Sunday 15 July 2012

หัดเขียน 16


มาแล้วค่ะ ร้อนๆเพิ่งปั่นเสร็จเลย 555 แต่เราจะเป็นคนที่รักษาคำพูดว่าจะเอามาลงให้อ่าน จขบ ทำตัวเป็นคนดีเนอะ วันนี้วันอาทิตย์ไม่ได้ไปไหนเลยค่ะ นอกจากเก็บห้องนอนซึ่งมันรกมากรกไปด้วยหนังสือ อ้อ มีใครเคยอ่านหนังสือของ คุณ ผมอยู่ข้างหลังคุณบ้างคะเมื่อวานเราไปซื้อหนังสือเรื่อง Fineday Sadturday มาอ่านไปแล้วหนึ่งบท ชอบนะคะแนะนำๆ เราซื้อเพราะไปอ่านเจอตอนหนึ่งในหนังสือเขียนไว้ว่า

เราเคยหัวเราะ ... นักแสดงตลกที่แกล้งเดินเลียนแบบ อ่าง เถิดเทิง, คนตาเข ที่ถูกเอามาล้อเลียนในละคร, คนอ้วน ที่ถูกด่าในหนังหรือโชว์ต่างๆ ว่า อีช้างน้ำ, คนติดอ่าง ที่ถูกแซวเวลาพูดไม่ชัดในรายการเกมส์โชว์

เราเคยอาย ... ที่มีสิวเม็ดโตๆ ขึ้นบนใบหน้า, เส้นผมบางจนเริ่มใกล้เคียงกับนิยามของคำว่า หัวล้าน, หน้าอกที่แบนราบกว่าเพื่อนร่วมรุ่น หรือ ขาที่โตจนไม่กล้าใส่ชุดว่ายน้ำโชว์คนอื่น

เมื่อเทียบ วันที่เราเคยหัวเราะ กับ วันที่เราเคยอาย เราจะพบว่า มันไม่ต่างกัน เพราะมันคือ วันที่เรามอง 'ความแตกต่าง' ว่าเป็น 'เรื่องน่าอาย'

เราตัดสินว่า การมี หรือ ไม่มี เหมือนคนอื่น คือ ความด้อยกว่า และ ปล่อยให้การหัวเราะเหยียดหยามเกิดขึ้นราวกับเป็น เรื่องธรรมดา”

ทำให้เราต้องไปซื้อหนังสือมาอ่านเลยค่ะ พล่ามมาซะยาว เริ่มอ่านกันได้แล้วค่ะ

บทที่  ๑๕

เบญจ์โทรศัพท์ไปหาปูรณ์ว่าเมื่อไรที่กลับมากรุงเทพแล้ว ขอให้ช่วยมาหาที่บ้านด้วยเธอมีเรื่องจะปรึกษา คนเดียวหัวหายสองคนเพื่อนตาย ถ้ามีปูรณ์เป็นขงเบ้งให้คำแนะนำอยู่ข้างๆน่าจะมีแนวทางในแก้ปัญหาที่ดีมากกว่าเธอต้องนั่งปวดหัวอยู่คนเดียว

“แล้วหมอบอกว่าเบญจ์จะหายดีเป็นปกติเมื่อไหร่ล่ะ”  ปูรณ์ถามด้วยที่ต้องการรวบรวมข้อมูลเพื่อใช้หาแนวทางในการช่วยเหลือคนเครียดๆที่นั่งคิ้วชนกันอยู่ฝั่งตรงข้าม

“น่าจะอีกสักประมาณเดือนหนึ่งนะ เห็นหมอบอก”

“งั้นช่วงนี้คงต้องให้ณีนอยู่ที่บ้านแม่เขาไปก่อนซะละมั้ง”

“แต่เราเป็นห่วงว่า ณีนจะเครียดน่ะสิ ไปอยู่บ้านแถมเราคงไม่มีโอกาสได้ไปเยี่ยมแน่ๆ”

“คงต้องให้น้องนันท์เป็นตัวช่วย แต่ก็ไม่รู้ว่าจะช่วยได้แค่ไหนน่ะสิ”

“ลองไปคุยกับคุณณัชพี่ชายณีนดูไหม เผื่อเขาจะเข้าใจเหตุผล เราว่าไม่แน่เราจะไปขอย้ายณีนไปโรงพยาบาลที่เรารักษาอยู่ เดี๋ยวเราไปเฝ้าเอง”

