกนะ) เพลงนี้เราว่าแปลยากนะแต่จะแปล ^^

Sometimes I shave my legs and sometimes I don't
Sometimes I comb my hair and sometimes I won't 
Depend on how the wind blows, I might even paint my toes
It really just depends on whatever feels good to my soul
บางครั้งฉันก็โกนขนขา และบางครั้งฉันก็ไม่
บางครั้งฉันหวีผม และบางครั้งฉันก็ไมทำ
ขึ้นอยู่กับว่าลมจะพัดไปทิศไหน ฉันอาจจะทาเล็บเท้า
จริงๆแล้วขึ้นอยู่กับอะไรที่รู้สึกดีกับความรู้สึกฉัน

[CHORUS]
*I'm not the average girl from your video
And I ain't built like a supermodel 
But I learned to love myself unconditionally,
Because I am a queen
ฉันไม่ใช่สาวทั่วๆไปที่เธอเจอในวีดีโอ
ฉันไม่ได้ถูกสร้างมาให้หุ่นเหมือนนางแบบ
แต่ฉันเรียนที่จะรักตัวเองอย่างไม่มีเงื่อนไข
เพราะฉันเป็นราชินี

I'm not the average girl from your video
My worth is not determined by the price of my clothes 
No matter what I'm wearing, I will always be
India,Arie

ฉันไม่ใช่สาวทั่วๆไปที่เธอเห็นในวีดีโอ
คุณค่าของฉันไม่ได้ขึ้นอยู่กับราคาเสื้อผ้า
ไม่ว่าฉันจะใส่อะไร ฉันก็ยังคงเป็น...
อินเดีย เอรี่

When I look in the mirror and the only one there is me
Every freckle on my face is where it's suppose to be
And I know my creator didn't make a mistake on me
My feet, my tights, my lips, my eyes, I'm loving what I see
เมื่อฉันส่องกระจก คนเดียวที่ฉันเห็นก็คือตัวฉันเอง
กระบนหน้าฉัน มีก็อยู่ในที่ที่มันสมควรจะมี
แล้วฉันก็รู้ว่าคนที่สร้างฉันขึ้นมาไม่ได้ สร้างข้อผิดพลาดบนตัวฉัน
เท้า น่อง ริมฝีปาก ตา ของฉัน ฉันรักสิ่งที่ฉันเห็น

[CHORUS]

Am I less of a lady?, if I don't wear a pantyhose
My momma said a lady ain't what she wears but what she knows
But I've drawn a conclusion, it's all an illusion
Confusion's the name of the game
A misconception, a mass deception 
Something gotta change
ฉันจะเป็นผู้หญิงน้อยไปหรือ ถ้าฉันไม่ใส่ถุงน่อง
แม่บอกว่าการเป็นผู้หญิงไม่ได้ขึ้นกับสิ่งที่สวมใส่ แต่ขึ้นอยู่กับรู้อะไร
เป็นการเข้าใจที่ผิด, การหลอกลวงอย่างยิ่งใหญ๋ (เรื่องเสื้อผ้า)
บางสิ่งจำเป็นที่ต้องเปลี่ยนแปลง

Now don't be offended, this is all my opinion
Ain't nothing that I'm saying law
This is a true confession
Of a life learned lesson 
I was sent here to share with y'all
So get in when you fit in
Go on and shine
Clear your mind
Now's the time
Put your salt on the shelf
Go on and love yourself
'Cause everything gonna be alright
อย่าขุ่นเคืองเพราะนี่เป็นแค่ความคิดของฉัน
ไม่มีสิ่งไหนที่ฉันพูดถือว่าเป็นกฎหมาย
มันคือคำสารภาพจริงๆของฉัน
ที่ได้มาจากประสบการณ์ชีวิต
ที่ฉันถูกส่งมาให้มาแบ่งปันกับทุกๆคน
เข้ามาเมื่อคุณเห็นด้วย
ล้างความคิดออกจากสมองไปซะ
มันถึงเวลาแล้ว
เก็บเกลือไว้ที่ชั้นวางซะ 
(คาดว่าเพราะพวกรักษาหุ่นจะใช้เกลือเป็นตัวช่วยในการอดอาหาร)
จงรักตัวเอง
เพราะทุกอย่างจะต้องดีแน่ๆ
*The context of the song is self-acceptance and the acceptance of ones looks. Putting the salt on the shelf may be a very indirect reference to ceasing the consumption of salt in quantities sufficient to induce vomitting/purging, a practice employed by some anorexics and bulimics.

