บล็อกที่สองของปีมาแบบไม่ได้ตั้งใจเพียงแต่ได้มีโอกาสอ่านนิยายเรื่องนี้ในเด็กดี จริงๆคือเห็นเปิดเรื่องไว้ตั้งนานแล้วแต่เกริ่นว่าเรื่องของทอม มันทำให้นักอ่านนิยายยูริแบบเราไม่สนใจ ภาพทอมผมสั้นเกรียนไถสูงสักเต็มตัวมีผ้ารัดหน้าอกพูดครับตลอดเวลามันใช้ภาษาไทยว่าอะไรดีภาษาอังกฤษคือ put me off แต่พอได้อ่านเมื่อปลายปีอ่านแล้วชอบคิดว่าจะซื้อพอดีกดเข้าไปใน Meb หนังสือขึ้นมาตรงหนังสือใหม่พอดีเลยกดซื้อมาแบบไม่ลังเลใจ
เรื่องย่อ
“เรื่องราวของสองเพื่อนซี้สมัยเรียน
ที่จู่ๆ ก็เกิดจะปิ๊งและไม่อยากเป็นแค่เพื่อนแล้ว...
เรื่องมันน่าจะง่ายถ้าอีกฝ่ายไม่ใช่ทอม
"ฉันชอบผู้หญิงสวย
แต่แกมันหล่ออ่ะ"
..............
..........
“ เป็นแฟนฉันมันดูแย่หรือไง
”
“ เป็นเพื่อนดีกว่า...เชื่อฉันสิ
”
“ เพื่อนที่ไหนเอากันแบบนี้
”
"
แกก็อย่าทำแบบนี้กับฉันสิ"
"ก็...ฉันรักแก
" ”
เนื้อหาต่อไปจะมีกล่าวถึงจุดสำคัญของเรื่องฉะนั้นแนะนำว่าอย่าอ่านต่อ
แต่ถ้าไม่คิดอะไรมากกับการเนื้อหาเหล่านี้อ่านต่อเลยค่ะ
เราได้อ่านนิยายของเพ็น
พัชร มาหลายเรื่องอุดหนุนเกือบทุกเรื่องยกเว้น ปลายทางของใบไม้
และเรื่องที่เราชอบที่สุดคนเขียนยังปล่อยค้างเติ่งไว้ที่เด็กดี
ซึ่งเรื่องนั้นเป็นเรื่องที่เราชอบภาษามากที่สุดแล้วด้วย
ถ้านักเขียนหรือใครที่รู้จักนักเขียนได้บังเอิญเข้ามาอ่าน
กรุณาไปบอกทีว่าอยากอ่านเรื่องของคู่แฝดต่อค่ะ กรุณามาเขียนให้จบด้วย ฮาฮา
มาเข้าเรื่องดีกว่าด้วยธรรมชาติการใช้ภาษาของ เพ็น พัชร
เท่าที่เราอ่านมาตั้งแต่ซันนี่2 บันทึกช่วยจีบ และแฟนเก็บ
เราว่าคุณคนเขียนใช้ภาษาดีคือเขียนไม่ผิดเล่าเรื่องได้น่าติดตาม อ่านไม่งง
แต่มันมีความดิบของภาษาที่เรา(อาจจะแค่เราคนเดียว)ไม่ชอบ
อย่างฉากเรตกิจกรรมบนเตียงของเอ้กับวิน
อ่านแล้วเรารู้สึกว่ามันไม่สมูทมันดิบมันไม่สวยงาม ยอมรับว่าคนอ่านเรื่องมาก
ทั้งนี้ทั้งนั้นเราไม่ได้หมายความว่าเขาเขียนไม่ดีแต่มันไม่ถูกจริต
ส่วนใครจะอ่านนิยายเรื่องนี้ของ
เพ็น พัชร แล้วชอบสำหรับเรา
คนอ่านต้องเป็นผู้ใหญ่ระดับหนึ่งผ่านประสบการณ์ชีวิตมาบ้าง ถึงเชื่อมต่อและเข้าใจสิ่งที่นักเขียนเขียนออกมา
อย่างเช่น เราผู้เรียนโรงเรียนหญิงล้วน เกิดมาในครอบครัวคนจีน เรายังสนิมสนมกับเพื่อนสมัยมัธยมมากที่สุด
เราเคยพบเห็นทอมคล้ายกลุ่มหมวยบ้ามาบ้างในชีวิต ย้ำว่าคล้ายๆนะคะ
เราเชื่อว่าเพื่อนร่วมรุ่นเราต้องมีการใช้ภาษาแบบเอ้และผองเพื่อนกันแน่
แต่เพื่อนสนิทกลุ่มเราก็มีใช้บ้างเล็กน้อยแต่ไม่พร่ำเพรื่อ
ยิ่งโตมานี่นับคำได้สิ่งที่ใช้กันมากคือฉัน เรา แก ข้า มากกว่า
และยิ่งเรื่องบนเตียงในกลุ่มเพื่อนเรานี่คุยกันน้อยมาก อ้อ
บรรดาเพื่อนที่แต่งงานเขาอาจจะไปคุยกันว่าต้องทำยังไงถึงจะติดลูก ส่วนกลุ่มสาวโสดไม่เคยพูดกันนะเราว่าบางทีมันสมควรเป็นเรื่องส่วนตัวเราเป็นคนไม่ชอบพูดรวมทั้งไม่ชอบฟังเรื่องกิจกรรมแบบนี้ด้วย
ฮาฮา คนละกรณีกับการสอนการป้องกันการมีเพศสัมพันธ์นะคะ
นิยายเรื่องนี้จริงๆไม่มีอะไรนะเราว่ามันคือการทดสอบความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนรัก
2 คนว่าจะก้าวผ่านจากความเป็นเพื่อนไปได้ไหม
คนหนึ่งกลัวว่าเลิกกันแล้วจะมองหน้ากันไม่ติด
แต่การไม่ยอมรับเป็นแฟนแต่ยอมมีเซ็กด้วยคืออะไร?
