วันนี้เอามาลงอีกตอนค่ะ แต่ขออนุญาตออกตัวนะคะว่าเรื่องคงไม่กระชับ
แบบเจอปุ๊ปรักปั๊ป นะคะ มันออกจะดูยืดเยื้อไม่ทันใจวัยรุ่น (รุ่นไหนไม่รู้นะคะ
555) อ้อเขียนไปเอามาลงไปอาจจะมีการพิมพ์ผิด แถมตอนเรียนหลักภาษาก็ตก (เอ่อ
ดูเหมือนว่าคนเขียนจะไม่มีอะไรดี ฮ่าฮ่าฮ่า) บางตอนอาจจะเขียนบรรยายให้คนอ่านไม่เข้าใจได้
(คนเขียนก็ไม่เข้าใจตัวเองในบางทีเช่นกันค่ะ) ถ้าหายไปนานแล้วมีอย่างอื่นมาเขียนบ้างก็เป็นเพราะคนเขียนเกิดอาการแต่งไม่ออกหรืองานเยอะ
รวมถึงอาจจะไม่สบายด้วยค่ะ ทวงถามหากันได้ค่ะ แต่จะมาลงเมื่อไหร่ไม่รู้ค่ะ 555+
บอกกันไว้แต่เนิ่นๆ
มีการแก้ไขปรับปรุงเล็กน้อยค่ะ 18/06/2555
มีการแก้ไขปรับปรุงเล็กน้อยค่ะ 18/06/2555
บทที่๔
ณ โต๊ะทำงานของณีนนารา
ที่รกไปด้วยกระดาษต้นฉบับมากมาย เพราะเธอเป็นคนร้องขอว่าเวลาจะส่งต้นฉบับมาให้พิจารณาขอเป็นการพิมพ์ใส่กระดาษมาให้
ต้นฉบับทั้งหลายแหล่จึงเต็มไปหมด ทั้งที่ยังไม่ได้อ่านหรือที่อ่านแล้วเตรียมส่งต่อไปให้
วรชญา พิจารณาอีกที แม้กระทั่งต้นฉบับที่ไม่ผ่านการพิจารณาจนต้องบอกว่าให้ช่วยมารับต้นฉบับคืนไปด้วย
ไม่อย่างนั้นเกินระยะเวลาจะเอาไปย่อยสลาย
ภายหลังกลับมาจากปรึกษากับวรชญาแล้ว
ณีนนาราก็ต่อสายหาเพื่อนรักทันที
โทรศัพท์ยังไม่ทันมีเสียงรอสาย
ปูรณ์ ก็ส่งเสียงมาทันที
“ฮัลโหลว่าไง สรุปมีงานให้ฉันเหรอณีน”
“ถ้าแกแปลนอร์วีเจี้ยนได้ ฉันก็มีงานให้แก แกสามารถไหมล่ะ”
“แหมมคุณณีนคะ คุณก็ทราบว่าดิฉันน่ะมีความสามารถแค่ภาษาอังกฤษ, ฝรั่งเศส และ งูๆปลาๆภาษาญี่ปุ่น แล้วดิฉันจะแปลนอร์วีเจี้ยนได้ไหม”
“งั้นแกพอมีใครแนะนำให้ได้บ้างไหมล่ะ ฉันอยากมีตัวเลือกสัก 2-3 คน
เพราะงานนี้คุณวี อยากได้งานแปลจากต้นฉบับ ไม่อยากได้แปลมาจากภาษาอังกฤษน่ะ”
“โห พี่วีใจร้ายว่ะ ไม่ให้งานฉัน แล้วเมื่อไหร่แกจะเรียกคุณวี ว่า พี่วี
ซะที แกไม่ได้เป็นแค่ลูกน้องนะ แกเป็นหุ้นส่วนบริษัทด้วย”
“ก็ ฉันเป็นหุ้นส่วนแค่นิดหน่อย อีกอย่างคุณวีแกอายุมากกว่าเราๆตั้ง 5 ปี
จะไปเรียกพี่วีเฉยๆ ได้ไง เวลาไปติดต่องานเรียกคุณวีก็ดูดีกว่าด้วย”
