บทที่ ๑๗
พรุ่งนี้เบญจ์ก็จะมาหาณีนนาราที่อังกฤษแล้ว
ถึงแม้ณีนนาราจะพ้นจากสายตาครอบครัวแต่ช่วงนี้เธอก็ไม่ได้พูดคุยกับเบญจ์มากนัก เนื่องจากเบญจ์เองก็ต้องไปจัดการธุระที่นอร์เวย์ให้เสร็จเรียบร้อย
ด้านณีนนารากลัวปูรณ์จะเบื่อเพราะตะวันก็ไปทำงานแต่เช้ากลับเย็นทุกวันเธอจะไปเดินเที่ยวชายหาดด้วยก็ไม่สะดวก
“ปูรณ์ไปเดินช๊อปปิ้งกันไหม
คราวนี้ไม่ค่อยได้เอาเสื้อผ้ามานี่ ซื้อขนกลับไทยไหมล่ะ”
“จะไปยังไงล่ะแม่คุณจะเช่ารถขับไปเหรอ
รอเบญจ์มาก่อนก็ได้”
“รายนั้นเขาไม่ไปช๊อปปิ้งหรอก
ก็ขึ้นรถไฟไปที่ Ashford แล้วเขามี Shuttle bus ไปที่Outlet เลย ถ้าฉันขโยกขเยกไม่ไหว เขามีรถเข็นให้แกเข็นฉันไง”
“รอเบญจ์ก่อนก็ได้อีกอย่างพรุ่งนี้ก็เป็นวันแรกที่ตะวันนัดนักกายภาพให้แกไม่ใช่เหรอ
เราก็ต้องไปเมืองอะไรนะที่ติดๆกับเมืองนี้อยู่ดีนี่นา
ตะวันบอกว่าโทรนัดแท๊กซี่ไว้ให้แล้วด้วย”
“โอเค
พรุ่งนี้ไปทำกายภาพที่ Ramsgate แล้วไปหาซื้อขนมไทยที่ร้านไทยมารอเบญจ์ก็ได้ งั้นวันนี้เราออกไปนั่งทำงานที่สวนกันนะ
แกมีงานต้องส่งนี่นา”
ณีนนาราชักชวนออกปูรณ์ออกไปนั่งรับแสงแดดอ่อนของช่วงต้นฤดูร้อน
ทั้งคู่นั่งดื่มชากันพร้อมทำงานและอ่านหนังสือกันไป ตอนเย็นเมื่อตะวันกลับมาทั้งสามสาวตกลงที่จะไปกินข้าวที่ร้านอาหารไทยเจ้าประจำของตะวัน
วันรุ่งขึ้นหลังจากที่ณีนนาราไปทำกายภาพและซื้ออาหารและขนม
สองเพื่อนรักก็นั่งแท๊กซี่กลับมารอเบญจ์ที่จะมาถึงตอนเย็น
“ไม่รู้เบญจ์จะหลงหรือเปล่า
ให้เรียกแท๊กซี่มาก็ไม่ยอม”
ณีนนาราบ่นแฟนสาว
“โอ้ยแกจะห่วงอะไร
เบญจ์เขาเดินทางมาเยอะแยะแค่นี้ไม่หลงหรอก สงสัยจะมาแล้วมั้ง” ปูรณ์พูดหลังจากได้ยินเสียงออดที่หน้าประตู
พร้อมเดินไปดูว่าใครมา “อะแฟนแกมาแล้วจะได้เลิกบ่นซะที”
“ฉันไม่ได้บ่นซะหน่อย”
ณีนนาราพูดพร้อมลุกเดินไปหาเบญจ์
เบญจ์เดินมากอดณีนนารา
“คิดถึงจังค่ะ ไม่ได้เจอกันตั้งนาน ได้ยินแต่เสียง”
“พอๆเกรงใจฉันบ้าง
ตาร้อนไปหมดแล้ว”
“นั่งก่อนค่ะ
เดินทางเหนื่อยไหม” ณีนนาราชวนเบญจ์นั่งลงข้างๆเธอ พร้อมทั้งทำหูทวนลมต่อคำแซวจากเพื่อนสาว
