One Life Stand เดี่ยวดี
เดี่ยวร้าย โดย คันฉัตร รังสีกาญจน์ส่อง
หนังสือจากงานหนังสือครั้งที่ผ่านมา(ตุลาคม
๒๕๕๙) ตามเคยคิดว่าจะไม่ไปแต่ก็ไปจนได้
จะบอกว่าใจจริงตั้งใจจะไปร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีที่สนามหลวงแต่เห็นระยะเวลาที่ต้องร่วมกิจกรรมแล้วเลยเปลี่ยนใจไปงานหนังสือดีกว่า
ไปแบบฉายเดี่ยว และได้มาหลายเล่มรวมถึงหนังสือนิทานของหลานอีก ๑๐ เล่ม
แบกกันหลังหัก จริงๆมีเล่มที่น่าสนใจอยากเขียนถึงที่สุดแต่ยังอ่านไม่จบเลยขอมาพูดถึงเล่มนี้ก่อน
ในแง่มุมของคนที่สามารถเอาชีวิตจริงไปรีเลทกับหนังสือได้
ไม่ได้มีแง่มุมวิชาการอะไรทั้งสิ้น
จำไม่ได้ว่าหนังสือเล่มนี้เป็นเล่มแรกหรือเปล่าของคันฉัตรที่เรามีไว้ครอบครอง
เรารู้จักเขามาก่อนที่จะรู้จริงของเขาในชื่อของ “merveillesxx” ในพันทิป
ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเคยหลังไมค์กันครั้งสองครั้งน่าจะเกี่ยวกับนิตยสารหนังไม่ก็เรื่องหนังหรือนักแปลสักคน
เราติดตามอ่านเวลาเขาเขียนถึงหนังบ้าง
ส่วนเหตุผลที่ซื้ออ่านเพราะเราอยากรู้ว่าชีวิตเดี่ยวๆของเขากับเราจะเหมือนกันไหม
หนังสือเล่มนี้เหมาะกับใคร
เหมาะกับคนที่อยากจะลองทำอะไรคนเดียวแต่ยังไม่กล้าพอจะได้รู้ไว้ว่า
เฮ้ยมีคนทำนะสิ่งที่เคยอยากทำคนเดียว มันสะดวกสบายกว่า
และเหมาะกับคนที่คิดว่าการทำอะไรคนเดียวเป็นเรื่องแปลก
เช่นไปมองคนที่เขาไปดูหนังคนเดียว หรือกินMKคนเดียวด้วยสายตาแห่งความสงสาร โปรดจงรู้ไว้ว่าเขาเลือกที่จะทำอย่างนั้น
ไม่เอาไม่ยุ่งคุณไม่ได้ไปจ่ายเงินให้เขา
ส่วนที่สำคัญหนังสือเล่มนี้ขำทีเดียวค่ะมอบความบันเทิงได้แน่นอน สำคัญที่สุดคือบทสรุปของบทสุดท้ายมันบอกทุกอย่างได้
“มนุษย์คนเดียวโดยสมบูรณ์มันไม่มีจริง”
ส่วนความเห็นส่วนตัว
เราคิดว่าคนสมัยนี้มีหลายคนที่ใช้ชีวิตแบบคนเดียว
การใช้ชีวิตคนเดียวไม่ได้หมายความว่าจะอยู่คนเดียวที่บ้าน หรือไม่มีเพื่อนคบ
แต่เลือกที่จะทำอะไรคนเดียว เพราะมันสะดวกสบายมากกว่า
แค่อาจจะโดนมองข้ามเวลามีโปรโมชั่นอะไรที่ต้องเป็นคู่หรือเป็นกลุ่ม หรืออาจจะลำบากตอนป่วย
เช่นเมื่อเวลาป่วยไม่มีใครคอยหาข้าวปลาอาหาร หรือกระทั่งพาไปหาหมอ
แต่ถ้าจะใช้ชีวิตคนเดียวก็คงต้องเตรียมพร้อมวางแพลนไว้ดีๆ
สิ่งที่เรายังไม่เคยทำและอาจจะไม่ทำคือการไปดูคอนเสิร์ตคนเดียว
อาจจะด้วยที่ว่าเราไม่ได้ชอบการไปอยู่กับคนหมู่มากขนาดนั้นมันค่อนข้างขัดเขิน
และคอนเสิร์ตอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เราชอบขนาดต้องลงทุนไปดู เราเลือกที่จะนั่งดูDVDคอนเสิร์ตอยู่บ้านมากกว่า
ด้วยที่เราใช้ชีวิตคนเดียวมาตั้งแต่สมัยมัธยม
เราโคตรชอบเวลาอยากไปไหนก็ไป เช่นแถวบ้านตอนมัธยมมีโจ๊กขายดึกๆแบบเที่ยงคืนถึงตีห้า
ดึกๆเราก็เดินออกไปซื้อกินดีที่ทางมันไม่เปลี่ยวเดินไปไม่กี่นาทีและคนเยอะ(อันนี้คนที่บ้านเราไม่มีคนรู้นะคะ)
อันนี้คือที่เราหมายถึงอยากจะทำอะไรก็ทำแต่การกระทำต้องไม่เดือดร้อนคนอื่น ถ้าใครดูท่าจะมีปัญหากับการใช้ชีวิตคนเดียวของเรา
ถ้าเป็นผู้ใหญ่ก็หูทวนลมไป ส่วนเพื่อนกันก็ถามมันไป So What!!!
No comments:
Post a Comment