“คิดอะง่ายแต่แม่ณีนจะยอมเหรอ แต่เราว่าเรามีความคิดดีๆที่ต้องมีตัวช่วย”

“อะไรล่ะ”

“เดี๋ยวถ้าสำเร็จจะมาบอกนะ ต้องโทรไปหาตัวช่วยก่อน ส่วนณีนทางที่ดีอย่างเพิ่งไปเยี่ยมหรือวโผล่หน้าไปให้แม่ณีนเห็นล่ะ อดทนอีกนิด ถ้าได้เรื่องยังไงแล้วเราจะรีบโทรมาบอก”

ปูรณ์ก็รีบเดินทางไปเยี่ยมณีนนารา เพื่อจะไปส่งข่าวให้เพื่อนรักว่าไม่ต้องเป็นห่วง แถมจะไปเสนอไอเดียนี้กับผู้ช่วยของเธออีกต่างหาก ตะวัน  แต่กว่าจะโทรไปหาตะวันได้คงต้องรอเวลาอีกสักประมาณ 2-3 ชั่วโมง

“สวัสดีน้องนันท์ แม่ไม่อยู่เหรอ”  ปูรณ์เปิดประตูเข้าไปเจอณิชานันท์นั่งอ่านนิตยสารอยู่คนเดียว

“ไม่อยู่ค่ะพี่ปูรณ์ ไม่จัดการห้องที่จะย้ายให้พี่ณีนไปพักฟื้นที่บ้าน”

“อย่างงี้น่าจะพาเบญจ์มาด้วย”  ปูรณ์พูดไปหัวเราะไปเบาๆ

“โอ๊ย คุณแม่สั่งพยาบาลข้างนอกไว้อย่างดีค่ะ ฝ่าด่านมาไม่ได้แน่ๆ”

“จะย้ายกลับบ้านเมื่อไหร่ล่ะ”

“น่าจะพรุ่งนี้ค่ะพี่ปูรณ์ คุณแม่จะเอาพี่ณีนเข้าห้องลับคุณเบญจ์คงฝ่าด่านคนที่บ้านไปเยี่ยมไม่ได้”

หลังจากนั้นปูรณ์ก็เล่าแผนการที่เธอวางไว้ให้เพื่อนเธอกับเพื่อนรักผ่านอุปสรรคช่วงพักรักษาตัวไปด้วยกันให้ได้ ปูรณ์มั่นใจว่าพอณีนนาราหายดีทุกอย่างคงจะดีขึ้น

“นันท์จะสนับสนุนเรื่องนี้กับคุณแม่เองค่ะ มั่นใจว่าคุณแม่กับพี่ณัชน่าจะเห็นด้วย ยังไงจะไปบอกพี่ณัชเอาไว้ก่อน”  ณิชานันท์รับปากต่อเพื่อนพี่สาว

“งั้นพี่ขอตัวไปโทรศัพท์ก่อนนะ ตะวันน่าจะตื่นแล้ว เดี๋ยวพี่จะขึ้นมาใหม่”  แล้วปูรณ์ก็ออกไปหาที่เงียบๆโทรไปหาตะวัน พร้อมเสนอความคิดเห็นได้แต่หวังว่าเพื่อนเธอคนนี้จะเห็นด้วย ตะวันตอบกลับมาว่าด้วยความยินดี ต้องให้ทำอะไรบ้างแค่เพียงให้บอก ปูรณ์จึงเดินยิ้มขึ้นไปเยี่ยมเพื่อนรักเธออีกครั้ง

“ว่าไง หน้าตาไม่ดีเลย เดี๋ยวก็ได้กลับบ้านแล้วนะคุณเพื่อน”  ปูรณ์เอ่ยทักณีนนารา

“นั่นแหละ อยากเจอเบญจ์ เห็นนันท์บอกว่าแม่ไปว่าเบญจ์อะ ไม่ให้มาเยี่ยมด้วย ทั้งๆที่เราเป็นฝ่ายผิดเราเป็นคนที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุนะ”

“เฮ้ยๆ ใจเย็นๆ แม่แกเขาไม่ได้ห่วงเรื่องแกเจ็บ แกก็น่าจะรู้นะว่าเรื่องอะไร ทนช่วงนี้ไปก่อนนะ รอให้หายดีทุกอย่างจะดีขึ้น เชื่อหัวไอ้ปูรณ์เถอะ”

“อย่าพูดเล่นสิเครียดนะเนี้ยะ”