“ปูรณ์เป็นไง
เหนื่อยไหมต้องดูแลณีนคนเดียวตั้งนาน”
“เหนื่อยมากๆ
วันๆฟังแต่ยัยนี่บ่นถึงเบญจ์ คิดดูสิตอนกลางวันตะวันก็ไปทำงาน”
ปูรณ์แกล้งฟ้องแฟนของเพื่อนสาว
“อย่าพูดเลยเดี๋ยวกลับเมืองไทย
ถ้าแกจะจีบใครฉันจะช่วยจะได้หมดหนี้บุญคุณกัน” ณีนนาราพูดพร้อมค้อนใส่ปูรณ์ “ว่าแต่เบญจ์หลงหรือเปล่าคะ”
“ไม่เลยค่ะ
เครื่องลงที่ Stansted แล้วก็นั่ง Tube มา Victoria Station แล้วก็รถไฟค่ะ ปูรณ์ส่งแผนที่บ้านคุณตะวันไปให้ชัดเจนมาก ดีจังที่ใกล้สถานีเดินแป๊ปเดียว” เบญจ์รีบรายงานแฟนสาว
“นี่ weekend ก่อนเรากลับไทยไป
Paris กันนะ อย่างที่เราบอกไว้ในเมลน่ะ เราจองตั๋ว Eurostar
ไว้แล้ว ที่พักก็จองแล้ว” ปูรณ์รีบบอกพร้อมทำหน้ากระตือรือล้นที่จะได้ไปเที่ยว
“แหม
แกทำเป็นไม่เคยไปฝรั่งเศสไปได้ ว่าแต่เบญจ์หิวไหมคะ เดี๋ยวหาอะไรรองท้องไปก่อน
ส่วนมื้อเย็นนี้ สั่ง Take Away ร้านจีนกันดีกว่า ร้านนี้ณีนกินบ่อยเวลามาเยี่ยมตะวัน”
“ไม่หิวมากค่ะ
แค่ผลไม้ก็พอแล้วค่ะ ขอบคุณที่เป็นห่วงนะคะ” เบญจ์พูดไปยิ้มไปเพื่อขอบคุณความเอาใจใส่ของแฟนสาวต่อตัวเธอ
“ผลไม้จะอิ่มอะไรกันคะ
ทานขนมปังกับแยมสตอเบอรี่ แล้วก็ชาดีกว่านะคะ ไปเดินไปห้องครัวกันดีกว่าปล่อยยัยปูรณ์นั่งดูทีวีไป”
“เออ
ชั้นมันไม่มีค่าแล้วนี่ หมาหัวเน่าชัดๆ”
ปูรณ์แกล้งเรียกร้องความสนใจ
“โอ๋ๆ
แกนี่กวนจริงๆ จะให้เบญจ์เขาไปหาอะไรกินเองได้ยังไงล่ะ
เขาไม่รู้ว่าของอยู่ที่ไหน
แล้วฉันก็เกรงใจแกที่นอกจากจะต้องดูแลฉันยังต้องดูแลเบญจ์ด้วย”
“ทราบแล้วค่ะคุณนายแค่ล้อเล่น
ไปพาเบญจ์ไปหาอะไรกินได้แล้ว”
ณีนนาราพาเบญจ์ไปที่ห้องครัว
ต้มน้ำเตรียมชงชาและปิ้งขนมปังให้เบญจ์รับประทานรองท้องก่อนอาหารเย็น
“ณีนไม่ต้องทำค่ะ
นั่งเฉยๆแค่ชี้บอกเบญจ์ก็พอว่าของอยู่ตรงไหนบ้าง” เบญจ์รีบบอก
“ณีนไม่ได้ทำอะไรไม่ได้เลยนะคะ
นี่ก็โอเคขึ้นมากแล้ว วันนี้ไปทำกายภาพมาด้วยค่ะ นักกายภาพนัดไปทำอาทิตย์ละ 2
ครั้ง แล้วก็บอกวิธีบริหารกล้ามเนื้อเบาๆให้ณีนทำเองทุกวัน” ณีนนาราพูดไปพร้อมหยิบแก้วเตรียมมาใส่ชาที่จะชง
“ค่ะรู้แล้วว่าคนเก่งใกล้หายแล้ว