“จ้า คุณณีนนารา จะเรียกอะไรก็เรียกไปเถอะ
แต่ทำไมแกไม่เรียกฉันว่าคุณปูรณ์บ้างล่ะ” ปูรณ์แกล้งกระเซ้า
“ฉันขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงกับแกละ สรุปว่าแกมีใครแนะนำให้ฉันได้ไหม
ยังไงโทรมาบอกด้วยนะ งานนี้รีบเข้าใจไหมว่ารีบ เพราะต้องไปติดต่อซื้อลิขสิทธิ์ แปล
ตรวจพรู๊ฟ ส่งโรงพิมพ์อีก ฉันว่าคุณวีคงอยากให้เสร็จทันงานหนังสือคราวหน้า”
“รับทราบเว้ย แกนี่ได้ทีสั่งใหญ่เลยนะ จะรีบจัดการให้เร็วที่สุด
ไปละเบื่อคุยกับแก” แล้วปูรณ์ก็วางหูไป
ส่วนณีนนาราก็พยายามติดต่อนักแปลที่รู้จักกันว่ามีใครแปลภาษานอร์วีเจี้ยนได้ไหม
และก็เป็นดังคาดว่าการหาคนแปลภาษานอร์เวย์ได้นี่ยากจริงๆ
คนที่ได้รับการแนะนำมาส่วนมากก็เป็น คนไทยแต่งงานกับชาวนอร์เวย์ไป ถึงอยู่นานขนาดไหนก็ยังไม่มีใครใช้ภาษานอร์เวย์ได้ดีจนสามารถแปลได้
หรือสามารถแปลได้ภาษาไทยที่แปลออกมาก็ยังไม่สละสลวยพอที่จะนำมาตีพิมพ์ได้
วันนี้ณีนนารารู้สึกเหนื่อยล้าจากการอ่านต้นฉบับและการพยายามติดต่อหานักแปล
ด้วยที่งานของเธอไม่จำเป็นต้องอยู่ที่สำนักงานตลอดเวลาเธอจึงโทรไปบอกว่าวันนี้เธอไม่เข้าสำนักงาน
ขอเวลาไปสูดอากาศให้สมองปลอดโปร่ง
ณีนนาราตัดสินใจขับรถคันเก่งของเธอไปหัวหินไปนั่งอ่านหรือคิดงานริมทะเลย่อมดีกว่ามานั่งจับเจ่าอยู่ที่คอนโดหรือห้องทำงาน
ยิ่งวันนี้เป็นวันธรรมดาหัวหินนั้นจะไม่ขวักไขว่ไปด้วยนักท่องเที่ยว
ไม่เสียงดังเจี๊ยวจ๊าว เธอรีบขับรถออกจากกรุงเทพตั้งแต่ยังไม่
6โมงเช้าเพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรอันติดขัด
และที่สำคัญที่สุดเธอจะได้มีเวลาพักผ่อนได้นานขึ้นด้วย
ณีนนาราถึงคอนโดริมชายหาดหัวหินของพี่ชายเธอที่ได้ให้กุญแจห้องไว้
จริงๆแล้วเขาบอกว่าจะยกคอนโดแห่งนี้ให้เธอ แต่เธอปฏิเสธเพราะกลัวว่าถ้าพ่อ-แม่
เธอรู้จะหาว่ามาเบียดเบียนพี่ชาย
ณีนนาราจึงขอแค่มาพักผ่อนชั่วคราวเวลาเธออยากมานั่งริมทะเลแบบเช้าไปเย็น-กลับ
เนื่องจากสะดวกสบายไม่ต้องไปเสียค่าโรงแรมราคาแพงทั้งๆที่ไม่คิดที่จะนอนค้างคืน เธอลงมานั่งอ่านงานที่ริมสระว่ายน้ำ
