Sunday, 12 June 2016

รอรักเธอ Pam's Story : You Don't Know Me




วันนี้วันอาทิตย์นั่งดูวอลเลย์บอลหญิงไทยแข่งกับทีมเยอรมนีไป เขียนบล็อกไปจริงๆคิดอยู่ว่าจะเขียนถึงนิยายเล่มนี้ของคิลินดีไหม ไม่ใช่จะไม่อยากเขียนนะคะ คิดว่าจะรอตอนอีกเล่มของ Series นี้ออกมาก่อน แล้วจะเขียนถึงพร้อมกันทีเดียวดีกว่า แต่เรากลัวจะรอนานเดี๋ยวการเขียนมันจะไม่สดใหม่ในความคิดเรา
สำหรับเล่มนี้ขอพูดโดยรวมๆคือ การเขียนของคิลินจะไม่เหมือนเล่มอื่น อาจจะมีตัดฉุบฉับปัจจุบันอดีต ในตอนแรกอาจจะมีคนอ่านแล้วงง แต่บอกได้เลยว่าอ่านเถอะค่ะ มันมีเหตุและผลของการเขียนแบบนี้ เป็นสไตล์การเขียนของนักเขียน ถ้าจะคิดว่านักเขียนต้องเขียนแบบเดิมตลอดเพราะคนอ่านติดกับการเขียนอย่างเก่าก็คงบอกได้เพียงว่าเล่มนี้คงไม่ใช่แนวของคุณค่ะ เพื่อการตัดสินใจแนะนำว่าโหลดตัวอย่างมาอ่านค่ะจะได้สะระตะถูกว่าเสียเงินดีไหม อ้อประเด็นใหญ่ใครชอบ NC เยอะๆ เราบอกเลยว่าไม่มีค่ะ

เรื่องย่อ

"อะไรนะ ! ให้พูดถึงแพทริเชียหรือ...?
ไม่ล่ะ ฉันอธิบายไม่เก่ง ฉันไม่ค่อยเข้าใจความรู้สึกพวกนี้

อ้อ คุณอนุญาตให้ฉันเปรียบเปรยได้?...งั้นขอคิดก่อนได้ไหม
.
..
เอ่อ...อบอุ่นเหมือนหมี ร่าเริงเหมือนคนบ้า ยียวนเหมือนคู่กัด
กวนประสาทเหมือนรถแท็กซี่
...
....
คุณไม่เข้าใจ? ฉันบอกแล้วไงว่าฉันอธิบายไม่เก่ง เราไม่พูดเรื่องนี้กันเลยก็ได้นะ
.....
......
ใช่ ฉันวกวนและไม่ละเอียดสักเท่าไหร่ คุณบอกได้เลยใช่ไหมล่ะ
โอ้ นั่นก็ใช่ ฉันไม่ค่อยจะยอมรับความรู้สึกตัวเอง
แล้วก็ออกจะขี้ขลาดเอามากๆเลยด้วย
......
........
ให้ฉันเล่าไปเรื่อยๆ หรือ...จะดีหรือ?
...คุณจะจับต้นชนปลายเองได้ใช่ไหม

.....................// แพม //.......................
อย่างที่นักเขียนบอก “...คุณจะจับต้นชนปลายเองได้ใช่ไหม” ส่วนเรื่องย่อแบบโคตรย่อจากเราคือ เรื่องความรักของเพื่อนสนิทที่ไม่รู้จะไปทางไหน รักแบบเพื่อนคืออยู่ได้นาน แต่ถ้าเปลี่ยนไปรักแบบคนรักล่ะ  ต่อไปจะมีการเปิดเผยเนื้อหาของนิยายนะคะ ใครยังไม่ได้อ่านฉบับเต็มก็แนะนำว่าปิดไปตรงนี้  หรือจะฟังเพลงก่อนก็ได้ โดยเนื้อเพลงมิได้เกี่ยวกับเนื้อหาใดๆของนิยายเรื่องนี้ทั้งสิ้น แค่เราชอบ 





ขณะนี้ดูวอลเลย์บอลหญิงบอลแรกไทยไม่ดีเลย ตามสาวเยอรมันแบบห่าง แม้นักวอลเลย์เยอรมันจะสวยก็ไม่สามารถทำให้เราหยุดแช่งพวกเธอได้ 555 เบอร์ 11 สวยมากนะ
Louisa Lippmann




