Wednesday 14 March 2012

หนังที่ชอบ 1

เขียนเรื่องเพลงติดต่อกัน 2 บล๊อกแล้ว ไม่รู้ว่าคนอ่านเบื่อไหม แต่คนเขียนเบื่อ ;-) เมื่อวานเลยนั่งคิดดูว่าจะเขียนเรื่องอะไร ก็เหลือบไปเห็นนิตยสารที่ซื้อเป็นประจำทุกเดือนคือ Flimax กับ Bioscope (2 ฉบับนี้ซื้อเอง ส่วนนิตยสารเล่มอื่นอาศัยคนที่บ้านอ่าน) เลยคิดว่าจะเขียนเรื่องหนัง โจทย์ต่อไปจะเขียนถึงหนังเรื่องอะไรดี คำตอบที่ได้คือหนังที่ดูเกิน 2 ครั้ง เพราะชอบ ดูแล้วยิ้ม มีหนังเข้ารอบอยู่หลายเรื่อง แต่หนังจำพวก Hollywood ตัดออกไปเนื่องจากมีคนเขียนถึงเยอะแล้ว เลยเลือกหนัง yuri มาเขียนเพราะเห็นว่าหนังกลุ่มดังกล่าวมีคนพูดถึงน้อยกว่าหนัง yayoi (เอ่อ จขบ ก็ไม่ค่อยดู yayoi เท่าไหร่ ดูรอบเดียวพอไม่ได้ปลื้มถึงขั้นดูซ้ำเพื่อเก็บรายละเอียดเหมือนหนัง yuri) ฉะนั้นเลยเหลือหนัง yuri ประเภท feel good อยู่ในหัว 2 เรื่อง คือ 'Saving Face' กับ 'Imagine Me & You' ตัดสินใจเลือกไม่ถูกแต่ Saving Face อยู่ในคอมเครื่องเก่าไม่มีแผ่นดีวีดี ที่สามารถหยิบขึ้นมาดูแบบผ่านเพื่อกระตุ้นความจำได้ เลยมา final decision ที่ IMAGINE ME &YOU 


Imagine Me & You


ปกติหนังที่มีบทเกี่ยวกับคนที่รักเพศเดียวกันมักจะทำให้ชาว LGBT (Lesbian, Gay, Bi, Trans) ผิดหวังเพราะทัศนคติในแง่ลบ อาจจะถึงขั้นเลวร้ายต่อคนรักเพศเดียวกัน หรือบทมักจะเป็นบทเสริมเล็กๆของความรักระหว่างหญิงชาย หรือไม่ก็เป็นหนังนอกกระแสหาดูได้ยากมากถึงมากที่สุด แต่ IM&Y เป็นหนังที่ถือว่าฉายในโรงใหญ่ไม่ได้ฉายแต่ในเทศกาลเท่านั้น (ได้ฉายทาง HBO ด้วย) ถือว่าเข้าถึงคนดูหลายกลุ่มไม่เฉพาะเจาะจง แต่คนดูเหล่านั้นต้องมีใจที่เปิดกว้าง ที่จะยอมรับความแตกต่างของคนอื่นไม่ใช่คิดว่าความรักบนโลกนี้มีแต่ ระหว่างชาย-หญิงเท่านั้น กอปรกับหนังเรื่องนี้ไม่ได้แสดงถึงด้านมืดที่คนโดยทั่วไปคิดว่าความรักระหว่างเพศเดียวกันเป็น แถมพล๊อตหลักของเรื่องเป็นเรื่องของสองสาวอีกต่างหาก

มาแนะนำตัวแสดงหลักกันก่อนดีกว่า

Luce (Lena Heady)
Rachel (Piper Perabo)
Heck (Mathew Goode)

