เมื่ออาทิตย์ที่แล้วพฤติกรรมของตลกคนหนึ่งที่อยู่ๆเข้าไปกอดสมาชิกวง
BNK48
ในรายการโทรทัศน์เป็นกระแสบน social media พอสมควร
เป็นกระแสที่ทำให้เราดีใจพร้อมทั้งส่ายหัวอนาถใจไปพร้อมๆกัน
ดีใจ
ที่มีคนกลุ่มหนึ่งได้ออกมาพูดว่าการกระทำเหล่านี้มันไม่เหมาะสม ส่วนอนาถใจ คือยังได้อ่านความเห็นพวกที่บอกว่าเป็นอะไรวง
BNK48
เป็นวงแนวไอดอลตั้งมาดูดเงินจากกระเป๋าเหล่าโอตะโดนเนื้อตัวนิดหน่อยอยู่แล้ว
คงต้องทำความเข้าใจเสียใหม่ว่าวงแนวไอดอลเขาไม่ได้ตั้งมาเพื่อให้ใครมาจู่โจมถูกเนื้อต้องตัว
เขามีงานจับมือเพื่อพบปะแฟนคลับเท่านั้น ส่วนพวกฮาร์ดคอโอตะเราคิดว่านักร้องเหล่านั้นก็คงไม่ได้สบายใจเท่าไรที่ต้องเจอการติดตาม
การอ่านความเห็นที่ช่างไม่เข้าใจในพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง
การจู่โจมไปกอดสามารถคิดเป็น sexual misconduct ได้
(การกระทำที่ไม่ได้รับคำอนุญาตจากผู้ถูกกระทำ) แต่หลายคนกับมีความคิดแค่นี้เอง
ไม่เป็นไรหรอก เพราะเป็น BNK48 ใช่ไหมถึงเป็นประเด็น
เห็นตลกหญิงโดนกระทำแบบนี้บ่อยจะตายไม่เห็นมีใครออกมาปกป้อง
ข้อความนี้มีทั้งถูกและผิด ผิด คือ ไม่ใช่เพราะน้องเป็น BNK48 คนถึงออกมาพูด ส่วนที่ถูก คือ ที่เราไม่ได้พูดถึงบรรดาตลกหญิง
เพราะการแสดงเหล่านั้นเท่าที่เห็นบ้างมันมีการพูดคุยวางพลอตซักซ้อมมาก่อนเท่ากับตลกหญิงได้รับทราบและยินยอม
แต่ถ้าไม่ได้รับการยินยอมเราเชื่อว่าคนที่มีความคิดคงมีคนไม่ชอบใจและตำหนิผู้กระทำออกมา
พฤติกรรมที่กล่าวถึงข้างต้นไม่ใช่เฉพาะเพศชายกระทำต่อเพศหญิงเท่านั้นถึงเรียกว่าไม่เหมาะสม
การกระทำดังกล่าวไม่ว่ากับเพศอะไรก็ถือเป็น misconduct ได้ทั้งนั้น
และจะเพิ่มความรุนแรงขึ้นไปเรื่อยจนถึง harassment
ความเห็นส่วนตัวว่าทำไมกรณีการไปกอดนั้นเป็นกระแสมากขึ้น
น่าจะเพราะเมื่อเดือนที่ผ่านมามีกรณี Harvey Weinstein sexual abuse
allegations ที่ฉาวไปทั่ว สำหรับคนที่ไม่รู้ว่า Weinstein ทำไม อะไร อย่างไร Harvey Weinstein เป็นโปรดิวเซอร์/ผู้บริหารสตูดิโอชื่อดังของฮอลลีวูด
มีอิทธิพลต่อการเลือกนักแสดงถือว่าเป็นมาเฟียคนหนึ่งในวงการหนัง เขาทำให้หนังนอกกรอบหลายๆเรื่องโด่งดัง
จนไปถึงผลักดันให้นักแสดงและหนังคว้ารางวัลอย่างออสการ์มาครอง (ใช่
การเมืองมันมีอยู่ทุกวงการ) หนังที่หลายคนชื่นชอบเช่น Good Will Hunting , Pulp Fiction และอีกหลายๆเรื่อง
ทั้งยังนำหนังอินดี้ฮ่องกงชื่อดังอย่าง Chungking Express ไปฉายที่อเมริกา
เมื่อต้นเดือนตุลาคม(2560)
มีรายงานจาก The
New York Time กล่าวหา Weinstein ล่วงละเมิดทำพฤติกรรมไม่เหมาะสมมาอย่างยาวนานถึง
3 ทศวรรษ โดยใช้อำนาจที่ตัวเองมีในมือ ทั้งยังมีการจ่ายเงินเพื่อชดเชยยุติปัญหาที่โดนร้องเรียนไปแล้วถึง