“ไม่พูดเล่นพูดจริง เอาเป็นว่าถ้าฉันเสนออะไรกับแม่แก แกก็ช่วยเห็นดีเห็นงามโดยไม่ต้องถามเหตุผลจากฉันนะ ทุกอย่างจะดีเอง แล้วพรุ่งนี้ตอนแกย้ายไปพักที่บ้านแกให้น้องนันท์โทรมาบอกฉันด้วย ฉันจะได้ไปเยี่ยมหาแกที่บ้านนะจ๊ะ อะนี่คุยกับเบญจ์หน่อยบอกให้เขาอย่าเครียดมาก”  ปูรณ์กดโทรออกพร้อมยื่นมือถือไปแนบที่หูของณีนนารา

“สวัสดีปูรณ์” เสียงเบญจ์พูดมาตามสาย

“ไม่ใช่ปูรณ์ค่ะ  เป็นไงบ้างคะ คิดถึงนะคะ”

“คิดถึงณีนเหมือนกันค่ะ อยากไปเยี่ยมนะคะ แต่ไปไม่ได้  ปูรณ์บอกว่าหาทางช่วยอยู่”

“ปูรณ์บอกเหมือนกันค่ะ แต่ณีนเครียดจังอยากให้คุณแม่เข้าใจ”

“อย่าเครียดสิคะ เดี๋ยวหายแล้วจะพาไปเดินเล่นพร้อมให้อาหารปลานะคะ พาไปทะเลด้วย รักนะคะพักผ่อนมากๆ จะได้หายเร็วๆ”

“ค่ะ จะพยายาม รักค่ะ”  ณีนนาราพูดเสร็จพร้อมพยักหน้าให้ปูรณ์เอามือถือออกไป พร้อมหลับตาลงด้วยความเหนื่อยใจ

“ฉันไปก่อนนะ มีงานต้องทำ เดี๋ยวไปหาพรุ่งนี้นะ แกพักซะอย่าลืมแกมีฉันช่วยทั้งคน” ปูรณ์กล่าวลาเพื่อนรักพร้อมเดินออกไปตามให้ณิชานันท์กลับเข้ามาอยู่เป็นเพื่อนณีนนารา

หลังจากนั้นปูรณ์ก็เข้าไปสำนักงานเพื่อพบวรชญา เธอรู้ว่าวรชญานั้นรู้จักคนเยอะน่าจะจัดการเรื่องที่เธอขอร้องให้ได้โดยไม่ลำบากอะไร

เย็นวันรุ่งขึ้นปูรณ์ไปเยี่ยมณีนนาราที่บ้าน หลังจากตอนบ่ายณิชานันท์โทรมาบอกเธอว่าคุณณิชาย้ายณีนนารากลับมาพักฟื้นที่บ้านแล้ว

“สวัสดีค่ะคุณแม่ ณีนเป็นไงบ้างคะ”  ปูรณ์ไหว้พร้อมถามถึงเพื่อนสนิท

“มาเยี่ยมณีนหรือลูก เขาก็ดูหงอยๆ แต่หมอก็บอกไม่เป็นอะไรแล้วเหลือเพียงแต่ฟอลโล่ อัพ อาการ ถ้าไม่มีอาการปวดหัวก็ไม่น่าจะมีปัญหา”

“หงอยเหรอคะ สงสัยเบื่ออยู่ในห้องมั้งคะ ปกติณีนเขาชอบไปเดินเล่นตามสวนสาธารณะ”

“จะไปเดินยังไงล่ะลูก แม่จะให้คนพาลงมาที่สวนในบ้านก็กลัวนะบ้านเราอากาศร้อน แถมมลพิษทั้งนั้น” 

“ไปพักผ่อนที่อังกฤษไหมคะ อากาศที่อังกฤษดีกว่าเมืองไทยแน่ๆ”

“จะไปไหวหรือลูก นั่งเครื่องตั้ง 12 ชั่วโมงนะจ๊ะ แถมณีนต้องทำกายภาพอีก”

“นั่งเฟิร์สคลาสไม่ลำบากค่ะ ไปอยู่กับตะวันไงคะ แถมทุกปีณีนต้องไปพักผ่อนที่อังกฤษปีนี้ยังไม่ได้ไปเลย”