แต่เป็นห่วงนะคะ” เบญจ์พูดพร้อมเข้าไปกอดณีนนาราจากข้างหลังซบหน้าไปที่ไหล่
หายใจดมกลิ่นแชมพูที่แสนจะคุ้นเคยจากผมของแฟนสาวกลิ่น White musk “คิดถึงกลิ่นแชมพูกลิ่นนี้จังรู้ไหมคะ
นี่ขนแชมพูมาด้วยเหรอคะ” เบญจ์แซว
ณีนนาราปล่อยให้แฟนสาวกอดเธอ
สัมผัสเล็กๆน้อยๆอย่างนี้สื่อได้ถึงความคิดถึงและห่วงใยในช่วงระยะเวลาที่ไม่ได้เจอกัน “ลืมหรือเปล่าคะว่าแชมพู White musk ซื้อได้ทุกที่ที่มีร้าน
Bodyshop
ขนมปังปิ้งเสร็จแล้วไปนั่งทานกันดีกว่า”
“แล้วณีนกับปูรณ์ไม่ดื่มชาด้วยกันเหรอคะ
เดี๋ยวเบญจ์ยกไปให้” เบญจ์คลายอ้อมกอดพร้อมทั้งหันไปนำขนมปังใส่จานยกไปวางที่โต๊ะ”
พร้อมจูงณีนนาราไปนั่ง
“เพิ่งดื่มชากันไปเองค่ะ
ยัยปูรณ์เขาชอบน้ำเปล่ากับผลไม้มากกว่า บ่นตลอดว่ามาอยู่นี่ดื่มแต่ชา คิดถึงเครื่องชงกาแฟที่คอนโดจะแย่อยู่แล้ว” ณีนนาราแซวเพื่อนรัก
“น่าสงสารปูรณ์จัง
เมืองนี้ไม่มีร้านกาแฟอร่อยๆเหรอคะ” เบญจ์แสดงความเห็นใจเพื่อนรัก พร้อมทั้งหันไปชงชามาดื่มคู่ขนมปังและรินน้ำเย็นใส่แก้วมาวางตรงหน้าณีนนารา
“มีร้านคาเฟ่ค่ะแต่รายนั้นเขาเรื่องมาก
แล้วในตู้เย็นมีเนยค่ะ เมื่อกี้ณีนลืมหยิบออกมาให้”
ณีนนารารีบบอกเพราะรู้ว่าเบญจ์ชอบทาเนยที่ขนมปังปิ้งก่อนทาแยมสตอเบอรี่อีกที
เบญจ์บอกว่ามันจะมีรสเค็มๆหวานๆอร่อยดี
เบญจ์หันมายิ้มให้ขอบคุณที่ณีนนาราใส่ใจในสิ่งที่เธอชอบ
พร้อมเดินไปหยิบเนยมาวางแล้วบอกว่า “เดี๋ยวเบญจ์ไปเปิดกระเป๋าหยิบ
dark chocolate
ไปให้ปูรณ์กินเล่นระหว่างดูทีวีดีกว่า เอาใจปูรณ์หน่อย
ณีนนั่งรอแป๊ปนึงนะคะ” เบญจ์เดินไปเปิดกระเป๋าเป้หยิบขนมเดินไปให้เพื่อนของแฟนสาว
สักครู่ก็เดินกลับมานั่งข้างๆณีนนารา
“กลัวขนมปังหายร้อนเนยจะไม่ละลาย
ณีนเลยรีบทาเนยกับแยมให้ทานเลยสิคะ ไม่รู้จะอร่อยหรือเปล่า”
“อร่อยสิคะ”
เบญจ์รีบหยิบขนมปังขึ้นมากัด “ว่าแต่คุณตะวันล่ะคะเมื่อไหร่จะกลับ
เบญจ์เตรียมชาจากร้านชื่อดังที่เดนมาร์กกับไวน์มาให้ด้วย ไม่รู้จะถูกใจหรือเปล่า”
“แอบหนีไปเดนมาร์กมาด้วยเหรอคะ
ไปหาสาวเหรอคะ” ณีนนาราแกล้งถามแฟนสาว