8 ครั้ง และมีรายงานออกมาเรื่อยๆทั้งยังมีดาราหญิงออกมาเปิดเผยว่าโดนกระทำไปจนถึงโดนข่มขืน
หนึ่งในนั้นคือ Rose McGowan ที่ออกมาพูดจนถึงขั้นโดน
twiiter แบน account ไปสักพัก ทั้งยังมีนักข่าว
Ronan Farrow บอกว่าเคยพยายามจะตีพิมพ์พฤติกรรมของ Weinstein
แต่โดนถอดไม่ให้ตีพิมพ์บทความ คนที่ยังสงสัยว่า Weinstein นี่เจ๋ง(เก๋าเจ๊ง)มีอิทธิพลขนาดไหนก็ขนาดนักแสดงหญิงที่โดนกระทำมีชื่อ
เช่น Gwyneth Paltrow พ่อ Gwyneth นี่เป็นผู้กำกับ/โปรดิวเซอร์
แม่เป็นนักแสดงชื่อดังคนหนึ่ง ถือว่ามี back up ที่ดีเทียบกับนักแสดงหญิงคนอื่น
Gwyneth ยังไม่ออกมาพูดตอนโดนกระทำและ Weinstein ยังกล้า
“When Gwyneth
Paltrow was 22 years old, she got a role that would take
her from actress to star: The film producer Harvey Weinstein hired her for the
lead in the Jane Austen adaptation “Emma.” Before shooting began, he summoned
her to his suite at the Peninsula Beverly Hills hotel for a work meeting that
began uneventfully.
It ended with Mr. Weinstein placing
his hands on her and suggesting they head to the bedroom for massages, she
said.
“I was a kid, I was signed up, I was
petrified,” she said in an interview, publicly disclosing that she was sexually
harassed by the man who ignited her career and later helped her win an Academy
Award.
She refused his advances, she said,
and confided in Brad Pitt, her boyfriend at the time. Mr. Pitt confronted Mr.
Weinstein, and soon after, the producer warned her not to tell anyone else
about his come-on. “I thought he was going to fire me,” she said.”
[ใครอยากอ่านกรณี Harvey
Weinstein เพิ่มลองเสริชเอานะคะ]
หลังจากมีดาราหญิงออกมาพูดว่าตัวเองโดน
Weinstein
คุกคามมากมาย หลังจากนั้นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของ men in
power หลายคนออกมา ไม่ว่า Kevine Spacy ถูกนักแสดง
Anthony Rapp กล่าวหาว่า sexual advance เมื่อRapp อายุ 14 ปี โดยการชวนไปงานเลี้ยงที่บ้านแล้วพาไปนอนบนเตียงแล้วก็นอนทับตัว
Rapp แล้ว Spacy ก็ออกแถลงการณ์ว่าตัวเองเมาจำไม่ได้
พร้อมทั้งบอกว่าตัวเองเป็น gay เป็นการเปิดตัวที่เลวร้ายมาก
ทำให้ชาว LGBT ไม่ชอบใจ เพราะการกระทำนั้นไม่เกี่ยวกับที่ตัว
Spacy เป็น homosexual เรื่องมันเกี่ยวกับนิสัยส่วนตัวล้วนๆ
และคนในวงการฮอลลีวูดก็ออกมาเล่าเรื่องของตัวเองว่ามีใครทำพฤติกรรมเหล่านี้กับตัวเอง
พอมีกระแสคนถูกกระทำออกมาพูดกระแส
