Tuesday 4 August 2015

Jenny’s Wedding



Jenny’s Wedding

อะไรที่ทำให้เราอยากเขียนถึงหนังหญิงรักหญิงเรื่องนี้รู้ไหมคะ เพลงประกอบค่ะ คือแค่ต้นเรื่องแล้วเพลงนี้ขึ้นมา ฟังแล้วหลงรักทันที เพลงน่ารักสุดๆ ได้ยินแล้วต้องกด PAUSE ไปหาว่าชื่อเพลงอะไร แล้วก็ไม่แปลกใจเลยบน YOUTUBE ไม่มีค่ะ เสริชที่อากู๋ก็แบบผลการค้นหาตรงที่เราอยากได้มีไม่เกิน 1 หน้า แต่เราเจอบน SOUNDCLOUD ประสบความสำเร็จ คือไม่เข้าใจตัวเองจริงๆนะคะ ชอบไปชอบเพลงที่แบบหายากหาซื้อไม่ได้ ต้องโหลดแบบไม่ถูกลิขสิทธิ์มา ไม่ก็ต้องฝากคนอื่นซื้อให้ เราดคยชอบเพลงหนึ่งประกอบ Series Cashmere Mafia หาซื้อไม่ได้บน YT ไม่มีจนกระทั่งตอนนี้ เราให้เพื่อนซื้อมาให้จาก Canada เลย ดูลงทุนกับอะไรบ้าบอกับแค่เพลงเดียวเนอะ  เวิ่นเว้อมาซะนาน มาฟังเพลงกันดีกว่า เพลงนี้ร้องโดย Kristina Train ค่ะ เธอก็เท่ดีนะ
TRUE LOVE AVENUE (ต้องกดlinkไปฟังเองนะคะ)


ถึงคราวที่จะพูดถึงหนังแล้ว คนอ่านเซ็งไปหรือยังไม่รู้

หนังนำแสดงโดย Katherine Heigl  รับบท Jenny ทำงานเป็น Social worker ภาษาไทยว่าอะไรอะ หรือคุณหมอ Izzy ที่แฟนๆ Grey’s Anatomy รู้จักกันดี อาจจะมีทั้งรักทั้งเกลียด 555  พาร์ทเนอร์ของเธอ คุณครู Kitty ที่เด็กๆหลงรักตามคำบอกเล่าของ Jenny นะคะ แสดงโดย Alexis Bledel คนดู Series น่าจะจำเธอได้จากบท Rory Gilmore ใน Gilmore Girls

หนังเรื่องนี้ไม่ได้พูดถึงเรื่องของความรัก ไม่ได้มีฉากกุ๊กกิ๊ก จีบกันของตัวละครนะคะ แต่เป็นเรื่องของการ coming out ของ Jenny ต่อครอบครัวมากกว่า Alexis นี่เรียกว่าตัวประกอบโคตร ออกมาน้อย ฉะนั้นบอกอย่างจริงใจว่า นักแสดงนำ 2 คน เคมีไม่เข้ากันซะเลย ใครจะดูโปรดลืมภาพของ Luce&Rachel (Imagine Me & You) กับ Wil&Vivian (Saving Face) มันไม่มีmoment น่ารักแบบนั้น Kitty มีบทบาทน้อยมาก เรื่องหลักคือ Jenny กับครอบครัวเธอ พ่อ, แม่, Michel พี่ชาย และ Anne น้องสาว
ความเห็นส่วนตัว หนังเรื่องนี้เป็นอะไรที่คาดเดาได้ว่าเรื่องจะจบยังไง แต่เราก็บอกตัวเองแล้วไงอะ Imagine me & you เราก็เดาได้ หรือหนัง Rom-com ดังๆพวกเราก็คาดได้ ฉะนั้นถ้าสนใจหนังหญิงรักหญิงที่พูดถึงครอบครัวดูเถอะ ชีวิตคนเราไม่ได้มีแค่คนเดียวหรือสองคน มันยังมีคำว่าครอบครัวค้ำคออยู่
  
