Happy
Friday กันไหมคะศุกร์สิ้นเดือนแล้วรถคงติดมโหฬาร
สุดสัปดาห์หลังเงินเดือนออกถ้าไม่อยากออกไปไหนแนะนำว่านอนอ่านนิยายอยู่ที่บ้านกันเถอะ
น่าจะดีกว่าไปผจญรถติดนะคะ ตอนจบบล็อกที่แล้วเราบอกว่าจะมาเขียนเรื่องนิยายยูริ
ในที่สุดก็ได้เขียนถึงนิยายจริงๆ
ตอนแรกไม่ได้คิดว่าจะได้เขียนถึงเล่มนี้เลยแต่ในเมื่อเมื่อวานบ่ายลงขายใน meb แล้วก็จัดไป
นั่งอ่านรวดเดียวจบและคิดว่าสมควรเขียนถึงไม่ใช่อะไรถ้าไม่เขียนถึงก็คงเว้นระยะไปอีกพักใหญ่ตอนนี้มีภาระมาจากต่างประเทศ
เราไม่ได้มีหน้าที่พาเที่ยวแต่อย่างไร
เพียงแค่ต้องหาอะไรให้กินบ้างพาไปโน่นนี่บ้าง แล้วเป็นเด็กที่กินยากมาก
อีกอย่างเสาร์-อาทิตย์นี้คงไม่มีเวลาเขียน การเป็นนักอ่านที่ดีเราก็ต้องเชียร์ให้นักอ่านด้วยกันรู้ว่ามีนิยายน่าสนใจ
นิยายที่จะเขียนถึงก็คงเป็นเรื่องอื่นไปไม่ได้นอกจาก “รอรักเธอ
Patricia's Tale : Diary of a Teddy Bear” ฝีมือการเขียนของนักเขียนที่จัดว่าเขียนนิยายเร็วที่สุดคนหนึ่งของวงการนิยายยูริไทย
คุณ KiliN จะเรียกพี่/น้อง
ก็ตามศรัทธากันเลย นักเขียนที่จัดว่าเอาใจนักอ่านและนักอ่านเข้าถึง
ขออะไรไปนักเขียนมักจะจัดให้ แต่ขออะไรก็เกรงใจความเป็นส่วนตัวกันนิดนะคะ
ทุกๆคนต้องมีพื้นที่ส่วนตัวเนอะ (นี่พูดถึงทุกๆคนนะคะไม่ใช่เฉพาะคิลิน)
กลับมาๆพล่ามอะไรเยอะแยะโปรดเข้าใจวัย จขบ
เรื่องย่อ
“ให้พูดถึงแพมมี่หรือ...ไม่เอาล่ะ
พูดถึงตัวฉันเองดีกว่า”
...
“ไม่ได้หรือ...
ถ้าอย่างนั้นก็เอาแบบง่ายๆ เลยนะ...
แพมมี่เป็นของฉัน...จอ บอ จบ”
...
“ไม่สิ ไม่ใช้คำว่ารัก
แพมมี่ไม่ชอบให้ฉันใช้คำง่ายๆ เกลื่อนๆ แบบนั้น
เพราะไม่ว่ามันจะเป็นเวลากี่วัน กี่เดือน
กี่ปี
กี่แสนวินาทีที่เราเฝ้าดูแลใครสักคนหนึ่ง
อยากจะกอดรัดฟัดเหนี่ยว
อยากจะหอมแก้มตอนหงุดหงิดใส่กันนั่นให้ช้ำ
ช้ำ ช้ำ”
...
“ก็แพมมี่ไง
ฉันพูดถึงแพมมี่ทั้งหมดนั่นล่ะ เข้าใจยากตรงไหน?”
...
“ให้เปรียบเทียบแทนงั้นหรือ ...
เอ่อ กำแพงสูงเท่าตึกเอ็มไพร์สเตท
หน้าอกไซส์ดาวอังคาร”
...
“หมายถึงนิสัย...?
งั้นใจร้ายใจแข็ง น่ารักน่าปล้ำ...ได้ไหม?”
...
“ฉันตอบผิดหรือ...?
ตกลงคุณถามว่าอะไรนะ?”