เรื่องนี้จะมีตัวดำเนินเรื่องเด่นอยู่ 2 คน คือแพมกับแพท ก็แน่ล่ะมันเรื่องของสองสาวนี้นี่ และสิ่งที่ตัวละครทุกตัวในนิยายมีเหมือนกันมันคือความ pathetic ทุกตัวละครมีปมเพียงแต่จะเลือกแสดงออกมาต่างกันไป คนเดียวที่เราไม่เจอปมหลังจากการอ่านคือ มิสซิสพอตต์  บรรดานักเรียนแลกเปลี่ยนตัวประกอบแสดงถึงความเป็นคนต่างชาติที่ไปอาศัยประเทศอื่นอยู่ต้องต่อสู้กับการเรียน การยอมรับ ต้องแสดงว่าตัวเองเจ๋ง ตัวเองดี แถมยังต้องไม่แสดงความอ่อนแอให้คนอื่นเห็นเพราะกลัวว่าพอคนอื่นรู้แล้วจะกลับมาโจมตีทุกเมื่อ อย่างที่คิลินเขียนนั่นแหละมีเต็มไปด้วย EGO โง่ๆเต็มไปหมด แล้วทำไมมันถึงเต็มไปด้วย EGO พวกนั้นล่ะ ก็เพราะพวกนี้คือเด็กหัวกะทิที่แก่งแย่งแข่งขันสอบมา มันไม่เหมือนเด็กที่พ่อแม่มีกำลังจะส่งไปเอง ซึ่งพวกนั้นก็จะไปแข่งกันเรื่องอื่น เช่น แข่งกันใช้เงินเป็นต้น ส่วนคนอื่นๆ พ่อก็มีเรื่องที่ลูกสาวอย่างแพทไม่ยอมรับ เซนก็เรื่องพ่อให้ความสำคัญกับพี่สาวมากกว่าตัวเอง เจนก็เรื่องตั้งหน้าตั้งตาหาสามีเพื่อแต่งงาน อาจจะรวมถึงเบบี๋ทองของเธอด้วย แพทก็มีเรื่อง พ่อ ครอบครัว เรื่องแม่ที่ตายไปและราโมน่า ส่วนแพมประเด็นใหญ่สุดก็คงเรื่องพ่อแม่ที่เสียชีวิตไปกับเรื่องของแพทที่เธอไม่กล้าจะเสี่ยงบอกแพทไปตรงๆว่าเธอรู้สึกอย่าไร ส่วนเรื่องญาติเธอตัดปัญหาได้ตั้งแต่ย้ายออกมาอยู่เอง  แต่ด้วยปมเหล่านี้มันทำให้นิยายออกมาแตกต่างจากยูริอื่นๆที่มีให้อ่านทั่วไป หลายๆคนอาจจะชอบนิยายที่ตัวละคร perfect ชีวิตนี้อะไรจะขนาดนั้นคะ สวย รวย ครอบครัวรับได้ ไม่มีปัญหาอะไรเลยในชีวิต  อย่าเพิ่งคิดว่าเราอคติกับนิยายแบบนั้นเราอ่านนะคะ อ่านเยอะด้วย สิ่งเดียวที่จะทำให้เราไม่อ่านก็คือภาษาค่ะบอกเลย
แล้วนิยายเรื่องนี้สนุกยังไงล่ะ สำหรับเราคือการที่เราได้คิดตามความคิดของแพม รักความกวนตีนของแพท แม้อาจจะมีการหงุดหงิดใจกับนิสัยของแพมเรื่องของแฟนๆ เพราะสำหรับเราคือไม่ใช่ก็ไม่ต้องมี ทำไมต้องโลเลกับอีพี่ต้าคือนิสัยออกจะรู้เช่นเห็นชาติกันดีว่าต้ามีใครอีกคนที่เป็นของตายมาตลอด จะคบไว้เพื่อ sex ก็ไม่น่าใช่นะ  อีกตัวละครที่น่าหงุดหงิดสำหรับเราคือเจนค่ะ เป็นเพื่อนที่อะไรเนี่ยยุ่งไปซะทุกเรื่อง แต่ก็นะยังมีความดีตอนท้ายเรื่องอยู่บ้าง

ท้ายนี้ไม่รู้ว่าเขียนถึง Pam’s Story จะเป็นการทำให้นักอ่านเลือกที่จะไม่อ่านแทนที่จะอ่านรึเปล่า ฮาฮาฮา

ป.ล. การเขียนนิยายสะท้อนนักเขียนคือมันต้องมีมุมตัวตนอะไรบางอย่างของนักเขียนใส่มาบ้างนิดๆหน่อยๆ  ว่าแต่คุณว่ามีอะไรมาจากคิลินบ้างล่ะ ;-)

1 comment:

  1. วอลเล่ย์ชนะนะคะ. คงเป็นเพราะเราไม่ได้ดู

    ถือว่าเป็นงานเขียนอีกสไตล์ของคิลินค่ะ. อาหารเรายังกินได้หลายรส. นิยายก็เช่นกันค่ะ.

    เรื่องสะท้อนนักเขียน. งั้นต้องถามกระจกวิเศษมั้ยคะ 555. เราว่าคงเป็นความกวน...หรือเปล่าคะ :P

    ReplyDelete