เราว่าวินต้องจัดการระบบความคิดตัวเองใหม่ วินแค่ไม่กล้ายอมรับเท่านั้น
ส่วนเอ้ดูเป็นคนที่มั่นคงจริงจังกับความรักในครั้งนี้มากแต่หลายครั้งเราก็คิดว่าจะงี่เง่าอะไรขนาดนั้น
แต่เรื่องที่น่างี่เง่าที่สุดคือเรื่องคุณครูนิ้ง ดันไม่งี่เง่า เออแปลกดี
หรืออาจจะกลัวว่าวินจะเป็นแฟนนิ้งจริงๆ
คือตามอายุในนิยายเอ้นี่น่าจะวัยเลขสามแล้วทำไมต้อง insecure ขนาดนั้น แต่เรารู้ว่ามีคนแบบนี้จริงๆว่ามีแฟนต้องป่าวประกาศ
แค่ไม่เข้าใจ อาจจะด้วยที่เราพื้นฐานเป็นคนปัจเจกสูงมาก ส่วนคุณครูนิ้งเราว่าเรื่องมันดูไม่คลี่คลาย
100% แม้เด็กเปรมจะถูกส่งไปนิวซีแลนด์ (มีลูกหลานจะไม่ส่งไปเรียนที่นี่เหมือนที่รวมเด็กเหลือขอ
ประสิทธิภาพการศึกษาก็ใช่ว่าจะดี เป็นเราจะส่งไปสิงคโปรแทน บินแป๊ปเดียวถึง
มหาลัยก็เจ๋งจริง
นี่เรากรอกหูให้เพื่อนส่งลูกไปเรียนสิงคโปรแทนส่งเข้านานาชาติที่ไทย) แต่คนที่ทำล่ะเด็กเจอะไรนั่น
ท้ายนี้ลองอ่านกันดูค่ะว่าชอบไม่ชอบอย่างไร
ถ้าชอบก็อย่าลืมซื้อให้กำลังใจคนเขียน จะได้มีนิยายยูริหลากแนวมากขึ้น
คนเขียนเยอะขึ้น
ปล.มีคนแนะนำเรื่อง US ของ เจ้าปลาน้อย
ที่เด็กดีมาเห็นว่าเป็นนักเขียนที่ดัง มีหนังสือตีพิมพ์กับแจ่มใสหลายเล่ม
แน่นอนเราไม่รู้จัก ฮาฮา แต่กด fav ไว้แล้ว ไว้จะลองอ่านดู
ไม่แน่ถ้าเรื่องนี้ของเจ้าปลาน้อยเป็นที่นิยม แจ่มใสอาจจะเอาไปตีพิมพ์
พร้อมเปิดเซคชั่นยูริขึ้นมาก็ได้ บล็อกนี้ยาวอะ
บอกไม่ถูกว่าดีใจขนาดไหนที่คุณรับสารที่เราต้องการสื่อได้...
ReplyDeleteเรื่องของอาจารย์นิ้งไม่คลี่คลาย...เป็นความตั้งใจเลยเทียว รออ่านตอนพิเศษนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามผลงานค่ะ
เพ็นพัชร
ขอบคุณค่ะ ว่าแต่คนเขียนจะสื่อเรื่องไหนคะ 555
Deleteปล.ทวงนิยายคู่แฝดด้วยค่ะ point ของบล็อกนี้เลยทีเดียว