ไอทะเลพัดมาให้เธอได้กลิ่นเพียงเท่านี้ก็ทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายไม่จำเป็นต้องเล่นน้ำทะเล
หรือมีเพื่อนมานั่งเป็นเพื่อน
อยู่คนเดียวก็มีกิจกรรมให้เธอมีความสุขยิ้มกับตัวเองได้ คำพูดที่ว่า Simply is the best. นั้นไม่ได้เกินจริงเลย
เธอพักผ่อนจนกระทั่งเย็นเธอจึงขับรถไปหาอะไรง่ายๆรับประทานที่ตลาดโต้รุ่ง
และซื้อกะปิโหว่ไปฝากปูรณ์ ก่อนขับรถกลับกรุงเทพ เตรียมตัวทำงานในวันรุ่งขึ้น
ที่ร้านข้าวต้มในตลาดหัวหินชื่อดัง
เบญจ์ นั่งอยู่ลำพัง ช่วงที่เธอพักผ่อนคนเดียวที่นี่เธอชอบมาเดินตลาดโต้รุ่งเพื่อดูชีวิตผู้คนและสีสรรพ์
ที่เธอห่างหายไปหลายปี เธอเห็นหลายคนมากับเพื่อน หลายคนมากับครอบครัว
หลายคนมากับแฟน
แต่สิ่งที่พบเห็นได้น้อยที่สุดคือคนที่มาคนเดียวเช่นเธอ เบญจ์หันไปเจอผู้หญิงผิวขาวรวบผมยาวหางม้า
ใส่เสื้อเชิ้ตสีฟ้าเข้ารูปแขนยาวพับแขนถึงข้อศอกกับกางเกงสีกากีอ่อนสามส่วน เดินเข้ามาในร้านพร้อมสั่งอาหาร
เธอคนนั้นไม่สนใจต่อสิ่งแวดล้อมภายในร้าน เธอสั่งอาหาร,นั่งรับประทาน และจ่ายเงินเสร็จ ภายในเวลาไม่เกิน 30 นาที
เธอคนนั้นก็ลุกแกไปจากร้านอาหารพร้อมถุงของในมือ
สิ่งที่ดึงดูดให้เบญจ์สนใจหญิงสาวคนนั้นคือ เธอมาทานอาหารลำพัง และเธอคนนั้นดูเหมือนว่าจะรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร
ไม่มีอาการลังเลใจหรือหวาดหวั่นกับการที่ต้องมานั่งทานอาหารคนเดียว
พูดอีกอย่างว่าเหมือนไม่แคร์ต่อคนรอบๆตัว สิ่งที่เบญจ์บอกกับตัวเองว่าผู้หญิงคนนี้ดูดึงดูดหน้าหวานกับการแต่งตัวช่างขัดกัน
ดูเป็นคนมีความมั่นใจสูง ปกติเบญจ์จะเห็นแต่ผู้หญิงที่มาเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนๆเป็นส่วนมาก “ดูโดดเดี่ยวและมั่นใจดีจัง”
เบญจ์พึมพำกับตัวเอง
ณีนนาราขับรถถึงคอนโดของปูรณ์เวลาประมาณสี่ทุ่มครึ่ง
เธอโทรมาบอกปูรณ์ไว้ก่อนว่าจะเอาของมาฝาก ให้ลงมารับที่ด้านล่างเนื่องจากเธอรีบจะกลับไปนอนเหมือนกัน
“อะ
ซื้อของโปรดแกมาฝาก มีมะม่วงมาด้วยแกจะได้ไม่ต้องไปหาซื้อดึกๆดื่นๆ”
“นี่แกหนีฉันไปหัวหินมาคนเดียวอีกแล้วเหรอ
