Sunday, 8 May 2016

The Virginity Hit โดย Flynn Rider



ช่วงนี้อัพบล็อกถี่หน่อยนะคะ เนื่องด้วยมีวันหยุดหลายวันนั่งชิลๆ ไม่มีอะไรทำก็คิดไว้ว่าจะเขียนอะไรลงบล็อกดี ที่จริงถ้าเขียนตามที่คิดทั้งหมดนี่อาจจะเขียนได้ทุกวัน แต่เป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ เรื่องกรี๊ดกร๊าดสาวๆ เรื่องหงุดหงิด แต่ในที่สุดก็ไม่ได้เขียนเพราะขี้เกียจ ไม่ก็เขียนแล้วเริ่มแล้วแต่เขียนไม่จบ เกริ่นมาซะนาน เพิ่งอ่านนิยายเรื่องนี้จบค่ะ ใช้เวลาอ่านเยอะกว่าเล่มอื่นทีเดียว ไม่ใช่ไม่สนุกหรืออ่านยากแต่ไม่มีเวลาที่จะตะลุยอ่านแบบรวดเดียวจบ
เรื่องย่อ
"โคลอี เกรซ เธออายุ 24
จมูกของเธอดีและตอนนี้เธอกำลังได้กลิ่นอะไรแปลกๆ
กลิ่นแรกคือกลิ่นหนุ่มเลือดใหม่อันตราย
กลิ่นสุดท้ายเป็นกลิ่นที่สดใหม่และหอมหวานมากกว่านั้น

จากโจ๋อเมริกันอวดดีที่บินลัดฟ้าจากอเมริกา
มาเติบใหญ่ในเมืองใหม่ใจกลางกรุงลอนดอน

ใครคือหมาป่า ใครยังเวอร์จิ้น?
และใครกันที่จะมาพรากพรหมจรรย์?

แล้วใครกันคือสาวอเมริกันผู้ดูเหมือนจะหลงทาง..."
ถ้าใครยังไม่อยากโดน spoiled ว่าสาวอเมริกันคือใคร ก็กดปิดหลังจากจบย่อหน้านี้นะคะ เราแค่อยากจะบอกว่าถ้าเชื่อว่านิยายที่เราแนะนำมาบ้าง อ่านแล้วรสนิยมในการอ่านคล้ายๆกับเรากดโหลดฟรีมาอ่านเถอะค่ะ ไม่เสียเวลาเปล่าแน่นอน เรื่องนี้นักเขียนใจดีให้โหลดอ่านฟรีทั้งๆที่เราว่าสมควรจะขายมากกว่า อ่านง่ายกว่า 2 เรื่องก่อนอ่านสบายๆ แล้วเมื่ออ่านแล้วชอบอย่าลืม กดซื้อ Twin Flame ด้วยนะคะ ถือว่าส่งเสริมให้นักเขียนยูริดีๆมีเงินเข้ากระเป๋าบ้าง ร่ายมายาว ย้ำเนื้อหาต่อไปจะมีการเปิดเผยเนื้อหาของนิยายบ้างแต่ถ้าไม่แคร์ก็อ่านต่อค่ะ
^
^
^
^
^
^
^
^
^
^
^
^
^
^
^
อย่างที่เกริ่นไปข้างต้น ว่านิยายเรื่องนี้อ่านง่ายอ่านสบายกว่าเรื่องก่อนๆของ Flynn ไม่ได้ใส่รายละเอียดของตัวละครอื่นซะจนคนอ่านเข้าใจว่าสรุปนี่เรื่องของใคร แถมใครที่เคยอ่าน Sweet Snare มาอ่านแล้วรำคาญน้องหนูซาราห์ เด็กอะไรน่าเอาอะไรไปตีก้น แบบสั่งสอนให้ประพฤติตัวดีๆ นี่ลืมความเฮี้ยวเกเรของเธอไปได้เลย อ่านแล้วหลงรักซาราห์กันทีเดียว ส่วนโคลอี้เราก็ชอบที่เขียนบรรยายให้เธอเป็นคนพูดเพราะ แม้จริงๆถ้านึกไปถึงว่าโคลอี้จะพูดยังไงในภาษาอังกฤษแบบ คะ ขา  