เริ่มเรื่องมาวันที่ Rachel กำลังจะ tie the knot (แต่งงาน) กับเพื่อนและคนรัก Heck โดยมีนักจัดดอกไม้ Luce มาเนรมิตดอกไม้ที่โบสถ์กับที่งานเลี้ยงให้ ในงานเลี้ยง Luce ช่วย Rachel งมแหวนขึ้นมาจากที่ใส่น้ำพันซ์หลังจากนั้น Rachel ก็ถูกชะตากับ Luce เหลือเกินพยายามจะจับ Luce กับ Cooper ในที่สุด Rachel ก็รู้ว่า Luce เป็น gay จึงเริ่มงงกับความรู้สึกตัวเองที่มีต่อ Luce พยายามที่จะหักห้ามใจก็ทำไม่ได้ Luce เองก็ไม่ชอบที่จะไปทำลายชีวิตแต่งงานของใคร จึงตกลงกันว่าความสัมพันธ์คงเป็นไปไม่ได้เพราะทั้งสองสาวไม่อยากที่จะทำร้ายผู้ชายที่แสนดีอย่าง Heck (ดีจริงๆนะ ถ้ามีผู้ชายอย่างนี้ในโลกสักเกินครึ่งหนึ่งของประชากรเพศชายบนโลกใบนี้ คงทำให้ปัญหาความรุนแรงในครอบครัวน้อยลงไปมาก อ้อ ต้องชายแท้ด้วยนะ จะหาสินสอดไปสู่ขอ Heck เลย) แล้วทั้งสองสาวจะต่อสู้กับความรู้สึก รักนะแต่เป็นไปไม่ได้ ได้ไหม คนที่ยังไม่ได้ดูก็ไปดูเอานะคะ ส่วนคนที่ดูแล้วอ่านต่อข้างล่างนะคะว่าชอบอะไรในเรื่องเหมือนเราไหม

อ้อ ชื่อเรื่องผู้กำกับ/คนเขียนบท เอาท่อนแรกของเพลง Happy Together ของวง Turtles เพลงนี้ถือว่ามีบทบาทสำคัญทีเดียว มาฟังกันดีกว่า










มาคุยว่าเราชอบอะไรในเรื่องกันบ้างดีกว่า 

ชอบตอนต้นเรื่องที่ Edie ชวน Luce ไปเที่ยวแล้วบอกว่า
Edie: You need a love life.
Luce: I've got a like life.
มันทำให้เห็นว่าทุกคนไม่จำเป็นต้องมีความรัก ชีวิตนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความรัก สำหรับเรานะคะ คนอื่นอาจจะไม่เห็นด้วย เราชอบดูหนัง Rom-Com แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องมองหาความรัก ชอบเพราะมันทำให้เรายิ้มมีความสุข และแม้เราไม่ได้มีความรักชีวิตเราก็ไม่ได้ bitter ซะหน่อยยังมีความสุขกับสิ่งที่เราชอบได้

ชอบตอนที่ H ถามคำถามที่โบสถ์ไม่มีใครตอบได้แต่ Luce ตอบได้ (ชอบสาว nerd ^^) แถมชอบตอนที่ Heck บอกว่า I haven't got a bastard clue ชอบมัน bloody English ดี (ก็หนังอังกฤษนี่นา)
คำถามและคำตอบมีผลต่อการตัดสินใจของ Heck ตอนจะจบอยู่หน่อยนึงนะคะ

H: What happen when an unstoppable force meets an immovable object?
ไม่มีใครตอบได้จน Luce ช่วย
Luce: It never happens. If there a thing that can't be stopped, it's not possible for there to be something else which can't be moved and vice versa, they can't both exist.

ชอบชื่อ Henrietta แถมชอบชื่อเล่นของคื่อ H เพราะมาจาก Jesus 'H' Christ ตอนแม่รู้ว่าตั้งท้อง แถมน้องหนู Boo Jackson เล่นได้น่ารักไม่กระแดะเหมือนเด็กหลายๆคนในละครไทย (อ้าวเฮ้ยไปกระแนะกระแหนนได้ไงคนละเรื่องเลย 555)

ชอบตอนที่ Heck รู้ว่า Luce เป็น Gay แล้วบอกว่า Lovely, well-done (bloody English again) ฟังแล้วนึกถึงเวลาดูรายการ 'The Big fat Quiz of the Year' ตอน David Williams พูด You were great, congretuwelldone! มันออกแนวประชดยังไงไม่รู้ อันนี้ Heck คงประชดตัวเองว่าทำไมถึงดูไม่ออกวะว่าเป็น gay