ไม่เคยชวนนะ แต่แกก็รู้ใจจริงๆ” ปูรณ์ยิ้มกับถุงของฝาก
ด้วยความที่เธอชอบทานกะปิโหว่มาก เพื่อนๆชอบแซวเธอว่าชอบกินของคนแก่
“อย่าพูดมาก
ก็รู้จะไปนั่งสงบๆจะเอาแกไปด้วยทำไม ไปทำลายความสงบฉันเหรอ
ไปละต้องรีบไปนอนพักขับรถเมื่อย”
“อืม ถึงคอนโด
อย่าลืม text มาบอกล่ะ”
****************************************************************
ณ ห้องทำงาน
“สวัสดีค่ะ ณีนนาราค่ะ” ณีนนารารับโทรศัพท์ขึ้นมาพูดออกไปด้วยความเคยชิน
โดยไม่ได้ดูชื่อว่าใครโทรเข้าเพราะเธอตั้งเสียงเฉพาะเวลาเบอร์มือถือปูรณ์
โทรเข้ามาหา
“แหมม ไม่ต้องเป็นทางการขนาดนั้นก็ได้” ปูรณ์บ่นมาตามสาย
“แล้วแกจะให้ฉัน พูดว่าฮัลโหลมีอะไร โทรมาทำไมหรือไง ฉันไม่เหมือนแกนะ”
ณีนนาราโต้กลับไป
“เออ ใส่มาเป็นชุด จะเอาไหมนักแปลนอร์วีเจี้ยนเนี้ย” ปูรณ์ถามแบบเป็นต่อกลับมา
“แล้วจะช่วยไหมล่ะ ไม่ช่วยก็ไม่ง้อยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่
หาคนแปลไม่ได้มันหงุดหงิดนะ แต่แกอย่าลืมว่าแกก็มีหุ้นอยู่ในบริษัทเหมือนกัน”
“ช่วยสิ ไม่ช่วยเพื่อนรักและบริษัทแล้วจะช่วยใคร
อะเตรียมปากกามาจดชื่อกับ e-mail”
“ว่ามาสิคะคุณปูรณ์ เดี๋ยวจะเลี้ยงข้าวถ้าเขาแปลได้จริงๆ”
“ชื่อ คุณเบน e-mail คือ bw.oslo@gmail.com
ฉันไม่เคยคุยกับเขานะเพียงแต่รุ่นพี่ที่ฉันรู้จักคนที่เรียนเอกอยู่สต๊อกโฮม
แนะนำมาเขาบอกว่าคนนี้เขาจบตรีกับโท มาจาก University of Oslo ตอนนี้เพิ่งลาออกจากงานประจำที่นอร์เวย์มาอยู่เมืองไทย
ตอนอยู่นอร์เวย์ก็รับแปลเอกสารจากไทยเป็นนอร์วีเจี้ยนให้กับคนไทยที่โน่น”
“แกไม่มีนามสกุลเขาเหรอ แล้วเขาจะแปลงานได้สละสลวยเหรอ
เขาไม่เคยแปลนิยายมาก่อนนะ”
“ไม่มีว่ะ ส่วนเรื่องงานแปล ฉันว่าน่าจะได้นะแกเห็นพี่คนที่แนะนำมา
เขาบอกว่าคุณเบนเขามีแม่เป็นครูภาษาไทย ใช้ภาษาเป๊ะมากๆ
แถมเรียนเก่งมากที่ไปเรียนนอร์เวย์ก็ ได้ทุนไปนะ”
“อืมๆ งั้นขอบใจนะ ถ้าได้เรื่องอย่างไรจะบอกผลนะ แล้วจะพาแกไปเลี้ยง” ณีนนาราก็วางหูไปจากคุณเพื่อนรัก
พร้อมที่จะเขียนอีเมลไปหาคุณเบนทันที
To: bw.oslo@gmail.com