#MeToo
ก็ดังขึ้นมาจาก Alyssa Milano
เป็นแฮชแท๊กที่ทำเพื่อให้คนเล่าเรื่องว่าตัวเองเคยโดนกระทำจากคนที่มีอำนาจเหนือกว่า
misconduct abuse harassment ยังไงกันบ้าง
ในที่นี้หมายถึงคนที่มีอำนาจทั้ง ชาย หญิง เกย์ เลสเบี้ยน ไบ
สิ่งที่ได้เข้าไปอ่านทำให้รู้ว่าเพศสภาวะนั้นไม่ได้เป็นปัจจัยหลักของการกระทำชั่วร้าย
สิ่งที่คนที่กล่าวมาทั้งหมดทำมันมาจากการไม่มีจิตสำนึก
คิดอยากจะหาประโยชน์จากผู้ที่ด้อยกว่าโดยไม่กลัว
อาจจะรวมไปถึงมีเงินจ่ายค่าปิดปากได้ด้วยซ้ำ
พวกเรา
ต้องตั้งคำถามกับตัวเองว่าสิ่งที่เรากระทำนั้นเป็นการส่งเสริมให้พฤติกรรมแบบนี้เป็นที่ยอมรับได้ในสังคมรอบตัวหรือไม่
แค่สังคมในครอบครัวตัวเราเห็นพี่น้องเราไปทำพฤติกรรมไม่เหมาะสมเหล่านี้แล้วเพิกเฉยไหม
เราสอนให้ลูกหลานเราจู่โจมไปกอดหอมแก้มเพื่อนพร้อมทั้งบอกไม่เป็นไรเด็กๆเล่นกัน
เราสอนให้เด็กเหยียดเพศสภาวะอื่น เช่น เด็กชายที่เรียบร้อยไม่ชอบเล่นโลดโผน
อยากใส่กางเกงสีชมพูในบางที ว่าตุ๊ดหรือไม่
หรือไปฝังหัวว่าเด็กหญิงต้องใส่กระโปรงถึงน่ารักใส่กางเกงเป็นทอม
เวลาไปเจอคนที่เพศสภาพอื่นคุณสอนให้เด็กๆเหยียดคนเหล่านั้นหรือเปล่า
คุณๆคิดหรือไม่ว่าจำเป็นต้องให้เด็กเคารพคนอื่นด้วยความเป็นมนุษย์ไม่ใช่เพศสภาพ
แต่เราจะดูกันที่นิสัยกับจิตสำนึก เวลาคุณดูโทรทัศน์กับลูกๆคุณได้บอกไหมว่าพฤติกรรมของนักแสดงไม่เหมาะสม
คุณได้บอกหรือเปล่าว่าที่พระเอกทำร้ายนางเอกไม่ใช่เรื่องที่นางเอกต้องยอมรับและรักพระเอกหัวปักหัวปำต่อให้พระเอกเลวทราม
คุณได้บอกไหมเวลาพิธีกรหญิงอยู่ๆก็เข้าไปกอดแขกรับเชิญผู้ชาย
พูดจาแทะโลมสองแง่สองง่ามไม่ใช่เรื่องที่ถูก สำคัญที่สุดคือต้องบอกลูกหลานว่าถ้าเมื่อไรที่ถูกกระทำไม่ใช่นิ่งยอมรับต้องพูดออกมา
ท้ายสุด คือ
คุณเคยถามตัวเองไหมว่าถ้าคุณเจอคนที่พฤติกรรมแย่ๆคุณยังจะสนับสนุนไหม
คุณจะไปดูหนังที่ Harvey
Weinstein เป็นโปรดิวเซอร์ไหม ดูซีรี่ส์ที่ Kevin Spacy แสดงหรือเปล่า พาลูกหลานไปดูหนัง Brett Ratber กำกับใช่ไหม
คุณต้องถามตัวเองว่าคิดว่าการไปโพส sexual
harassment ตามภาพผู้ชายหล่อ ผู้หญิงสวย
มันเป็นเรื่องไม่สมควรใช่หรือไม่ การที่คุณติดตามเพจแหล่งรวมคนทรามมันคือการส่งเสริมให้คนเหล่านั้นคิดว่า
การโพส คำว่า “แฮกๆ” ใส่ภาพผู้หญิง/เด็กหญิง เป็นเรื่องยอมรับได้
หรือผู้หญิงไปโพสใต้ภาพผู้ชายหล่อล่ำว่าอยากเอามาทำผัว น่ากิน เป็นเรื่องขำขันปกติ
เริ่มจากตัวเราเองค่อยขยายไปที่คนใกล้ตัว ครอบครัว
Equality & Respect to ALL.
ปล.บล็อกนี้เป็นความเห็นจากเราผู้ที่ไม่ได้เชี่ยวชาญเรื่องอะไรเลย ข้อมูลถ้าตรงไหนผิดคงต้องขออภัยไว้ล่วงหน้า ไม่มีอะไรทางวิชาการรองรับในความคิดด้วย