วันนี้วันอาทิตย์นั่งดูวอลเลย์บอลหญิงไทยแข่งกับทีมเยอรมนีไป
เขียนบล็อกไปจริงๆคิดอยู่ว่าจะเขียนถึงนิยายเล่มนี้ของคิลินดีไหม
ไม่ใช่จะไม่อยากเขียนนะคะ คิดว่าจะรอตอนอีกเล่มของ Series นี้ออกมาก่อน แล้วจะเขียนถึงพร้อมกันทีเดียวดีกว่า
แต่เรากลัวจะรอนานเดี๋ยวการเขียนมันจะไม่สดใหม่ในความคิดเรา
สำหรับเล่มนี้ขอพูดโดยรวมๆคือ
การเขียนของคิลินจะไม่เหมือนเล่มอื่น อาจจะมีตัดฉุบฉับปัจจุบันอดีต
ในตอนแรกอาจจะมีคนอ่านแล้วงง แต่บอกได้เลยว่าอ่านเถอะค่ะ
มันมีเหตุและผลของการเขียนแบบนี้ เป็นสไตล์การเขียนของนักเขียน
ถ้าจะคิดว่านักเขียนต้องเขียนแบบเดิมตลอดเพราะคนอ่านติดกับการเขียนอย่างเก่าก็คงบอกได้เพียงว่าเล่มนี้คงไม่ใช่แนวของคุณค่ะ
เพื่อการตัดสินใจแนะนำว่าโหลดตัวอย่างมาอ่านค่ะจะได้สะระตะถูกว่าเสียเงินดีไหม
อ้อประเด็นใหญ่ใครชอบ NC เยอะๆ
เราบอกเลยว่าไม่มีค่ะ
เรื่องย่อ
เรื่องย่อ
"อะไรนะ !
ให้พูดถึงแพทริเชียหรือ...?
ไม่ล่ะ
ฉันอธิบายไม่เก่ง ฉันไม่ค่อยเข้าใจความรู้สึกพวกนี้”
“อ้อ
คุณอนุญาตให้ฉันเปรียบเปรยได้?...งั้นขอคิดก่อนได้ไหม”
.
..
“เอ่อ...อบอุ่นเหมือนหมี
ร่าเริงเหมือนคนบ้า ยียวนเหมือนคู่กัด
กวนประสาทเหมือนรถแท็กซี่”
...
....
“คุณไม่เข้าใจ?
ฉันบอกแล้วไงว่าฉันอธิบายไม่เก่ง เราไม่พูดเรื่องนี้กันเลยก็ได้นะ”
.....
......
“ใช่
ฉันวกวนและไม่ละเอียดสักเท่าไหร่ คุณบอกได้เลยใช่ไหมล่ะ
โอ้ นั่นก็ใช่
ฉันไม่ค่อยจะยอมรับความรู้สึกตัวเอง
แล้วก็ออกจะขี้ขลาดเอามากๆเลยด้วย”
......
........
“ให้ฉันเล่าไปเรื่อยๆ
หรือ...จะดีหรือ?
...คุณจะจับต้นชนปลายเองได้ใช่ไหม”
.....................//
แพม //.......................
อย่างที่นักเขียนบอก “...คุณจะจับต้นชนปลายเองได้ใช่ไหม”
ส่วนเรื่องย่อแบบโคตรย่อจากเราคือ เรื่องความรักของเพื่อนสนิทที่ไม่รู้จะไปทางไหน
รักแบบเพื่อนคืออยู่ได้นาน แต่ถ้าเปลี่ยนไปรักแบบคนรักล่ะ ต่อไปจะมีการเปิดเผยเนื้อหาของนิยายนะคะ
ใครยังไม่ได้อ่านฉบับเต็มก็แนะนำว่าปิดไปตรงนี้
หรือจะฟังเพลงก่อนก็ได้ โดยเนื้อเพลงมิได้เกี่ยวกับเนื้อหาใดๆของนิยายเรื่องนี้ทั้งสิ้น
แค่เราชอบ
ขณะนี้ดูวอลเลย์บอลหญิงบอลแรกไทยไม่ดีเลย
ตามสาวเยอรมันแบบห่าง แม้นักวอลเลย์เยอรมันจะสวยก็ไม่สามารถทำให้เราหยุดแช่งพวกเธอได้
555 เบอร์ 11 สวยมากนะ
Louisa Lippmann
เรื่องนี้จะมีตัวดำเนินเรื่องเด่นอยู่
2 คน คือแพมกับแพท ก็แน่ล่ะมันเรื่องของสองสาวนี้นี่ และสิ่งที่ตัวละครทุกตัวในนิยายมีเหมือนกันมันคือความ
pathetic ทุกตัวละครมีปมเพียงแต่จะเลือกแสดงออกมาต่างกันไป