From:
neennara.k@gmail.com
Subject: ติดต่อเรื่องแปลนิยายค่ะ
เรียน คุณเบน,
ดิฉันขอแนะนำตัวนะคะ
ดิฉันชื่อ ณีนนารา กิจรุ่งเรืองทวี จาก สนพ.มูราซากิ ค่ะ คือดิฉันได้รับคำแนะนำว่าคุณสามารถแปลภาษานอร์เวย์มาเป็นภาษาไทยได้
จึงอยากสอบถามว่า ไม่ทราบว่าคุณเบน สนใจจะรับแปลนิยายไหมคะ
ทางสำนักพิมพ์มีความสนใจจะแปลนิยายเรื่อง Det som er mitt ของ Anne Holt เพื่อมาตีพิมพ์ค่ะ ถ้าคุณมีความสนใจอย่างไรช่วยกรุณาติดต่อกลับแล้วทางเราจะส่งงานตัวอย่างไปให้คุณแปลส่งกลับมาให้อ่านสำนวนการแปลของคุณค่ะ
นับถือ
ณีนนารา
วันรุ่งขึ้นณีนนาราได้รับ
e-mail ตอบกลับมาจาก คุณเบน
To:
neennara.k@gmail.com
From:
bw.oslo@gmail.com
Subject: Re:ติดต่อเรื่องแปลนิยายค่ะ
เรียน
คุณณีนนารา,
ดิฉันคิดว่าสนใจงานที่คุณเสนอมาค่ะ
ปัญหาอยู่ที่ว่าดิฉันไม่เคยแปลนิยายมาก่อน แต่ถ้าทางคุณจะส่งงานที่จะให้แปลเป็นตัวอย่างก่อนก็ได้
ดิฉันมีหนังสือของ Anne Holt อยู่ จะให้แปลส่งให้คุณลองอ่านสักกี่หน้าดีคะ
นับถือ
เบญจ์
“อ้าวเป็นผู้หญิงเหรอ
ยัยปูรณ์บอกว่าชื่อเบนก็นึกว่าเป็นผู้ชาย เขียนชื่อเขาผิดอีก เฮ้อ” ณีนนาราบ่นกับตัวเอง
To: bw.oslo@gmail.com
From:
neennara.k@gmail.com
Subject: ขอบคุณที่สนใจร่วมงานค่ะ
ถ้าไม่เป็นการรบกวน
อยากช่วยให้คุณเบญจ์ แปลเรื่อง Det som er mitt มาให้ทางเราพิจารณาสำนวนสัก 15 หน้าค่ะ
ไม่ทราบคุณเบญจ์ จะส่งให้ได้เมื่อไหร่คะ ดิฉันจะได้รีบไปเสนอเจ้านายค่ะ
นับถือ,
ณีนนารา
To:
neennara.k@gmail.com
From:
bw.oslo@gmail.com
Subject: Re:ขอบคุณที่สนใจร่วมงานค่ะ
คงส่งตัวอย่างการแปลให้ได้ภายในสอง-สามวันนี้ค่ะ
นับถือ
เบญจ์
เช้าวันรุ่งขึ้น
ณ ห้องทำงานของ วรชญา
“ก๊อกๆ คุณวีคะ ณีน มีเรื่องมาปรึกษาค่ะ”
“นั่งก่อนสิ ว่ายังไง ได้เรื่องอย่างไรบ้างล่ะ พี่หารายชื่อคนที่น่าจะแปลได้
มา 2 คนนะ เพื่อนๆแนะนำมาอีกทีเหมือนกัน”
“ณีน ได้มา 3 คนค่ะ แต่ 2 คนส่งสำนวนการแปลภาษาไทยมาแล้วขาดอีกคนเดียวค่ะ ณีนกำลังอ่านฉบับภาษาอังกฤษอยู่
ว่าที่เขาแปลจากนอร์วีเจี้ยนมาเป็นไทยแล้วณีนเข้าใจถูกไหม
