Sunday 19 February 2017

เด็กสาวผู้ร่วงหล่น โดย ข้าพเจ้า

สวัสดีสักวันในสัปดาห์ค่ะ ที่ต้องขึ้นอย่างนี้เพราะเราพิมพ์บล็อกนี้ไว้ก่อน ไม่รู้จะเสร็จเมื่อไร จะอัพเมื่อใด เคยคิดจะอัพวันวาเลนไทน์เป็นความรักแบบขมๆให้ได้อ่านกันแต่ไม่ทันก็เลยเอ้อระเหยลอยชายมาเรื่อย จนคิดว่าถ้าไม่เริ่มอาจจะไม่ได้เขียนแน่ๆ เราอยากแนะนำนิยายเรื่องนี้เพราะเป็นนิยายยูริ เลส หญิงรักหญิง ที่เป็น rare item หาได้ยากไม่ดาษดื่นแบบที่หาอ่านได้ตามบอร์ดอย่าง comeon เรียกว่าเป็นนิยายที่วัยเลข ๒ น่าจะเข้าใจและซึมซับไปกับนิยายได้ไม่ยาก อีกอย่างเราไปแนะนำให้หลายคนอ่าน หลายคนนี่นับมือเดียวก็ครบนะคะ ฮาฮา เรารู้จักคนที่อ่านนิยายยูริไม่กี่คนหรอกค่ะ แถมไม่มีวัยรุ่นเลยสักคนจึงไม่สามารถการันตีได้ว่า เด็กๆจะชอบ

น่าจะเป็นเพราะทาง สนพ.สะพาน บอกว่านิยายเรื่องนี้ไปยุให้คุณ ข้าพเจ้า เขียน เพราะดูหนังเรื่อง Truth About Jane แล้วชอบ หนังเรื่องนี้เราจำได้ว่าเราซื้อมากจากร้านลูกแมว ที่ MBK รู้จักกันไหม สมัยก่อนใครจะดูหนังนอกกระแสต้องไปที่นี่ เลือกหนังจากแฟ้มเขียนรหัสจ่ายเงิน หนังจะค่อยไปไรท์ส่งตามมา ร้านใหญ่มากแถมจัดว่าขายแพง ตอนนี้ร้านเจ๊งไปตามกาลเวลาเพราะคนมีอินเตอร์เนตหาโหลดเองได้ไม่ยากอะไร ร้านนี้ทำให้เราได้ดูหนังเลสเก่าๆเยอะมาก ทั้ง Better Than Chocolate, Amour de Femme, Fucking Åmål ฯลฯ แม้แต่หนังฝรั่งเศสดีๆเราก็ได้มาจากที่นี่ ส่วนเนื้อเรื่องของ Truth About Jane เราจำได้ไหมบอกเลยว่าจำรายละเอียดไม่ได้ จะไปหามาดูเพราะแผ่นก็น่าจะอยู่ในลิ้นชักไหนสักลิ้นชักก็ขี้เกียจแถมแผ่นก็ไม่น่าจะดูได้แล้วด้วยซ้ำ เราแค่จำได้ว่า Jane ค้นพบและยอมรับตัวเองว่าชอบผู้หญิงด้วยกัน แต่แม่เธอรับไม่ได้มาก อาจจะนึกไปถึง South of Nowhere ที่ตอนแรกแม่ Spencer รับไม่ได้ว่าลูกสาวชอบผู้หญิง แต่เมื่ออ่านจบความรู้สึกคือ.....