The Virginity Hit อ่านแล้วต้องขอชมที่คนเขียน เขียนเอาเรื่องการเมืองในที่ทำงานมาผสมกับความรักของ 2 สาวได้อย่างน่าสนใจ ออกจะเด่นกว่าความรักของซาราห์กับโคลอี้ด้วยซ้ำ อ่านแล้วนึกถึงเรื่องการเปลี่ยนแปลงที่ยังไม่พร้อม อเล็กซ์ ครอส ทำให้เรานึกถึงพวกผู้บริหารวัยรุ่นสมัยใหม่ที่พยายามเปลี่ยนแปลง เป็นฮิปสเตอร์ที่ไม่รู้จัก compromise ถือว่าตัวเองดีเก่ง แล้วในที่สุดก็มีจุดจบอย่างที่เห็น ส่วน จูเลีย ก็แสดงให้เห็นว่าเมื่อยามรักน้ำต้มผักยังหวาน อย่าทำให้ผู้หญิงโกรธ แค่สอยไว้ใช้นั้นไม่ใช่ทางเลือกที่ดี และที่สำคัญที่สุดคนที่เกลียดขี้หน้ากันเมื่อยามได้เคลียร์ปัญหากันแล้วเราก็ได้เปลี่ยนศัตรูมาเป็นมิตรที่ดี เช่น แอมเบอร์กับจูเลีย  เราชอบแอมเบอร์ไม่อยากให้มีแฟนเป็นตัวเป็นตนเพราะโคลอี้กับซาราห์ต้องมีเพื่อนตัวป่วนอย่างเธอ ไม่มีเธอเรื่องนี้คงขาดสีสันไปเยอะ
จริงๆยังมีเรื่องที่น่าสนใจในเล่มนี้อีกเยอะ แต่ถ้าพิมพ์หมดก็จะยาวไป ใครชอบอะไรก็มาแชร์กันได้นะคะ  อ่านจบเรื่องนี้ก็อย่าลืมซื้ออีกเล่มนะคะ จะได้รู้ว่ากีอันนากับโซฟีเป็นไง หรือถ้าคิดถึงสาวขบถหัวแดงกับเอ็มก็มีให้อ่านด้วย แถมมีฉาก NC แบบละเอียดใครชอบอ่านแล้วจินตนาการบรรเจิดอันนี้ Recommended กันเลยทีเดียว

มาต่อด้วยว่าเวลาเราอ่านนิยายเรามักจะจินตนาการตัวเอกไม่ก็เพลงสำหรับนิยายที่อ่าน เช่นเรื่องนี้ เราว่าเพราะไปปารีสด้วย ก็คิดเออสมควรเป็นเพลงรักฝรั่งเศส แล้วเราก็นึกถึงเพลงนี้ Je t'aime moi non plus ร้องโดย Jane Birkin (ดาราชาวอังกฤษตอนสาวๆสวยมากเชิญไปเสริชกันเอาเอง แล้วชื่อเธอก็นี่แหละรุ่นกระเป๋า Birkin ของ  Hermès)
เพลงนี้มีที่มาที่ไปน่าสนใจมาก แนะนำว่าใครอยากอ่านเกร็ดเล็กๆน้อยไปเสริชอ่านเลยค่ะ คนแต่งแล้ว Duet กับเจน ก็คือ  Serge Gainsbourg    


คราวนี้พอเราฟังเพลงเราก็นึกไปถึงลูกสาวของ Jane กับ Serge คือ Charlotte ที่เราคิดว่าอิมเมจของ ซาราห์คือเธอก็ได้นะ เท่มากแม้จะวัยเลข 4 ไปแล้วก็ตาม ให้ย้อนไปดูตอนชาลอตสาวๆเอาเอง แถมเพลงนี้เราว่าเหมาะกับอดีตสาวเฮี้ยวจากฟิลลี่ “Terrible Angels


โอ๊ยยาวมากใครอ่านจบมารับรางวัลลูกอมหนึ่งเม็ดค่ะ

5 comments:

  1. ขอลูกอมค่ะ ^^

    KiliN

    ReplyDelete
  2. ขอลูกอมหน่อย (ขอเป็นลูกสาวนะ)

    ReplyDelete
  3. ขอลูกอมด้วยค่ะ

    ReplyDelete
  4. เชิญทั้ง 3 ท่านมารับ ลูกอมฮอลคนละเม็ดค่ะ

    ReplyDelete
  5. ขอลูกอมด้วยค่ะ

    ReplyDelete