อ่านกันแล้วก็น่าจะเดากันออกว่าเป็นเรื่องของ แพทริเซีย
นิยายอีกมุมจากแพทเป็นส่วนเติมเต็มของเล่ม “รอรักเธอ Pam's Story : You Don't Know Me” ฉะนั้นนิยายเล่มนี้เหมาะสำหรับคนที่อ่านเรื่องของแพมมี่มาแล้ว
นิยายจะเฉลยในสิ่งที่ยังค้างคาติดค้างในใจว่าทำไมถึงเป็นอย่างนี้ อย่างนู้น
อย่างนั้น จากเล่มแพม
ใครยังตัดสินใจว่าจะซื้อไหมก็บอกได้คำเดียวว่าซื้อเถอะมันทำให้นักอ่านอย่างเราจะใช้คำว่า
completed ได้
ลำดับต่อไปใครยังไม่ได้อ่านหรืออ่านยังไม่จบก็กดปิดไปได้เลยค่ะเพราะจะเข้าหมวดเปิดเผยเนื้อเรื่องบางส่วน
แต่ถ้ายังไม่ปิดแนะนำฟังเพลงค่ะ เพลงเพราะชอบเสียง หนู Olivia O'Brien มาก ยิ่งท่อน
“I hate you I love you
I hate
that I love you
Don't want
to, but I can't put
Nobody
else above you”
ส่วนเพลงนี้เก่าแล้ว เพลงชื่อ Angel แต่เราว่าสำหรับคู่สร้างคู่ปัญหาอย่างแพทกับแพมนั้นน่าจะเปลี่ยนเป็นชื่อเพลงว่า
Demon มากกว่า ฮาฮาฮา
เตือนครั้งสุดท้ายมีสปอล์ยแล้วนะคะ ไม่อยากอ่านกดปิดค่ะ
เราว่านิยายเรื่องนี้สนุกเนื่องด้วยตัวแพทเองมีเรื่องให้เขียนเยอะ มีปม conflict
ทำให้ผู้เขียนเสริมเติมแต่งออกมาได้สนุกทั้งเรื่อง ตัวเอง ครอบครัว และคนรัก
และการอ่านเรื่องของแพททำให้ผู้อ่านอย่างเรารู้เหตุกับผลว่าทำไม แพทถึงปฏิบัติตัวอย่างในเล่มแพม
สิ่งที่เราชอบ
*คิลินไม่ได้บอกชื่อพ่อของแพท แต่ใช้คำว่า “ชายที่ชื่อพ่อ”
มันบ่งบอกระดับความสัมพันธ์ได้ดี ความสัมพันธ์ของพ่อ-ลูกคู่นี้ไม่มีทางเหมือนคู่ไหน
มันมีระยะห่างที่ไม่มีคนจะทำลายช่องว่างให้มาสนิทแนบแน่นไร้รอยต่อ
*เราเข้าถึงและเข้าใจความเป็นครอบครัวใหญ่ของคนเป็นพ่อ
ว่าแก่ขนาดไหนแม้จะมีอากงหรือใครก็ตามอยู่พ่อก็ไม่สามารถทำอะไรได้เท่าไร
ไม่รู้ว่าคนที่เกิดมาในครอบครัวเล็กๆจะเข้าใจอารมณ์นี้สักเท่าไรนะคะ
*เราชอบที่แพทกวน ดูเป็นคนที่ thoughtful แม้วิธีการจะน่ากระทืบไปบ้าง
*เราชอบบทตอนที่เชีย (เรียกพี่ไหมแล้วไม่คุ้น) คุยกับแพทคือจริงๆเธอชอบแพท
แต่แพทกลับส่ง e-mail มาบอกว่าชอบสาวใหม่อีกแล้ว คนอะไรใจง่ายจริงๆ
*เราชอบฉากที่ เจนนิเฟอร์มาต่อว่าแพทที่หลุมศพราโมน่า
เพราะมันต้องมีคนที่นิสัยกล่าวโทษคนอื่นแต่ไม่ได้หันมาดูเลยว่าลองคิดจะแก้ปัญหาบ้างหรือยังโทษทุกอย่างบนโลกแต่ลืมโทษตัวเอง
*เราชอบเนื้อหาโดยรวมอ่านแล้วไม่ได้ตะขิดตะขวงอะไร
แถมยังชอบนิสัยแพมมี่มากขึ้นมันเหมือน relate กับตัวเองได้ (ว่าแต่นิสัยกวนของแพทนี่
relateกับตัวนักเขียนหรือเปล่าคะ หุหุ)
สิ่งที่เราไม่ชอบมีสิ่งเดียว ไม่ชอบแบบขำๆด้วย คือ ความมั่วของแพทค่ะ
คือแพทนี่ดูตั้งใจมั่วไม่เหมือนพี่ทราย ข้อแก้ตัวของพี่ทรายคือความเมา
ของแพทนี้ถึงจะบอกว่ามั่วแบบมีหลักการ แต่ก็คือมั่วอยู่ดีนะคะ
นักอ่านคนอื่นอ่านจบอาจจะมาเป็นทีมแพทกัน เรายังคงเป็น #ทีมแพม
ลาไปละค่ะ อ่านนิยายชอบไม่ชอบก็อย่าลืมไปทิ้งความเห็นไว้ใน meb ให้นักเขียนทราบ
feedback กันบ้างนะคะ จะได้มีงานเขียนออกมาบ่อยๆ
No comments:
Post a Comment