“เปล่าค่ะ เบญจ์จะมีสาวที่ไหนไปหานอกจากคนนี้ได้ล่ะคะ
เผอิญเพื่อนข้ามไปเดนมาร์ก เบญจ์เลยฝากเขาซื้อมา ซื้อมาให้ณีนด้วยนะคะ
ร้านนี้ชาดีมากเพื่อนบอกมาค่ะ” เบญจ์รีบอธิบายพร้อมเอื้อมมือไปกุมมือณีนนารา
“ค่ะ
ณีนแค่แกล้งแซวเบญจ์เล่น ว่าแต่ไปทำอะไรที่นอร์เวย์มาคะ บอกแต่ว่าไปทำธุระ”
“ไว้เล่าให้ฟังคืนนี้ได้ไหมคะ
มีเรื่องต้องปรึกษาณีนด้วย” เบญจ์พูดพร้อมจิบชา
เมื่อเบญจ์เก็บล้างแก้วจานสิ่งของที่วางอยู่ในอ่างล้างจานจนหมดเธอก็ชวนณีนนาราไปนั่งดูทีวีกับปูรณ์
“สองคนทำไมหายกันไปนานนัก
แค่ไปหาอะไรรองท้องในครัวแค่นี้เอง ทำเหมือนเดินไปคาเฟ่ข้างนอก”
“อย่าบ่น ก็เบญจ์เขามัวแต่ล้างจานชามที่ฉันกับแกทิ้งไว้ในซิงค์อยู่น่ะสิ
ห้ามก็ไม่ฟังบอกว่าเดี๋ยวค่อยเอาใส่เครื่องล้างทีเดียวหลังดินเนอร์ก็ไม่เชื่อ”
“ดีจัง
มีแม่ศรีเรือนมาดูแลรักษาความสะอาด” ปูรณ์แซว
“เกรงใจคุณตะวันค่ะ
มาพักบ้านเขาฟรีๆ”
“พูดซะเรารู้สึกผิดเลยนะเนี้ย
แกหาแฟนได้ถูกคนแล้วณีน เบญจ์มีอย่างงี้หลงอยู่ในนอร์เวย์บ้างไหมหาให้เราคน แต่เราขอเป็นคนไทยนะขี้เกียจแปลภาษา”
ปูรณ์พูดไปหัวเราะไป
“ไม่มีค่ะ
คนอย่างเบญจ์มีแค่คนเดียว” เบญจ์ตอบพร้อมหันไปยิ้มให้ปูรณ์
“โอ๊ย
เดี๋ยวนี้แฟนแกมีอารมณ์นี้ด้วยเหรอยัยณีน เพิ่งเคยเห็น”
“ก็มีบ้างค่ะเรียนรู้จากปูรณ์ไง
ปล่อยให้ปูรณ์แซวฝ่ายเดียวได้อย่างไร”
“อย่าติดนิสัยยัยปูรณ์เยอะนะคะ
ณีนทนปูรณ์แค่คนเดียวก็พอแล้ว ขืนแฟนติดนิสัยกวนๆของเพื่อนรักไปอีกคนณีนคงเครียดแทนค่ะ”
ณีนนาราหัวเราะพร้อมซบหน้าไปที่ไหล่เบญจ์
ทั้งสามนั่งดูทีวีไปเงียบรอให้ตะวันกลับมาจากทำงาน
เมื่อตะวันมาถึงณีนนาราก็แนะนำให้เบญจ์รู้จักเพื่อนรักอีกคนของเธออย่างเป็นทางการ
หลังจากเคยเจอตะวันตอนที่เบญจ์เข้าใจแฟนสาวผิดที่ร้านหนังสือ
เธอก็ไม่เคยเจอตะวันอีกเลย ระหว่างนั่งทานอาหารเย็นเบญจ์ก็ได้ทำความรู้จักกับตะวันมากขึ้น
“ขอบคุณมากเลยนะคะคุณตะวันที่ให้เบญจ์มาพักด้วย”
“ไม่ต้องคุณหรอกค่ะ
แฟนเพื่อนก็คือเพื่อนคนหนึ่งของตะวันค่ะ
มาอยู่หลายๆคนก็สนุก บ้านหลังนี้ซื้อมาก็เพื่อจะให้ญาติและเพื่อนมาพักค่ะ