นิยายเรื่องนี้จัดว่าเป็นนิยายเพื่อชีวิต ชาวซ้ายจัดออกมาเขียนนิยายเพื่อก่นด่าสังคม เหมือนอย่างที่ บ.ก. สำนักพิมพ์พูดนิดๆนะคะสำหรับเรา บอกไว้ก่อนว่าเราชอบนิยายเรื่องนี้มากทีเดียว ทั้งภาษาและวิธีการเล่าเรื่อง ต้นเรื่องเปิดมาได้หม่นอ่านแล้วคิดว่า พบพร คือผู้ตื่นรู้ก้าวข้ามจากปัญหาที่ตัวเองประสบมาจึงมาช่วยเหลืออ้อน แต่พออ่านไปกลายเป็นว่าเธอนั้นมีปัญหามากกว่าอ้อนเสียอีก พบพรเป็นผู้หญิงที่โทษครอบครัว โทษสังคม แต่ลืมว่าปัญหาอยู่ที่ตัวเองนี่แหละ จริงอยู่เมื่อสมัยเด็กแม่กับพ่อทำให้เธอมีปัญหาด้วยวิธีการเลี้ยงลูกแบบโบราณ แต่เมื่อเธอหลุดพ้นมาพร้อมความช่วยเหลือจากน้ากีรติและรติมา เธอก็ไม่คิดทำอะไรให้ดีขึ้นเท่าไรยังจมกับความทุกข์ โรคซึมเศร้าอาจจะเป็นเพราะสารเคมีในสมอง แต่เมื่อเป็นแล้วคนต้องอยากหายและพยายามทำให้ตัวเองดีขึ้นด้วย เรื่องนี้ตัวละครที่เราชอบที่สุดคือ รติมา เธอเกิดมาเราว่าน่าสงสารกว่า พบพรเยอะเลยแต่เธอเลือกที่จะใช้ชีวิตไม่จมอยู่กับความบัดซบของครอบครัว รู้หลบเป็นปีกรู้หลีกเป็นหาง ถ้าเด็กวัยค้นหาตัวเองได้อ่านนิยายเรื่องนี้เราก็ได้แต่หวังว่าจะโตไปใช้ชีวิตแบบ รติมากันเยอะๆนะคะ ชีวิตวัยเด็กมันไม่ได้สวยงามกันทุกคนหรอก แต่ถ้าคุณยังต้องพึ่งครอบครัวหรือคนที่เลี้ยงดูอยู่ก็รอจนถึงวันที่คุณจะหาเลี้ยงตัวเองออกมาใช้ชีวิตอย่างที่คุณต้องการค่ะ

อ่านนิยายเพื่อให้รู้และให้ได้คิดค่ะ โตมาเป็นคนที่ดีอย่ามัวแต่โทษสังคม อยากให้สังคมเป็นแบบไหนจงทำให้ตัวเองเป็นแบบนั้นและสั่งสอนลูกหลานอย่างที่เราอยากให้เป็นค่ะ เราคงไปเปลี่ยนให้เป็นโลกที่เราต้องการไม่ได้ภายในช่วงอายุแต่มันต้องดีขึ้นค่ะ แม้จะไม่ทั้งหมดแค่รอบตัวก็ยังดี

อยากได้นิยาย coming out of age สำหรับวัยทีนดีๆ ของไทยที่ใกล้เคียงนี่น่าจะเป็น Girlfriend ของ ปณ.วิริยะ แต่เรายังไม่ชอบการใช้ภาษาเขา (เราไม่ชอบแต่คนอื่นชอบนะคะ) หรือจะเป็น US ของเจ้าปลาน้อย ก็ออกแนวใสๆกลิ่นเกาหลีไป


จบไปง่ายๆอย่างนี้แหละค่ะ มีวันอาทิตย์ที่สดใสนะคะ ใครอยากอ่านอะไรเบาๆแนะนำ Sweet Island ของ บินละเว ค่ะ 

Wednesday 8 February 2017

ชวนดู Kazoku No Katachi เมื่อความโสดเลือกได้ไม่ใช่สิ่งที่น่าสงสารหรือต้องกลัว

It’s a hump day. วันพุธเป็นวันกึ่งกลางสัปดาห์ที่เราว่าทุกคนไม่ชอบนะทำงานมาตั้ง 2 วันแล้วและอีกตั้ง 2 วันกว่าจะถึงวันหยุด วันนี้เราอยากเขียนบล็อกไม่ได้เขียนมาสักเดือนได้มั้ง ส่วนจะเรียกว่าว่างไหมก็พูดไม่ได้เต็มปากว่าว่างเอาเป็นว่าเราอยากเขียนเลยเขียนด้วยสภาพที่ไม่ได้ทำงานแบบที่ต้องคอยระวังให้เจ้านายไล่ออกก็อู้มาเขียนได้ ที่ไม่ได้เขียนเพราะขี้เกียจเองมากกว่า แม้กระทั่งเขียนไปบ้างแล้วเขียนไม่จบปล่อยค้างเติ่งไว้ นิสัยไม่ดี หุหุ แถมคิดว่าบล็อกนี้น่าจะเขียนยาว พร่ำยาว และเรื่องที่เขียนก็น่าจะยาว บวกกับมีอะไรเล็กๆน้อยๆจะมาใส่ๆรวมในบล็อกนี้ด้วย ก็เตือนไปงั้นแหละเพราะที่เขียนบล็อกนี่ไว้สนองตัณหาตัวเองล้วนๆค่ะ