“แต่แม่เป็นห่วง แม่จะไปดูแลหรือให้ยัยนันท์ไปดูก็ไม่ได้ แม่ต้องทำงานตอนนี้นันท์เขาเรียนนิติภาคสมทบอยู่ด้วย”
“แม่ไม่ต้องห่วงค่ะ ปูรณ์เดินทางไปกับณีนเอง ไปช่วยดูแลให้สัก 2 อาทิตย์แล้วจะหาคนมาดูแลณีนตอนกลางวัน ตอนกลางคืนตะวันก็อยู่เป็นเพื่อนไงคะ ส่วนนักกายภาพไม่น่าจะเกินมือตะวันค่ะ คนนั้นเขากว้างขวาง”

“ให้แม่ถามหมอกับปรึกษาคุณพ่อกับตาณัชก่อนนะจ๊ะ นี่ปูรณ์ยังไม่ได้เข้าไปเยี่ยมณีนเลยใช่ไหมลูก  อยู่ห้องข้างล่างจ๊ะแม่ดัดแปลงห้องทำงานเก่าของคุณพ่อให้ยัยณีนเขาพัก”

“งั้นหนูขอตัวไปเยี่ยมณีนก่อนนะคะ” ปูรณ์ก็เดินไปเยี่ยมณีนนาราที่ห้อง เมื่อเปิดประตูเข้าไปเธอพบณีนนารานอนดูโทรทัศน์อยู่ หรือที่ถูกต้องณีนนาราเหม่อมองให้โทรทัศน์ดูเธอต่างหาก ปูรณ์ก้าวไปยังเก้าอี้ใกล้ๆเตียง “ณีนเหม่อไปไหน”

“จะไปไหนได้ เดินไปไหนเองก็ลำบาก” ณีนนาราบ่น แกติจะไม่ค่อยมีใครพบเห็นแง่มุมนี้ของณีนนารามากนัก นอกจากคนในครอบครัวและเพื่อนสนิท

“จ้า คุณนาย แล้วหมอว่ายังไงล่ะ”

“หมอก็บอกว่าไม่เป็นไรหรอกเพียงแต่รอกระดูกประสาน อีกสักสองอาทิตย์น่าจะใส่เฝือกอ่อนได้ แล้วก็ทำกายภาพ”

“งั้นดีเลย ฉันเสนอความคิดที่จะให้แกไปพักฟื้นที่อังกฤษแล้ว แกมีวีซ่าตลอดชีพใช่ไหม ส่วนฉันเพิ่งทำมัลติเพิล เอนทรี่ ไปยังใช้ได้อยู่ แล้วเราจะไปลัลล้ากันที่อังกฤษ”

“ก็ดี ฉันเบื่อนั่งนอนๆในห้องสี่เหลี่ยมจะแย่อยู่แล้ว แล้วเบญจ์ล่ะ”

“ถ้าแกได้ไปอังกฤษทุกอย่างมันก็ไม่ยากใช่ไหม คิดสิ” ปูรณ์พูดอย่างยิ้มๆ

ณีนนารายิ้มอย่างมีความหวังออกมา ปูรร์นั่งคุยกับณีนนาราจนกระทั่งสาวใช้ในบ้านมาเคาะประตู บอกว่าคุณณิชาให้มาเชิญปูรณ์ไปกินข้าวเย็น ปูรณ์กล่าวขอบคุณแล้วบอกว่าจะเดินตามไป เธอหันกลับมาลาเพื่อนเธอบอกว่าหลังจากทานข้าวกับครอบครัวเพื่อนเสร็จแล้วจะกลับบ้านเลย มีเรื่องที่จะต้องจัดการอีกมาก  ระหว่างทานอาหารปูรณ์ก็เสนอความคิดเรื่องณีนนาราอีกครั้งโดยมีณิชานันท์เป็นลูกคู่สนับสนุน ส่วนณัชนั้นก็ไม่ได้คัดค้านอะไร คุณณิชาเลยหันไปปรึกษาสามีว่าควรจะให้ลูกสาวไปอังกฤษดีไหม พร้อมบอกว่ายังไงถ้าปรึกษากับแพทย์ประจำตัวณีนนาราแล้วว่าอย่างไรจะบอกให้ปูรณ์รู้  เมื่อทานข้าวเสร็จปูรณ์ก็ลากลับทันที

เมื่อกลับถึงคอนโดปูรณ์ก็โทรทาเบญจ์เพื่อบอกแผนการ พร้อมให้เบญจ์เตรียมตัว ไปปรึกษากับแพทย์ประจำตัว

