Tint, Shade & Tone
กลับมาแนะนำนิยายตามอารมณ์
จขบ กันอีกครั้ง เรื่องนี้เราน่าจะเคยแนะนำว่าให้ลองไปอ่านกันได้ใน
ชุมชนนักเขียน/นักอ่าน ของ comeon ซึ่งตอนนี้น้องคนเขียนเขียนจบแล้วเอามาลงขายใน MEB ให้นักอ่านได้ซื้อหากันแล้ว
ส่วนใครอยากได้ครอบครองเป็นเล่มเห็นผู้เขียนว่าจะส่งสำนักพิมพ์ เพราะไม่มีเวลาจัดทำเอง
เราคิดว่าคงส่งให้ สนพ.สะพานล่ะมั้งคะ เพราะพิมพ์ของน้อง KTY มา 2 เรื่องแล้ว ส่วนใครยังไม่ได้อ่านแนะนำว่าไปอ่านก่อนค่ะ
ถ้าชอบก็สนับสนุนน้องเขากันนะคะ ซื้อใน MEB ก็ดีค่ะน้องเขาได้รับเงินกันไปแบบเต็มๆ
อีกอย่างน้อง KTY ใช้ภาษาดี จัดหน้าโอเค ไม่ค่อยมีคำผิด
ไม่จำเป็นต้องมีการตรวจทานคำผิดเท่าไร
แต่ใครอยากเก็บเป็นเล่มก็รอน้องเขาแจ้งเลยค่ะว่าจะพิมพ์ที่ไหน แต่เราเป็นแฟน MEB ค่ะแม้ตอนนี้ application จะรวนไปบ้าง นิยายยูริใน account
นี่เต็มสตรีมสุดๆ
เรื่องย่อ ใน MEB
“เรื่องราวในชีวิตประจำวันของบุคคลต่างวัยที่ค่อย
ๆ ถักทอความสัมพันธ์ขึ้นทีละนิดจนอบอุ่นไปทั้งหัวใจ โดยบอกเล่าผ่านเฉดสีในแต่ละตอน
"แล้วคุณล่ะ...ชอบสีอะไร?”
ช่างเป็นเรื่องย่อที่น้อยนิดแต่เมื่อเริ่มอ่านแล้วคุณจะหลงรัก
น้านิด, น้องหนึ่ง และคุณนายภรรตรีผู้เป็นแม่
อย่างเรานี่พูดได้เต็มปากว่าเรื่องนี้ตัวละครที่เราชอบที่สุดเป็นคุณแม่ค่ะ
เรื่องจะค่อยๆคลายปมความซับซ้อนของครอบครัวนี้ คนเขียนสามารถบรรยายให้เราหลงรักตัวละครได้ทุกตัว
สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของ KTY คือ
จะมีตัวละคร มึนๆอึนๆงงๆ ใช้คำพูดได้งงบ้าง แต่มีสไตล์เฉพาะตัวจะเรียกว่าอินดี้ได้ไหมเนี่ย
แถมบทรักก็ไม่ได้แบบฮาร์ดคอร์รุนแรง แม้อ่านแล้วตอนที่น้านิดกับน้องหนึ่งรู้ใจกันก็ต้องเข้าใจว่าข้าวใหม่ปลามันจะมีเขียนให้คนอ่านจินตนาการได้ตลอดก็ตาม
หุหุ
เราชอบที่เขาเขียนกรณีที่แม่ท้องในวัยเรียนแต่ก็เรียนจนจบ
พยายามทำงานหาเงินเลี้ยงลูกคนเดียว
ไม่ได้ไปขอความช่วยเหลือจากผู้ชายที่หลอกล่อให้เชื่อใจจนยอมมีอะไรด้วย
แล้วเมื่อเกิดตั้งท้องขึ้นมาก็ไล่ให้ไปทำแท้ง มันแสดงถึงความแกร่ง
จำเป็นต้องเข้มแข็งเพื่อทั้งตัวเอง ครอบครัว และลูก
แต่ข้อเสียเราว่าคุณคนเขียนไม่น่าจะต้องดึงตัวละครเรื่องอื่นมาโยงกันไปหมดก็ได้ค่ะ
เพราะพอโยงกันถ้าเขียนได้ไม่ละเอียดพอมันจะมีจุดบกพร่องเรื่องเวลาและอายุให้คนอ่านเห็น
เกิดสงสัยเอาได้
เมื่ออ่านแล้วคุณอาจจะชอบความซื่อจนเซ่อในบางเรื่องของน้องหนึ่ง