วันนี้จะชวนดูซีรี่ส์ญี่ปุ่นอย่างที่รู้เรานั้นเป็นแฟนอะไรญี่ปุ่นมากกว่า ซีรี่ส์ หนัง ดารา และอาหาร ส่วนเพลงก็แค่บางเพลง และที่บ้านไม่มีใครคุยด้วยเท่าไรลูกพี่ลูกน้องที่รุ่นเดียวกันตอนคนที่บ้า J Rock ชอบโยชิกินั้นมันไม่ค่อยดูซีรี่ส์ ส่วนเราก็ไม่ฟังเพลงเหมือนมันด้วย ส่วนบรรดาลูกพี่ลูกน้องรุ่นเล็กที่มี 2 คนที่ไทยก็สาวกเกาหลีเข้าขั้น จะชวนมันดูเรื่องที่เราชอบมันก็คงไม่อิน

ชวนดูเรื่อง “Kazoku No Katachi” ว่าด้วยเรื่องความโสด เลือกที่จะโสด ตั้งใจโสด การแต่งงานมีครอบครัวอาจจะไม่ใช่คำตอบ อยู่คนเดียวตอนแก่ก็อาจจะไม่ใช่เรื่องน่ากลัว หรือเปล่า?


เนื้อเรื่อง ชายโสดวัย 39 ปี อย่าง ไดสุเกะ มีหน้าที่การงานที่ดีและก้าวหน้าในบริษัทเครื่องเขียนชั้นนำ เขามีโลกส่วนตัวสูงมากถ้าไม่ได้รับอนุญาตจะไม่สามารถเข้ามาในพื้นที่ของได้ เขาเพิ่งซื้ออพาร์ทเม้นจัดแต่งแบบที่เขาชอบ ไปออกกำลังกาย ดื่มเบียร์นำเข้าที่ชอบ วันหยุดก็ไปปั่นจักรยาน ใช้ชีวิตเต็มที่ และทั้งนี้ทั้งนั้นเขาเลือกที่จะโสด ไดสุเกะมีความสุขในปราสาทที่เขาสร้างขึ้นมาจากน้ำพักน้ำแรงตัวเอง แต่ก็ไม่นานพ่อของเขาก็มาทำลายความสุขไปแทบสิ้น อยู่ๆก็พาลูกเลี้ยงวัยมัธยมมาขอพักกับไดสุเกะ

ถ้าใครจะอยากดูแบบไม่สปอยล์ให้กดปิดหลังจบพารากราฟนี้นะคะ ส่วนถ้าคนยังชั่งใจว่าจะดูไหม ก็จะบอกว่านักแสดงน่าสนใจมากค่ะ มี ชินโง วง SMAP แสดงเป็นไดสุเกะ ส่วนนางเอกได้ จูริ อุเอโนะ แสดง ถ้าใครจำเธอไม่ได้เธอคือนักแสดงเป็นเลสในเรื่อง Last Friend ค่ะน่าดูขึ้นบ้างหรือยังคะ


ซีรี่ส์เรื่องนี้ทำให้หลายคนเข้าใจว่าการโสดอย่างเป็นสุข โสดอย่างสบายไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้นะคะแต่ต้องวางแผนอย่างดี อย่างนางเอก ฮานาโกะ เธอก็วางแผนที่จะอยู่คนเดียวหลังจากหย่าเพราะมีปัญหาในชีวิตคู่ การเลือกที่จะโสดไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอีกต่อไป ผู้หญิงไม่จำเป็นต้องมีเรื่องฝังหัวตั้งแต่เด็กเล็กว่าชีวิตนี้ต้องแต่งงานไม่งั้นจะเป็นลูซเซอร์เป็นผู้หญิงที่ไม่มีใครเอา ตอนนี้เราเห็นคนแต่งงานแล้วไม่ประสบความสำเร็จมากมายต่อให้ตอนแต่งคนข้างนอกมองเข้าว่า เฮ้ย คู่นี้โคตรเหมาะสม Golden Couple ล่าสุดคุณหมิว ลลิตาก็เพิ่งเลิกกับสามี ฉะนั้นเราไม่เชื่อเรื่องว่าแต่งงานจะมีคนอยู่ดูแลกันไปจนแก่เฒ่า แถมพวกที่แต่งงานอาจจะไม่ได้วางแผนว่าถ้าเลิกกันมาจะใช้ชีวิตคนเดียวอย่างไร เงินเก็บไม่พอยิ่งเป็นผู้หญิงที่ออกจากงานเพื่อมาทำหน้าที่แม่ด้วยแล้ว  กลับมาเรื่องซีรี่ส์กันต่อเรื่องนี้เรียกน้ำตาได้ตามสไตล์ญี่ปุ่น มีปมทั้งไดสุเกะและฮานาโกะ แถมยังมีความขำของเพื่อนร่วมงานไดสุเกะผู้ที่เหวี่ยงหว่านแหไปนัดบอด หรือเสียเงินไปงานดูตัวเพราะอยากมีแฟนตัวสั่นแล้วก็ถูกหลอกเงิน หรือความน่าสงสารที่ไดสุเกะถูกลุกล้ำความเป็นส่วนตัวจากพ่อ คราวนี้ถึงตอนจบเป็นสิ่งที่เราไม่ค่อยชอบอะนะคือเราว่าในเมื่อปูเรื่องมาขนาดนี้ก็ไม่น่าจะให้พระเอกนางเอกแต่งงานกัน แม้จะแต่งแบบจ่างคนยังมีพื้นที่ส่วนตัวเยอะอยู่ก็ตาม เราอยากให้จบแบบเป็น companion มากกว่าอยู่ดูแลกันไปไม่ต้องมีใบทะเบียนสมรสผูกมัด ถ้าใครอ่านถึงตรงนี้แล้วยังไม่ได้ดูแนะนำว่าลองไปหาดูค่ะ มีซับไทยนะคะ ถ้าจำไม่ผิดมีที่ DRAMAJO รู้สึกคุณ Pondloso เป็นคนทำซับ สมัครสมาชิกแล้วก็ทำตามกฎโหลดมาดูไม่ยากค่ะ ดูแล้วจะหลังรักฮานาโกะ หรืออยากหาข้อมูลที่ละเอียดพร้อมรูปภาพ google ค่ะ มีคนเขียนกระทู้กับบล็อกอยู่