“แล้วเราจะรีบไปคุยกับคุณหมอพรุ่งนี้นะไม่น่าจะมีปัญหา”

“ส่วนเรื่องคิวสัมภาษณ์ไม่ต้องห่วงนะ เราบอกพี่วีไว้แล้ว คนนั้นเขาเส้นสายเยอะช่วยได้แน่นอน”

“ขอโทษนะ เพราะเราแท้ๆเลยทำให้ปูรณ์วิ่งวุ่น”

“ไม่เป็นไรเพื่อเพื่อนรักกับแฟนเพื่อนรักเราเต็มใจ อย่าลืมเรื่องที่เราให้เตรียมนะ เราไปทำงานต่อก่อนนะ ยังไงเราจะติดต่อไป” ปูรณ์บอกไม่ให้เบญจ์กังวลไป พร้อมทั้งขอตัวไปสะสางงาน

ในที่สุดคุณณิชาก็ตกลงเรื่องให้ณีนนาราไปพักผ่อนที่อังกฤษ โดยมีที่ณีนนาราต้องรอถอดเฝือกที่ขาและที่มือออกเสียก่อน อีกประมาณ 3 อาทิตย์ณีนนาราก็จะพร้อมเดินทางไปพักฟื้นที่อังกฤษโดยมีปูรณ์ไปช่วยดูแลในระยะแรก

B de Beauvoir 15-07-2012 @Thailand

ยังคงอึดอัดกันต่อไปแต่ตอนหน้าหวานแล้วค่ะ คนเขียนรับรอง แล้วเราจะไปเที่ยวอังกฤษไปด้วยกันนะคะ

28 comments:

  1. เย้ งั้นเก็บกระเป๋ารอนะคะ จะได้ไปเที่ยวอังกฤษละ อิอิ
    ตอนหน้าหวานแล้วเหรอคะ งั้นเราคงต้องงดทานน้ำตาลไปพักนึงเลย
    เพื่อเตรียมรับความหวานจากนิยายของคุณ

    และอาจจะต้องเตรียม ยาฉีดมด ไว้ระหว่างอ่านหรือเปล่าคะ :p


    หนังสือข้างบนเรายังไม่เคยอ่านเลยคะ แต่ดูจากบางตอนที่คุณเอามาลงนั้น
    หนังสือเล่มนี้เนื้อหาดีนะคะ บางครั้งการอ่านหนังสือประเภทนี้ก็เหมือนเป็นการเตือนสติเราได้ บางครั้งเราก็หลุดหัวเราะกับสิ่งที่ในทีวีเอามาล้อเลียนบ้าง แต่ภายในจิตใจเรา เราไม่คิดจะล้อเล่นกับปมด้อยของคนอื่น
    หนังสือเล่มนี้น่าจะเป็นการ Refresh จิตสำนึกที่ดี ๆ ได้คะ
    แล้วเราจะไปลองหามาอ่านนะคะ

    พูดถึงการล้อถึงปมด้อย
    มีน้องคนนึงเค้าเป็นคนรูปร่างอ้วนมาก แล้วเค้าจะโพสต์ประมาณแอบชอบน้องที่ทำงาน อะไรประมาณนี้

    แล้วก็มีหัวหน้าเก่าของน้องเค้า มาโพสต์กัดแบบเจ็บ ๆ (เจ็บมากเลยนะ)
    ซึ่งเราอ่านแล้วยังโมโหแทนน้องเค้าเลยนะ แต่น้องเค้าไม่ตอบโต้อะไรเลย
    เป็นเราหละคงไม่ยอม เป็นผู้ใหญ่ซะปล่าว ไม่มีภาวะการควบคุมทางจิตใจเลย ว่าอะไรควรพูด ไม่ควรพูด หรือเค้ามองว่าตัวเค้าเอง เพอร์เฟคทุกอย่าง (ชิส์)

    วันนี้ก็มึน ๆ แฮงค์ จนถึงช่วงบ่าย ๆ แล้วก็เลยดู Sherlock
    ก็ยิ่งมึนไปใหญ่ เลยไปหาข้าวกิน หายมึนเลยคะ (สงสัยจะหิว) 5555
    สนุกอะ ชอบ ๆ หนังแนวนี้มาก มีความใฝ่ฝันอยากเป็นนักสืบคะ 555