คำเตือน SPOILER ALERT และ ยาวมาก
> 
>
>
>
>
>
>
>
>
>
>
>
>
>
>
>
>
>
>
>
>
>
>

*Jenny รับหน้าที่เป็น God mother พาหลานรับศีลจุ่ม พ่อ/แม่ คุยกันว่าทำไมเธอถึงยังไม่แต่งงานซะที มันได้เวลาสมควรแล้วนะ

*Jenny ถาม Anne น้องสาวว่าไม่คิดว่าเธอคบกับใครอยู่บ้างเหรอ Anne บอกว่าก็เธอไม่เคยพาใครมาแนะนำ บลาๆๆ Anne เลยคิดเองเออเองว่า Jenny มีแฟนเป็นชายที่แต่งงานแล้วเลยต้องหลบๆซ่อน Anne เอาไปบอกแม่

*พ่อนั่งคุยกับJenny เธอปฏิเสธเรื่องคบกับผู้ชายแต่งงานแล้ว แต่ยอมรับว่าเธอคบกับใครอยู่ พอพูดถึง “The right person” เจอก็จะอยากแต่งงาน

*Jenny กลับบ้านมาบอก Kitty ว่าอยากแต่งงาน Kitty ถามว่าไม่คิดว่าต้องบอก พ่อ/แม่ ก่อนเหรอว่าใครคือคนที่เธอจะแต่งงานด้วย

*Jenny กับ Kitty มางารครบรอบวันแต่งงานของพ่อ/แม่ วันที่เธอจะบอกว่าเธอเป็นเลส ใครที่เธอจะแต่งงานด้วย แต่ Jenny นั่งรวบรวมความกล้าอยู่ในรถ Kitty เลยถามว่าทำไม Jenny ถึงบอกทุกคนว่าเธอมีรสนิยมอย่างไร แต่กับครอบครัวตัวเองถึงปกปิด  เธออาย ashamed หรือ Kitty ตัดสินใจว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องในครอบครัวเธอจึงไม่เข้าไปด้วยให้ Jenny เข้าไปคนเดียว
*Jenny drops the bomb ใส่แม่ แม่ขอให้เก็บเรื่องนี้เป็นความลับต่อไป เพราะ Jenny อยากบอกให้ทุกคนรู้ (เราว่าคงหมายถึงไม่ได้ป่าวประกาศแต่ก็ไม่ได้ปิดบัง ใครถามก็ตอบความจริง) แม่บอกว่าเธออาศัยที่นี่ เธอแคร์ คนรอบๆตัวเธอ เพื่อนบ้านไม่มีใครมีลูกเป็น LGBT (จริงเหรอ?) เธอคงทนถูกนินทาไม่ไหว เธอบอกกับ Jenny ว่า Jennyประกาศตัวแล้วก็ไปอยู่ที่อื่น แต่เธอยังต้องอยู่ที่นี่
*Jenny นั่งคุยกับพ่อ พ่อดูรับมือความจริงได้ดีกว่าแม่ ณ ตอนนี้
พ่อ:    If you tell them , you will hurt your mother.
Jenny : If I don’t , it will hurt me.

*Anne ถามว่าเกิดอะไรขึ้น Jenny เหลือบมองแม่ เพราะแม่บอกให้เก็บเป็นความลับเธอเลยโกหก Anne เธอเลิกกับชายที่แต่งงานกันแล้วเพราะเขาเลือกที่จะอยู่กับภรรยา
Anne:  You don’t want to spend the rest of your life living with the liar, Do you?
Jenny: No, Sometime you have to. แล้วเหลือบไปมองแม่ (มันก็จริงอะนะ บางทีเราก็ต้อง living the lie)

*Jenny กลับมาบ้าน Kitty ถามเธอว่า
Kitty: Well , you’ve done it?
Jenny: I did it.
Kitty หน้าดูปลื้มปริ่ม แต่เธอก็พูดออกไปว่า ถ้าเธอเปลี่ยนใจจะไม่แต่งงานก็ได้นะ เพราะรู้ว่าครอบครัวมีความสำคัญต่อ Jenny มาก แต่ Jenny ตอบได้ดี
Jenny: My family isn’t marrying you, I am and I’ve never been more certain about anything in my entire life than I am about marrying you.