แล้วก็อาจจะรับเป็น host family ของนักเรียนที่มาเรียนภาษาโรงเรียนตรงหัวมุมถนนนี้เองค่ะ”
“ให้นักเรียนมาอยู่ไม่กลัวบ้านเลอะเหรอ”
ปูรณ์ถาม
“โรงเรียนนี้รับผู้ใหญ่ตั้งแต่อายุ
16 ขึ้นไป ถ้าเราจะรับจริงเราก็ระบุได้ว่าให้นักเรียนอายุเท่าไหร่มาพักได้
รับแต่ผู้หญิง แล้วก็ไม่สูบบุหรี่น่ะ เราก็คิดว่าจะรับแค่คนเดียวเท่านั้น
ว่าจะลองดูก่อนสักเดือนหนึ่งตอน summer เพราะนักเรียนจะเยอะ
แถมโรงเรียนนี้ค่าเรียนค่อนข้างสูงก็ถือว่าเป็นการคัดกรองนักเรียนระดับหนึ่งนะ”
“ดีจังค่ะ
ถ้าได้โฮสดีๆอย่างตะวันเราคงอยากเรียนภาษามากขึ้น
เราได้โฮสที่นอร์เวย์ดีเราก็เลยสบายได้ภาษา เขายังช่วยหาทุนให้อีกด้วย” เบญจ์สนับสนุนความคิดตะวัน
“ใจดีตลอดเลยนะตะวัน”
ณีนนาราชมเพื่อนเธอ
“ไม่ใจดีหรอกจ้า
เราก็ได้ค่าตอบแทนนะ และก็จะได้เพื่อนแก้เหงา เวลาไม่มีญาติหรือเพื่อนมาหาไง
ว่าแต่จะไปปารีสเมื่อไหร่ล่ะปูรณ์”
“ก็อีกสองอาทิตย์
weekend สุดท้ายก่อนเรากลับไทย รู้สึกอาทิตย์นั้นเป็น Bank holiday ด้วย กลับมาเย็นวันอาทิตย์ ตะวันจะได้มีเวลาพักผ่อนวันจันทร์ด้วย ไม่เหนื่อยเกินไป”
ปูรณ์บอกพร้อมทั้งเล่าแผนการเที่ยวคร่าวๆแก่ลูกทัวร์ของเธอ
ทั้งสี่คนนั่งคุยกันในเรื่องสัพเพเหระ
เบญจ์นำของฝากมาให้ตะวันเจ้าบ้าน
พร้อมทั้งขอตัวไปพักผ่อนเนื่องจากเธอยังไม่ได้พักเลยตั้งแต่เดินทางมาถึง
“เบญจ์พักห้องเดียวกับณีนนะคะ
ห้องนั้นเป็นห้องใหญ่พักได้สองคน อีกอย่างจะได้ช่วยดูแลณีนด้วย” ตะวันบอกแฟนของเพื่อนสาว
“ขอบคุณค่ะ
เดี๋ยวเบญจ์ขอเอากระเป๋าขึ้นไปเก็บเลยนะคะ” เบญจ์กล่าวขออนุญาต
“งั้นเดี๋ยวณีนไปด้วยเลย
จะได้พาไปห้องพัก เบญจ์เดินไปก่อนเลยนะคะ ณีนเดินขึ้นไปได้เพียงแต่ช้าหน่อย เราขึ้นห้องก่อนนะตะวัน,ปูรณ์”
ณีนนาราบอกทางไปห้องพักแก่แฟนสาว พร้อมลุกเตรียมตัวเดิน
“เบญจ์ยกกระเป๋าขึ้นไปก่อนเดี๋ยวลงมาพาณีนขึ้นไปข้างบนนะคะ”
เบญจ์รีบนำกระเป๋าขึ้นไปเก็บแล้วรีบลงมาช่วยพาณีนนาราขึ้นบันได
เมื่อถึงห้องณีนนาราก็ช่วยเบญจ์จัดของพร้อมบอกให้ไปอาบน้ำจะได้มาพักผ่อน
B de Beauvoir
20-07-2012 @Thailand