    Season หนึ่งมี 3 ep เองเหรอคะ หรือว่าเราโหลดไม่ครบ ตอนนี้เราโหลดมา หนึ่งกับสอง

    ReplyDelete
    Replies
    1. แน่นอนค่ะ จะพาไปทัวร์กินฟิชแอนชิพ พาไปเดินเล่นที่อังกฤษ ในจินตนาการ 555
      หวานมดขึ้นหรือเปล่าต้องลองอ่านดูค่ะ อย่าเชื่อคนเขียน เพราะคนเขียนโม้ 555+

      หนังสือเล่มนี้เพิ่งไปซื้อมาค่ะ จริงๆแล้วก็เคยอ่านเวลาคุณ ผมอยู่ข้างหลังคุณ วิจารณ์หนังในพันทิบมาบ้าง ชอบค่ะ เก่งสมกับจบจิตวิทยามา

      น้องคุณคนนั้นเขาเก่งนะคะ คงปล่อยวางได้หรือไม่ก็ไม่อยากทะเลาะ คงต้องบอกว่าหัวหน้าคนนั้นเขาเฒ่าเพราะอยู่นานค่ะ

      Sherlock season แรกมี 3 ตอนค่ะ "A Study in Pink" , "The Blind Banker" แล้วก็ "The Great Game"

      เราชอบอีตา Sherlock มากกวนสุดๆ

      Delete
    2. @freakysnob ดูแล้วเราก็นึกถึงเรื่อง Monk นะ เป็นนักสืบแบบขาด ๆ เกิน ๆ แบบมีสาเหตุ และมีพฤติกรรมแปลก ๆ
      เราติดเรื่องนี้มาก จนบางทีก็ติดพฤติกรรมของ Monk มานะคะ เช่น เวลาจอดรถ เราจะต้องจอดให้เส้นสีขาวทั้งสองข้างนั้นกว้างเท่ากัน นั่นแหละ พฤติกรรมของ Monk ท่าทางเราจะอินตอนนั้น แต่ตอนนี้ไม่เป็นแล้วนะคะ

      Delete
    3. เอ่อ ยังดีนะที่เหมือน Monk เกิดชอบดู Dexter ขึ้นมาล่ะก็ 555+

      เรื่องจอดรถเราไม่เป็นค่ะ เอาแค่จอดอยู่ในเส้นก็พออะ

      Delete
    4. อะนะ ถ้าเราได้ดู Dexter แล้วเราจะไปหาคุณคนแรกเลยคะ 555

      Delete
  2. ลองไปหาหนังสือเล่มนี้ในเวปดู ผู้เขียนเป็นจิตแพทย์คะ

    http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=thereadersonlinecafe&month=06-07-2012&group=1&gblog=13

    ReplyDelete
  3. ขอบคุณสำหรับหนังสือดี ๆ นะจ๊ะ

    ReplyDelete
  4. ดีจังเลยนะคะที่ณีนนารา มีเพื่อนดี ๆ อย่างปูรณ์ หาไม่ได้ง่าย ๆ เลย
    ตอนหน้าหวานแล้ว เป็นเรื่องน่ายินดี แล้วถ้าแม่ณีนรู้ทีหลังจะเป็นยังไงเนี่ย

    คนเรามักจะมองเห็นข้อด้อยของผู้อื่น โดยลืมมองย้อนดูตนเอง

    ขอบคุณนะคะ จะไปหาหนังสือมาอ่านบ้าง :)

    BYKT

    ReplyDelete
    Replies
    1. @K.BYKT สงสัยต้องเตรียมผ้าเย็นมาประคบตา เวลาอ่านตอนหน้าคะ อิอิ

      Delete
    2. เราเป็นเพื่อนอย่างปูรณ์นะคะ 555+ เอาดีใส่ตัวชัดๆ

      เราไม่ค่อยมองข้อด้อยใคร ถ้าคนๆนั้นไม่มารบกวนเราค่ะ เป็นพวกอยู่อย่างสงบถ้าไม่ถูกรบกวน

      ไม่ต้องมีอะไรประคบหรอกค่ะ มาลุ้นคนเขียนเขียนให้รอดดีกว่านะคะคุณ moonlight

      Delete
    3. @K.freakysnob ไม่เป็นไร เราเก็บกระเป๋ารอแล้วหละ ถ้าคุณพร้อมเมื่อไหร่ เราก็จะได้ไปอังกฤษกัน หรือจะไปที่ ห้างอังกฤษตรางู ที่ตึกว่องฯ พลาง ๆ ก่อน อิอิ