คนเดียวที่เราไม่เจอปมหลังจากการอ่านคือ มิสซิสพอตต์ บรรดานักเรียนแลกเปลี่ยนตัวประกอบแสดงถึงความเป็นคนต่างชาติที่ไปอาศัยประเทศอื่นอยู่ต้องต่อสู้กับการเรียน
การยอมรับ ต้องแสดงว่าตัวเองเจ๋ง ตัวเองดี
แถมยังต้องไม่แสดงความอ่อนแอให้คนอื่นเห็นเพราะกลัวว่าพอคนอื่นรู้แล้วจะกลับมาโจมตีทุกเมื่อ
อย่างที่คิลินเขียนนั่นแหละมีเต็มไปด้วย EGO โง่ๆเต็มไปหมด
แล้วทำไมมันถึงเต็มไปด้วย EGO พวกนั้นล่ะ
ก็เพราะพวกนี้คือเด็กหัวกะทิที่แก่งแย่งแข่งขันสอบมา มันไม่เหมือนเด็กที่พ่อแม่มีกำลังจะส่งไปเอง
ซึ่งพวกนั้นก็จะไปแข่งกันเรื่องอื่น เช่น แข่งกันใช้เงินเป็นต้น ส่วนคนอื่นๆ
พ่อก็มีเรื่องที่ลูกสาวอย่างแพทไม่ยอมรับ
เซนก็เรื่องพ่อให้ความสำคัญกับพี่สาวมากกว่าตัวเอง
เจนก็เรื่องตั้งหน้าตั้งตาหาสามีเพื่อแต่งงาน อาจจะรวมถึงเบบี๋ทองของเธอด้วย
แพทก็มีเรื่อง พ่อ ครอบครัว เรื่องแม่ที่ตายไปและราโมน่า ส่วนแพมประเด็นใหญ่สุดก็คงเรื่องพ่อแม่ที่เสียชีวิตไปกับเรื่องของแพทที่เธอไม่กล้าจะเสี่ยงบอกแพทไปตรงๆว่าเธอรู้สึกอย่าไร
ส่วนเรื่องญาติเธอตัดปัญหาได้ตั้งแต่ย้ายออกมาอยู่เอง
แต่ด้วยปมเหล่านี้มันทำให้นิยายออกมาแตกต่างจากยูริอื่นๆที่มีให้อ่านทั่วไป
หลายๆคนอาจจะชอบนิยายที่ตัวละคร perfect ชีวิตนี้อะไรจะขนาดนั้นคะ
สวย รวย ครอบครัวรับได้ ไม่มีปัญหาอะไรเลยในชีวิต
อย่าเพิ่งคิดว่าเราอคติกับนิยายแบบนั้นเราอ่านนะคะ อ่านเยอะด้วย
สิ่งเดียวที่จะทำให้เราไม่อ่านก็คือภาษาค่ะบอกเลย
แล้วนิยายเรื่องนี้สนุกยังไงล่ะ
สำหรับเราคือการที่เราได้คิดตามความคิดของแพม รักความกวนตีนของแพท
แม้อาจจะมีการหงุดหงิดใจกับนิสัยของแพมเรื่องของแฟนๆ
เพราะสำหรับเราคือไม่ใช่ก็ไม่ต้องมี ทำไมต้องโลเลกับอีพี่ต้าคือนิสัยออกจะรู้เช่นเห็นชาติกันดีว่าต้ามีใครอีกคนที่เป็นของตายมาตลอด
จะคบไว้เพื่อ sex ก็ไม่น่าใช่นะ อีกตัวละครที่น่าหงุดหงิดสำหรับเราคือเจนค่ะ
เป็นเพื่อนที่อะไรเนี่ยยุ่งไปซะทุกเรื่อง แต่ก็นะยังมีความดีตอนท้ายเรื่องอยู่บ้าง
ท้ายนี้ไม่รู้ว่าเขียนถึง
Pam’s Story จะเป็นการทำให้นักอ่านเลือกที่จะไม่อ่านแทนที่จะอ่านรึเปล่า
ฮาฮาฮา
ป.ล.
การเขียนนิยายสะท้อนนักเขียนคือมันต้องมีมุมตัวตนอะไรบางอย่างของนักเขียนใส่มาบ้างนิดๆหน่อยๆ ว่าแต่คุณว่ามีอะไรมาจากคิลินบ้างล่ะ ;-)
วอลเล่ย์ชนะนะคะ. คงเป็นเพราะเราไม่ได้ดู
ReplyDeleteถือว่าเป็นงานเขียนอีกสไตล์ของคิลินค่ะ. อาหารเรายังกินได้หลายรส. นิยายก็เช่นกันค่ะ.
เรื่องสะท้อนนักเขียน. งั้นต้องถามกระจกวิเศษมั้ยคะ 555. เราว่าคงเป็นความกวน...หรือเปล่าคะ :P