*พ่อ/แม่คุยกันถึงเรื่องที่ Jenny เป็นเลส ที่เธอไม่ยอมบอก แม่บอกว่าเธอคิดว่าเธอรู้จัก Jenny ดี แต่จริงๆแล้วไม่เลย พ่อตอบกลับมาได้ดี
พ่อ: She is the same person , she’s just left a few thing out.
แม่: We have a life too, don’t we? This isn’t just about her.
ความสัมพันธ์ไม่ว่าชาย/หญิง หญิง/หญิง ชาย/ชาย มันไม่ใช่เรื่องระหว่างคนสองคนมันมีคนอื่นอยู่ด้วย กอปรอยู่ในความสัมพันธ์ทั้งนั้นแหละ

*Awkward moment ระหว่าง Jenny กับพ่อ/แม่ พ่อไปหา Jenny ที่ทำงานชวนไปกินข้าว ตอนเย็นกลับมาเล่าให้แม่ฟังว่า Jenny ดูมีความสุข
แม่: How can she be happy with everything is going on?
พ่อบอกแม่ว่ามันไม่ดี ถ้าอยากให้ลูก unhappy
แม่: I don’t want her to be unhappy, why what I want that?
พ่อ: Because we are!

*แม่ทะเลาะกับ Anne เพราะ Anne เห็น Jenny ยืนดูชุดแต่งงานกับ Kitty แล้วจูบกัน Anne รีบมาบอกแม่ (Anne อิจฉาพี่สาว เพราะตอนเด็กๆแม่กับ Jenny มักคุยกันงุ้งงิ้งกันสองคน มันเหมือนเธอถูกทิ้ง) Anne โกรธหาว่าแม่กับ Jennyรวมหัวกันโกหกเธอไม่บอกความจริง แม่ไปหา Jenny บอกว่า Anne รู้เรื่องแล้วพูดถึงโน่นนี่ว่าเธอไม่เข้าใจไม่รู้ว่าจะทำยังไง เธออยากช่วยเลือกชุดแต่งงานนะ แต่เธอก็ไม่รู้ว่า Jenny จะใส่เป็นชุดกระโปรงหรือเปล่าเลย พูดโน่นนี่กัน Jenny เริ่มมีอารมณ์เลยบอกแม่ว่า
Jenny: I’m not lying about who I am to anybody ever again not even for you because if I do , I’ll ruin what’s good in me.
(มันคงต้องมีช่วงเวลาหนึ่งที่คนเราถึงที่สุดแล้วอะนะ คือถ้าไม่พูดออกไป สิ่งที่เก็บเอาไว้นี่แหละมันจะย้อนกลับมาทำร้ายเราเอง)

*Jenny พา Kitty ไปงานศพเพื่อนบ้าน Jenny ทะเลาะกับพ่อเธอบอกพ่อให้พ่อเลิกทำตัวหลบอยู่หลังแม่แล้วบอกว่าพ่อต้องการอะไร อย่าเอาแม่มาอ้างแล้วบอกเป็นความต้องการของแม่  พ่อก็เลยบอกว่าพ่อไม่เข้าใจในความสัมพันธืแบบนี้ ทั้งคู่เป็นผู้หญิงแถมบอกว่าเขาทำงานในสถานีดับเพลิงต้องฟังพวกนั้นพูดลามกในความสัมพันธ์ระหว่าง ญ/ญ เขาไม่ได้อยากรู้แต่ Jenny ก็เลยโพล่งเรียก Kitty ออกไปแล้วก็ถามว่า พ่ออยากรู้ว่าระหว่างเราใครใส่ strap-on บลาๆ แล้ว Jenny กับ Kitty ก็กลับบ้าน

*Jenny รู้สึกผิดที่ทำให้พ่อแม่อายต่อหน้าคนอื่น Kitty คอยปลอบ (เราว่ามันเป็น moment ที่เป็นจริงนะ ไม่ต้องกุ๊กกิ๊กน่ารัก ปลอบเวลาเศร้า มันโอเค)