      Delete
    4. ไปตรงนั้นแล้วไป RCA เลยดีกว่าไหมคะ ;)

      Delete
  5. ไปสอยมาแล้วนะคะ ขอบคุณอีกครั้งสำหรับหนังสือดี ๆ นะคะ
    ตอนแรกกะจะซื้อเป็น e-book เพราะว่าเวลาเราซื้อเป็นเล่ม
    อ่านไม่ค่อยหมดซักที แบบบางทีลืมหยิบใส่กระเป๋าบ้างหละ
    ไม่รู้ตั้งไว้ไหนบ้างหละ
    เราเลยว่า e-book น่าจะตอบโจทย์ได้มากที่สุด
    แต่ปรากฏว่ายังไม่มีคะ ก็เลยออกไปซื้อเป็นเล่มมาคะ

    ตอนนี้อ่านไปได้ สองตอนแล้วคะ ชอบนะ อ่านแล้วได้ข้อคิดให้กับชีวิตเราดีนะ

    ขอบคุณอีกครั้งนะ ที่มีอะไรดี ๆ มาแชร์ให้ทราบกันคะ

    ReplyDelete
    Replies
    1. เมื่อคืนอ่านต่อไปอีกนิดหน่อยค่ะ แต่ยังอ่านไม่จบพอดีปวดท้องเลยรีบนอน
      E-book เหรอ เคยคิดจะซื้อ Kindle มาไว้ซื้อหนังสือมาอ่านเพียงแต่หนังสือไทยก็หาอ่านยากค่ะ แต่ก็น่าจะคุ้มเพราะเวลาซื้อหนังสือภาษาอังกฤษจากอเมซอนก็จะถูกมาก แต่ก็จะซื้่อพวกนิยายยูริของสะพานไม่ได้

      ตอนนี้เลยว่าจะซื้่อ Google Nexus 7 ค่ะ ซื้อเอามานอนเล่นเกมกับอ่านหนังสือถูกดีด้วยเพียงแต่ต้องรอคนหิ้วมาให้จากเมกาหรืออังกฤษค่ะ

      ดีใจที่ชอบอ่านนะคะ :)

      Delete
    2. @K.freakysnob Google Nexus 7 ราคาน่าคบหามากมาย ดีเหมือนกันนะเจ้าตลาดที่ครอง Market share เยอะ ๆ จะได้ร้อน ๆ หนาว ๆ แล้วพัฒนาปรับปรุง และลดราคาให้เป็นราคาที่สมเหตุสมผลหน่อย

      Delete
    3. ใช่ค่ะราคาน่าคบจริงๆ อีกหน่อยเราอาจจะได้ใช้ iPad Galaxy tab ที่ถูกลง

      Delete
  6. สาวๆ สบายดีกันนะคะ เพิ่งกลับจากมาข้างนอก เข้ามาเห็นน้องๆคอมเม้นท์กันเยอะแยะ
    พี่เข้ามาทักทายนะคะ ยังไม่อ่านนิยาย เดี๋ยวคืนนี้จะมาคอมเม้นท์อีกทีนะคะ

    ReplyDelete
  7. เย้ ตามคุณmoonlight จะเก็บกระเป๋าเดินทางตามณีนและเบญจ์ไปอังกฤษด้วย ประเทศอังกฤษและยุโรป เป็นที่ๆอยากจะไปเที่ยวมาก รู้สึกชอบบรรยากาศและประวัติศาสตร์มาก
    อ่านแล้วสนุกค่ะ จะรอคุณจบข.พาไปเที่ยวอังกฤษ รู้สึกดีค่ะ ตอนหน้าจะได้อ่านตอนที่หวานแล้วซิคะ บรรยากาศก็เป็นใจ อะไรจะสุขขนาดนั้น

    คุณmoonlight ได้หนังสือมาแล้วเหรอ เร็วจัง อ่านเสร็จแล้วเล่าให้ฟังบ้างนะคะ อยากฟังแบบไม่ต้องอ่านเอง (เห็นแก่ตัวไปนิดนะคะ)
    แล้วคุณน้องคออ่อน หายมึนหรือยัง คงหายแล้วล่ะ พรุ่งนี้ต้องทำงานนะคะ

    คุณbykt น้องเนสท์เก่งอยู่แล้วค่ะ แฟนคลับน้องเยอะ เราก็เลยไม่ต้องเป็นห่วงมาก ฟังน้องร้องเพลงก็สบายหูแล้วค่ะ