ชอบตอนที่ Rachel ไม่สามารถหักห้ามตัวเองโดยการใส่เสื้อ cardigan ให้ Luce บนหลังคาได้เพราะ Luce หนาว มันแบบเหมือนว่า ขอแตะนิดแตะหน่อยก็ยังดี 

ชอบที่Supermarket ที่ Heck บอก Rachel ว่า Luce นั้นเป็น gay ขำว่า Gay as a tennis player แหมมนักเทนนิสไม่ใช่เลสก็เยอะแยะนา เมื่อก่อนคงต้องบอกว่า gay เหมือน Martina หรือ Amelie ตอนนี้คงต้องบอกว่า Sam Stosur ถึงเธอจะไม่ได้ออกมายอมรับก็เถอะ

ชอบฉากที่ H present งานที่ห้อง แล้ว Luce วางมือไว้ข้างตัว Rachel ก็เอามือมาวางข้างตัวเช่นกัน มือจะได้สัมผัสเล็กๆกับมือของ Luce น่ารักเหมือน Rachel จะบอกว่าขอแค่มีความสุขจากไอสัมผัสเล็กๆก็พอใจ แม้ความคิดจะเตลิดไปถึงไหนต่อไหนแล้วก็ตาม

ชอบฉาก ตอน Guy Fawkes Day ที่ Rachel เห็น Luce กับแม่แล้วรู้สึกไม่ดีเหมือนจะหึง พร้อมกับคิดถึงจึงอยากจะขจัดความรู้สึกไปโดยการชวน Heck กลับบ้าน แต่ก็อดไม่ได้ที่ถึงบ้านแล้วโทรไปหา Luce แต่ก็ไม่กล้าจะพูดเลยวางหูไป

ชอบฉากที่สนามบอลที่ Luce สอนให้ Rachel ตะโกน แล้วRachel ให้ Luce ใช้สองมือจับกระบังลม เพราะมันเหมือน Luce กอดเธอและเธอก็รู้สึกดี สังเกตุได้จากใบหน้า

ชอบฉากตอนเดินกลับบ้านที่คุยกันเรื่องความหมายของดอกไม้ แล้ว Rachel พยายามให้ Luce บอกความหมายของดอกลิลลี่ให้ได้ สีหน้าตอน Luce พูดว่า I dare you to love me นั้นแบบว่า กล้าไหมล่ะ

ชอบตอนที่ Rachel ไปบอก Luce ว่าฉันรู้สึกอย่างนี้กับเธอไม่ได้นะ มันไม่ควรแล้วก็ออกไปแต่ก็หักห้ามใจไม่ได้เข้ามาหา Luce อีกครั้ง (เรื่องกำลังน่ารักเลยอีตา Heck ดันโผล่มาให้ สองสาวรู้สึกผิด)

ชอบตอนวันเกิด Rachel ที่ Heck รู้แล้วว่าใครเป็นคนที่ Rachel รัก เพราะ H บอกว่า Luce กำลังไปที่อื่น She's going on a very long holiday แล้วหน้าตา Rachel แสดงออกเลยว่ารู้สึกอย่างไร จน Heck รู้เลยว่า Rachel หลงรัก Luce พร้อมกับบอกว่า 'Because what you're feeling now Rachel, is the unstoppable force. Which means I've got to move.  พอฟังคำนี้ก็เลยนึกขึ้นได้ว่าคำถามของ H ตอนต้นเรื่องถือว่าเป็นคำถามสำคัญทีเดียว เมื่อความรักเกิดขึ้นแล้วมันเหมือนเป็น unstoppable force 

ชอบตอนที่ Rachel ได้ยินหนุ่มขี่จักรยานร้องเพลงแล้วเลยรู้ว่า Luce ก็รถติดอยู่แถบๆเดียวกับเธอ เพลงเนื้อหาน่ารัก Imagine me and you, I do....