*แม่ไปเจอเพื่อนที่สนิทกันกำลังนินทา แบบนิสัยชมรมแม่บ้าน ปากปราศัยน้ำใจเชือดคออะ คือเห็นใครดีไปกว่าตัวเองไม่ได้ มีอะไรที่ตัวเองคิดว่ามันไม่ถูกยอมรับโดยเสียงส่วนใหญ่ของสังคมก็ตราหน้าไปว่าไม่ถูกไปเสียหมด
(เราชอบ บทพูดนี้ของแม่มาก)
แม่: Tell me Marion, Is it normal or right to your daughter to get pregnant by every passing stranger and leave you to raise the kids. (หันไปที่เพื่อนอีกคน) And for Karen and her husband never get a job and rob you and Danny every last penny of your retirement saving. That’s all normal and right just because the men sleep with women and women sleep with men but Jenny who is generous and kind and never hurting anyone. Isn’t it normal and right because she wants to marry the woman she loves. Jenny is good and I love her and the only thing isn’t normal and right is me turning my back on that.

*แม่มาหา Jenny มาขอโทษสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น
แม่: I want to be part of everything you do for the rest of your life.

*ที่บ้านมีงานเลี้ยง พองานเสร็จ Michel ก็มาบอกพ่อว่า Jenny ขอให้เขา walk her down the aisle.

*วันแต่งงานเพื่อนพ่อ มาพูดให้พ่อได้คิด พ่อจึงไปงานแต่งาน พ่อบอกเหตุผลว่าไม่ได้โกรธที่  Jenny ปกปิดว่าเธอเป็นเลสมาตลอดที่โกรธคือตอนที่ทะเลาะกัน  Jenny พูดว่า “You wouldn’t miss me.”
พ่อ: I’m your dad nobody ever loves you more than me and nobody ever will. How can you not miss me. When people hurt me, I will walk away. I can’t walk away on from you so if that’s okay. You’re my daughter and I would like to walk you down the aisle.
HAPPY ENDING

คราวนี้มาความเห็นแบบเต็มๆเราคิดว่าเรื่องนี้ชี้ให้เห็นว่า การ coming out ไม่ใช่เรื่องง่าย และจะไม่มีวันง่ายด้วย ทุกๆความสัมพันธ์มันไม่มีอะไรที่ normal & right เพราะมันไม่มีไม้บรรทัดหรือกฎที่ตายตัวจะระบุได้ว่าอะไรถูกอะไรผิด ความสัมพันธ์ระหว่างชาย/หญิงไม่ใช่เรื่องที่ใช่แล้วคนที่รักเพศเดียวกันก็ไม่ได้ผิดอะไร ในชีวิตจริงพวกเธออาจจะดีกว่าพวกที่คนคิดว่าตัวเอง normal & right ก็ได้ พวกเธอไม่ได้ถูกต้องทั้งหมดแต่ก็ไม่ได้ผิดทั้งหมดเช่นกัน
ถ้าการจะปกติและถูกต้องแล้วต้องแต่งงานเจอสภาพได้สามีอย่าง Anne เราว่าอยู่เฉยๆดีกว่าไหม

ปล.นี่เราเพิ่งรู้ว่าคนที่เล่นเป็น Anne เป็นลูกสาวป้าเมอริล สตรีพ มิน่าตอนดูถึงว่าหน้าโคตรคุ้น 

บล๊อกนี้โคตรยาวอะ เขียนเองตกใจเอง


ทำงานตั้งใจอย่างนี้ไหม 555

มีเพลงนี้ประกอบด้วยค่ะ เราชอบท่อนที่ว่า
And I can’t change, even if I tried. Even if I wanted to.



3 comments:

  1. ดูจนจบแล้วค่ะ ชอบนะคะ ดูแล้วรู้สึก อืม มันคือความจริง จริงๆ

    ReplyDelete
  2. ชอบเพลงประกอบมากๆ ค่ะ ชอบทุกเพลงเลยค่ะ โดยเฉพาะเพลงที่จขบ.แนะนำ

    ReplyDelete
  3. คือหนังเรื่องนี้ดูแล้วรู้ว่าจะไม่ดัง มันจริงแต่ straight เขาไม่ดู ส่วน เลสก็อยากดูกุ๊กกิ๊กมีฉาก love scene แต่เราชอบนะ

    ส่วนเพลง คือ ชอบมาก สามารถตั้ง repeat ไว้ได้ตลอด

    ReplyDelete