หรือความเจ้าเล่ห์ของน้านิด แต่ที่ชอบที่สุดความรักที่คุณนายแม่มีต่อลูกสาว
รู้เท่าทันน้านิด แต่จะหาแม่อย่างนี้ได้ที่ไหนที่ไม่ใช่ในนิยายคะ อีกอย่างน้อง KTY ตั้งชื่อตัวละครเพราะตลอดอย่างเรื่องนี้ มธุรา
ภฤดา ภรรตรี อ่านเถอะถ้ายังไม่แน่ใจว่าอ่านดีไหม
อ่านสบายๆไปกับความช่างเปรียบเทียบของคนเขียน เรื่องไม่หนักเลยอ่านแล้วยิ้ม แต่ถ้าชอบนิยายหนักหน่อยก็ต้องไปซบอก
คิลิน ไม่ก็ชอบแบบหนักโคตรก็ต้อง รักใคร่ ใคร่ครวญ ของ อธิฌลา
ลากันไปง่ายด้วยเพลงที่ไม่เข้ากับเนื้อหาบล๊อกและเนื้อหานิยายเลย
แต่เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา Petite เอามาร้องใน
The Voice Thailand เราว่าต้นฉบับเจ๋งกว่านะ
อุ้ย เรื่องนี้ยังอ่านได้แค่ 120 หน้าเองค่ะ งั้นขอฝากใจ เอ้ย ฝากคอมเม้นท์ทักทายไว้ก่อนนะคะ ถ้้าอ่านจบเมื่อไหร่จะรีบมาเม้นท์นะคะ ไม่ข้ามปีแน่ค่ะ
ReplyDeleteได้ฤกษ์เสียที หลังจากอ่านจบเมื่อคืน
ReplyDeleteเราชอบความรักที่คุณนานภรรตรีกับคุณน้องหนึ่งมีให้กันมาก ๆ ค่ะ
และก็ชื่นชมความเข้มแข็งของคุณแม่ และยิ่่งเข้าใจคุณแม่มาก ๆ กับตอนพิเศษ
คุณน้านิดกับน้องหนึ่ง หลังจากอ่านหน้าแรก ๆ จนถึงหน้าสุดท้ายจะเห็นได้ถึงพัฒนาการของน้องหนึ่ง ที่เริ่มไล่ตามน้านิดทัน อ่านแล้วก็อะนะ เด็กกว่าแล้วไง เรื่องแบบนี้มันพัฒนากันได้ อุ้ย ๆ เรื่องอะไร
ภาษาที่น้องเขียน โอเคนะคะ อ่านได้เรื่อย ๆ น้อง KTY ใช้ภาษาดีค่ะ อ่านง่าย นึกภาพตามง่าย
แต่เราว่าเนื้อเรื่องของน้องยังไม่มีจุดพีคเท่าไหร่ อาจจะเป็นสไตล์ของน้องด้วยมั้ยคะ เรื่องที่แล้วพี่พริ้งกับน้องณัฐก็เรือ่ย ๆ เหมือนกัน เราว่ามันขาดความน่าดึงดูดไปนิด ตรงช่วงกลางถึงท้ายเรื่องอะนะ ตอนเราอ่านเราก็ลุ้นนะว่าจะมีอะไรแบบพีคๆ มั้ย แต่อะนะ ก็ไม่มี มันเรื่อย ๆ มากอะ จะมีตื่นอีกทีก็น้องหนึ่งยั่วน้านิด น้านิดยั่วน้องหนึ่ง อิอิ
อ๋อ บางประเด็นก็ยังไม่เคลียร์นะ เช่นของพรรษมน หวา แล้วก็เรื่องทางบ้านของมนัส สรุปเขาโอเคมั้ยที่รักกับหลานอะนะ
แต่ เราชอบตอนพิเศษนะ
เราว่าเดี๋ยวน้องเขาเขียนเรื่อย ๆ ลับฝีมือเรื่อย ๆ เราอยากเห็นเนื้อเรื่องที่มีจุดพีคกว่านี้ อาจจะไม่ต้องหนักเหมือนเจ้าแม่คิลิน เอ้ยน้องคิลิน ยังไงพี่ก็จะรอจ๊ะ
เราก็ว่าประเด็นหลายๆอย่างมันไม่เคลียร์แต่เด็กมหาวิทยาลัยเขียนได้ขนาดนี้ใช้ภาษาไม่วิบัติและแนวโน้มจะเขียนได้ดีขึ้นเรื่อยๆเราค่อนข้างโอเคกับการเขียนของน้อง KTY ทีเดียวค่ะ
ReplyDelete