ชอบนักแสดง Matthew Goode เป็นผู้ชายที่น่ารัก เพิ่งได้ดู Leap Year เล่นเป็นหนุ่มกวนตีนได้น่ารักจริงๆ

ชอบ Lena Heady ชอบจริงจังก็จากเรื่องนี้แหละ เพิ่งนึกได้ตอนหลังว่า Lena เคยแสดงเป็นเลสใน Possession เรื่องที่ดูที่ฝรั่งเศสแถมพากษ์ฝรั่งเศสด้วย ดูไม่รู้เเรื่องเลยจินตนาการจากภาพอย่างเดียว แต่เห็นหน้า Gwyneth ก็คุ้มแล้วตอนนั้น 555+

ชอบ Piper Parebo ชอบมาตั้งแต่ Coyote Ugly ถึงตอนนั้นจะดูเพราะ Maria Bello ก็เถอะนะ แต่เราว่า Lena กับ Piper เคมีเข้ากันจริงๆ 

ไปทำงานต่อแล้วค่ะ

4 comments:

  1. ยาวมากเลยนะคะ

    ดูเรื่องนี้ก็นานแล้ว

    ถ้าจะบอกตอนนี้ ก็ชอบตัวเอก เข้ากันดีอย่างที่คุณว่า
    ชอบ Lena ค่ะ ดูเท่ห์ ไม่น่าจัดดอกไม้เก่งเลย :P
    เนื้อเรื่องที่ไม่เครียดเท่าไหร่ ไม่มีตัวร้ายมาบีบหัวใจ
    ครอบครัวของทั้งคู่ที่เข้าใจในตัวตนของลูก คอยเป็นกำลังใจให้
    ชอบฉากที่โรงเรียนของ H แค่นั่งใกล้กันยังจินตนาการไปได้ถึงไหน ๆ
    ชอบฉากที่สนามบอล
    แล้วก็...

    ขอเวลาไปดูซ้ำก่อนละกัน จำไม่ค่อยได้แล้ว อิอิ

    ReplyDelete
    Replies
    1. เรื่องนี้เราก็ดูนานแล้วค่ะ เพียงแต่อยากเขียนเลยไปขุดกรุขึ้นมาดูแล้วก็โน๊ตว่าอะไรหลงลืมไปบ้าง เรื่องนี้ไม่เครียดจริงด้วยค่ะเพราะดูไปอมยิ้มไปกับ Luce และ Rachel ไม่เหมือนหนังยูริโดยส่วนมากที่เศร้าเคล้าน้ำตา ดูไปแล้วไม่อยากจะอยากหยิบขึ้นมาดูใหม่ ไม่ต้องมีฉากวาบหวามแค่มีความน่ารักก็พอแล้วค่ะ

      Delete
  2. Feel good movie ดูกี่ครั้งก็มีความสุขนะคะ เราเองไม่ค่อยชอบดูหนังที่รันทดผิดหวังเท่าไหร่เลยหละ ชีวิตมีเรื่องดราม่าเยอะละ หาอะไรดูที่สร้างพลังใจดีกว่า

    คุณดูได้ละเอียดมาก ๆ เลยนะคะ ในโลกนี้จะมีผช.อย่าง Heck เหรอ?
    ถ้ามีคงน้อยมากหละ ที่จะยอมเข้าใจ ถึงจะเข้าใจแต่ก็มีศักดิ์ศรีลูกผู้ชาย บ้าบอ ค้ำคออยู่

    Saving Face เป็นเรื่องแรกมั้งที่เราดูหนังแนวนี้ เรื่องที่ 2 ก็คงเป็นเรื่องนี้
    ชอบทั้ง 2 เรื่องคะ เพราะจบแฮปปี้

    อ๋อ ชอบ Lena จากเรื่องนี้เหมือนกัน
    ผญ.อะไรดูเท่ห์ และมีเสน่ห์นะ ทรงผมเธอเท่ห์ดีนะเราว่า

    ReplyDelete
    Replies
    1. ดูหลายรอบค่ะ เราชอบบทเรื่องนี้นะคะ เขียนได้น่าักดี

      Delete