    นอนหลับฝันดีค่ะทุกคน

    ReplyDelete
    Replies
    1. ตามไปเที่ยวอังกฤษ เดินกินกันทั้งวันแน่ๆค่ะ 555+ ประวัติศาสตร์ไม่มีแน่นอนค่ะ เพราะคนเขียนเขียนไม่ได้ ว่าแล้วอยากไปเรียนภาษาไทยใหม่ให้บรรยายเก่งๆ

      หนังสือดีนะคะ ลองหาอ่านดูได้ค่ะพี่

      วันนี้น้องเนสน่าจะได้โจทย์เพลงใหม่แล้วอย่าลืมไปหัดร้องกับน้องนะคะ

      Delete
    2. @K.clearsky หนังสือแนวนี้ต้องอ่านเองนะคะ ถ้าจะให้บรรยายคงเก็บได้ไม่หมดคะ บางทีอ่านหนังสือแนวนี้ทำให้รู้สึกว่า เออนะ ใช่ จริง ๆ อะไรประมาณนี้อะคะ

      Delete
  8. ยู้ฮู สาว ๆ ตื่นกันรึยังคะ

    สวัสดียามเช้าที่อากาศแจ่มใสมาก คุณพระอาทิตย์มาทำงานอย่างแข็งขัน
    ร้อนมากค่ะ แดดดีจัง ไม่อยากออกจากห้องแอร์เลย :P
    คนเรานี่นะ ฝนตกก็บ่น ร้อน หนาว ไม่มีถูกใจสักอย่าง 555

    ไปทำงานก่อนนะคะ

    BYKT

    ReplyDelete
    Replies
    1. แจ่มใสมาก อยากไปอยู่ที่ไหนที่อากาศประมาณ 20องศานิดๆตลอดปี ฝนตกแบบน่ารำคาญอย่างอังกฤษเราโอเคนะคะ ใส่เสื้อฮู้ดเอาหน่อยก็เดินได้ แต่ตกอย่างเมืองไทย เฮ้อ ตกหนักและนาน

      คนขี้บ่นเขาบอกว่าเป็นคน... เติมเอาเองค่ะ 555

      Delete
    2. คนน่ารัก ใช่มั้ยคะ ^O^

      Delete
    3. แต่คนน่ารักมักใจร้ายนะคะ 555

      คุณ BYKT อยากเป็นอะไรต้องเลือกอะไร ;)

      Delete
    4. ตัวเลือกไม่น่าคบเลยนะคะ 555 ถ้าเป็นคนสวยก็ใจดำอีกแน่เลย :P

      BYKT

      Delete
    5. เรายังไม่ได้พูดอะไรสักคำนะคะ ;)

      Delete
  9. คุณ bykt ตื่นมาทักทายกันแต่เช้าเลย วันนี้อากาศร้อนจริงด้วย อย่างร้อนเลยค่ะ
    มนุษย์ไม่มีความพอดีเนอะ ร้อนก็บ่นฝนตกก็บ่น ยอมเป็นคน.....ตามคุณfreakysnob บอกไว้

    คุณ moonlight ถ้าคุณการันตีคุณภาพหนังสือขนาดนั้น ก็จะไปลองอ่านดูที่ร้านก่อนนะคะ ว่าพออ่านได้มั้ย แล้วค่อยซื้อ (กลัวซื้อมาแล้วรกบ้าน เพราะมีหนังสือเยอะแยะ ที่ซื้อแล้วไม่ค่อยได้อ่าน) เป็นโรคชอบซื้อแต่ไม่ชอบอ่าน แค่เห็นก็มีความสุข จริงๆนะคะ เป็นโรคจิตที่ซื้อมาแล้วก็นั่งดูสันปกหนังสือในชั้น แล้วก็ยิ้ม เดินผ่านไปก็หันมอง (ดูแปลกๆมั้ย หุหุ)

    คุณ freakysnob เห็นหน้านักกีฬาตอนใหม่ที่ลงมาให้อ่านแล้วนะคะ เดี๋ยวตามไปค่ะ

    ReplyDelete
    Replies
    1. สงสัยต้องส่งคุณ moonlight ไปเป็นเซลขายของแทน ขายของเก่ง

      เราก็ซื้อหนังสือเยอะนะคะ ชอบซื้อเยอะไว้ก่อนเก็บไว้อ่านได้นาน แต่ของเก่ายังอ่านไม่หมดก็ไปขนมาอีกแล้ว

      Delete