[CHORUS]

Keep your fancy drink and your expensive minks
I don't need that to have a good time
Keep your expensive cars and your caviar
All I need is my guitar
เก็บเครื่องดืมแพงๆกับเสื้อขนมิ้งของเธอไปซะ
ฉันไม่ต้องการมีเวลาที่ดี
เก็บรถกับคาร์เวียร์เธอไปเหอะ
สิ่งที่ฉันต้องการแค่กีตาร์เท่านั้น

Keep your crystal and your pistol
I'd rather have a pretty piece of crystal
Don't need your silicone, I prefer my own
What god gave me is just fine
 เก็บคริสตัลกับปืนเธอไปซะ
ฉันขอแค่คริสตัลน่ารักๆชิ้นเล็กๆก็พอ
ฉันไม่ต้องการซิลิโคน ฉันพอใจกับสิ่งที่ฉันมี
สิ่งที่พระเจ้าให้ฉันก็เพียงพอแล้ว

เพลงนี้ถือว่าเป็นเพลงที่บอกว่าให้ยอมรับสิ่งที่มี ไม่ต้องพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเอง มีสมองย่อมดีกว่าแต่งตัวไปวันๆ เราถือว่าเพลงนี้ออกจะ feminist ไม่ใช่อะไรก็ต้องทำตามสื่อต่างๆว่าต้องผอม หน้าอกใหญ่ๆถึงจะสวยผู้ชายจะมาชอบ 

เคยฟังกันไหมคะแล้วชอบไหมคะ




5 comments:

  1. ไม่เคยฟังเลย
    เป็นเพลงที่แนวมาก แสดงจุดยืนของตัวเอง มั่นใจว่าชั้นมีดี
    ไม่ต้องเปรียบเทียบกับใคร

    สมัยนี้คนเราทำอะไรตามกระแส ว่างั้นมั๊ยคะ
    หุ่น เสื้อผ้่า หน้า ผม ต้องแนวเกาหลี
    จนบางทีนึกว่าเป็นแฝดกัน อิอิ

    ว่าแล้วต้องไปกินเกลือมั่งดีกว่า :P

    ReplyDelete
    Replies
    1. ใช่ค่ะเป็นเพลงแนวมากๆ แต่เพลงอื่นๆของอินเดียไม่มีเพลงในที่เราเห็นว่าแนวขนาดนี้เลย เพลงนี้เป็นเพลงที่เราชอบที่สุดของเธอ

      ทุกสิ่งทุกอย่างในสังคมถูก manipulate โดยกระแสโดยแท้ค่ะ ไม่ว่าการแต่งตัว หน้าผม การหาแฟน ผู้หญิงต้องขาว แบ๊วตลอดเวลา เด็กประถมต้องมีแฟน เฮ้อ บ่นซะเยอะ แต่ดีใจที่ไม่คิดอยากจะมีลูกเพราะคงทำใจไม่ได้

      555+ ถ้าอยากผอมจริงๆต้องกินผักกินหญ้าค่ะ แต่ระวังขาดสารอาหารนิดนึงนะคะ

      Delete
  2. ถ้าใครทำตัว ไม่ตามกระแสก็ถูกมองว่าแปลก
    เราคงแปลกที่ต้องใส่เสื้อซับ /เสื้อกล้าม ถ้าเสื้อตัวนอกบาง
    เดี๋ยวนี้เสื้อเนื้อบาง ผ้าชีฟองกำลังฮิต แต่ถ้าไปวัดก็ควรสุภาพนะ
    บางคนใส่เสื้อเห็นไปถึงไหนต่อไหน กางเกงสั้นจนนนนน...
    เราคงเชยเกินไปแล้วมั้ง

    บ่น เพ้อเยอะอีกแระ
    ไปหากินผักกินหญ้าชุบแป้งทอดดีกว่า ^^

    ReplyDelete
    Replies
    1. เรื่องเสื้อซับนี่เมื่อสมัยมัธยมก็ใส่ค่ะ แต่โตแล้วไม่ได้ใส่เลยเนื่องจากหน้าตา หุ่น นั้นไม่ต้องห่วงว่าใครจะสนค่ะ แถม โดยปกติใส่แต่เสื้อเชิตกับกางเกงขายาวไปทำงานทุกวันค่ะ จะคิดมากตอนเพื่อนจะแต่งงานเนี้ยแหละเพราะเขานัดกันไปตัดชุดเราก็เอาแค่สีใกล้เคียงก็พอ จำไม่ได้แล้วว่าครั้งสุดท้ายที่ใส่กระโปรงนี่เมื่อไหร่น่าจะเกิน 10 ปี

      ผักหญ้าชุบแป้งทอดน่าอร่อยนะคะ

      Delete
  3. ไม่เคยได้ยินนะ แต่โดนกับใจมาก.
    แม่เราชอบบ่น ทำไมไม่แต่งตัวอย่างโน้น อย่างนี้
    ทำไมไม่แต่งหน้า. ทำไมไม่หวีผมบ่อย ๆ
    ทำไม ทำไม ไม่แต่งตัวแบบคนอื่นเขา บลา บลา บลา

    เรานี่เบื่อมาก ทำไมต้องตามใคร เราก็คือเรา
    สไตล์เราเป็นแบบนี่. จะให้เราเป็นแบบคนอื่น เพื่อ?
    ยิ่งบ่น มาก พูดเยอะ เรายิ่งไม่ทำ
    อย่างแต่งหน้าบ้างตอนไปทำงาน. ก็จะแล้วแต่อารมณ์ และเวลา
    ก็ไม่ได้แต่งเยอะ แค่ ปะ แปะ นิดหน่อย
    พอแม่พูดบ่อยๆ. เราเลยไม่แต่งซะเลย 5555

    ReplyDelete