อย่างไรถ้าได้สำนวนมาครบทั้ง 3 คน ณีนจะส่งมาให้คุณวีอ่านนะคะ”
“งั้นนี่ชื่อกับ e-mail ที่เพื่อนพี่แนะนำมา” คุณวีส่งกระดาษมาให้ฉัน ฉันเอื้อมมือไปรับพร้อมก้มหน้าลงอ่านทันที
“คุณวีคะ ชื่อที่คุณให้มาคงใช้ได้แค่ชื่อเดียวค่ะ เพราะคุณเบญจ์นั้น
ณีนได้ติดต่อไปแล้ว นี่ก็รองานแปลตัวอย่างส่งมาให้อยู่ค่ะ
ยังไงเดี๋ยวณีนจะติดต่ออีกคนไปนะคะ ได้เรื่องอย่างไรแล้วจะรีบมารายงานคุณวี เลยค่ะ
ณีนขอตัวก่อนนะคะ เพราะมีต้นฉบับที่ต้องอ่านให้เสร็จอีกหลายฉบับค่ะ”
“จ๊ะ ยังไงก็อย่าหักโหมมาก เดี๋ยวยัยปูรณ์จะว่าพี่ใช้งานหุ้นส่วนเยอะเกินไป
เพื่อนรักเขาไม่มีเวลาไปเที่ยวเตร็ดเตร่บ้าง”
“ค่ะ” ณีนนารารับคำพร้อมออกมาจากห้องทำงานของวรชญา
มุ่งตรงกลับไปยังห้องทำงานเธอ ที่ตอนนี้กองพะเนินไปด้วยงานราษฎร์และงานหลวง พร้อมลงมือติดต่อนักแปลอีกคนทันที
วันนี้ถือว่าเป็นวันที่วุ่นวายวันหนึ่ง
ณีนนาราไม่ได้กลับออกมาจากบริษัทจนกระทั่ง 19.00 น.
B de Beauvoir
17-06-2012 @Thailand
ออกตัวแรงมากจริง ๆ :p
ReplyDeleteตอนนี้สองสาวก็ยังไม่เจอกันอย่างเป็นทางการเลย ท่าทางจะยืดเยื้อไม่ทันใจวัยรุ่นอย่างเราแน่ ๆ 555 แต่ไม่เป็นไรเริ่มจะชินแล้วค่ะ และก็รอตอนต่อไป ทวงล่วงหน้าไว้ก่อนเลย ;)
คือเป็นคนเคลียร์น่ะค่ะ แต่บางคนบอกว่าแรง เลยบอกกันไว้ก่อนเลย คนอ่านจะได้ไม่บ่นนะคะ
Deleteไม่ทันใจแน่นอนค่ะ เราเคยคิดว่านิยายยูริบางเรื่องที่อ่านในเนตเนี้ยทำไมถึง แบบเจอปุ๊ปรักปั๊ป ดำเนินเรื่องฉับไวจัง เลยแต่งแบบเนิบ (จริงๆแล้วคนแต่ง แต่งให้ดี น่าอ่านน่าสนใจขนาดนั้นไม่ได้เลย เป็นข้อแก้ตัวค่ะ 555+)
ทวงล่วงหน้าได้ แต่จะมาเมื่อไหร่ไม่รู้ค่ะ ;)
เกือบจะเจอกันแล้วซินะสองสาว.....
ReplyDeleteคุณนักเขียนไม่ต้องรีบนะคะ จะบอกว่ารอแล้วกัน(ไม่กดดันเลย)
เห็นด้วยเรื่องนิยายยูริในเนต บางเรื่องอ่านแล้วจะเป็นลม ทำไมมันรวดเร็วกันขนาดนั้น หรือว่าเราแก่เกินไปเลยตามวัยรุ่นไม่ทัน 555
clearsky
อ้าวมาบอกว่าแก่ สงสัยต้องทำโพลสำรวจประชากรอายุคนอ่านบล๊อกซะแล้ว
Deleteสงสัยเด็กๆจะไม่อ่านบล๊อกนี้ 555