จบแล้วเรื่องซีรี่ส์คราวนี้มาเรื่องจับฉ่ายกันบ้าง มีนิยายมาแนะนำค่ะ เรื่อง “เด็กสาวผู้ร่วงหล่น” เขียนโดย ข้าพเจ้า อยากให้ลองอ่านกันค่ะเรื่องอาจจะหม่นทำให้ดาวน์แต่ดี นี่ยังอ่านไม่จบนะคะ อ่านไปสักไม่กี่บท รอวันหยุดเสาร์-อาทิตย์นี้ก่อน อ่านจบถ้าไม่ขี้เกียจเกินไปจะมาแชร์ความเห็นค่ะ อีกเรื่องชวนดูรายการ ก(ล)างเมือง ตอนห้องเรียนเพศวิถี
ผู้หญิง 2 คนที่เป็นเรื่องราวของรายการ หนี่งในนั้นคือคนเขียนนิยายเรื่อง รักใคร่...ใคร่ครวญ นิยายที่จัดว่าเป็นนิยายดีอีกเรื่องของวงการยูริ โดยส่วนตัวเราบังเอิญได้ดูเมื่อวานตอนนั่งกินข้าวกลางวัน ดูแล้วเห็นว่าเป็นรายการที่ดีแต่ก็มีบางเรื่องที่เราไม่เห็นด้วย เช่นเรื่องฟุตบอล สำหรับเรามันไม่ใช่พื้นที่ของผู้ชายนะ แต่มันเป็นกีฬาที่ไม่เห็นสนุกถ้าจะไปเล่นเองแต่ถ้าดูเป็นอีกเรื่อง หรือเรื่องตั้งแต่เปิดเรื่องเลยการจัดที่จอดรถหรือรถไฟตู้สำหรับผู้หญิงเราว่าแม้จะมีความเคารพในสิทธิ์ซึ่งกันและกัน แต่มีพื้นที่อำนวยความสะดวกให้ผู้หญิงบ้างก็ไม่แปลกยิ่งชั่วโมงเร่งด่วนสภาพคนแน่นเป็นปลากระป๋องเบียดเสียดกัน มีกลิ่นเหงื่อไหลไคลย้อยของผู้ชายโชยออกมา ต้องไปแย่งกันจับราว ด้วยที่เพศหญิงรูปร่างอาจจะเสียเปรียบผู้ชายเวลาไปเบียดเสียดอะไรมันก็ลำบาก ส่วน Lady Parking เราชอบนะคุณบอกว่าเพราะคนเราไม่เคารพสิทธิ์กันมันไม่ใช่อภิสิทธิ์ของผู้หญิงแต่มันคือความอุ่นใจขึ้นมานิดหน่อย เวลาจอดเข้าซองอาจจะช้าไปบ้างยึกๆยือๆถอยเข้าถอยออก หรือเดินกลับมาจากshopingก็ไม่ต้องระแวงมากนัก ใครจะบอกถ้าเคารพสิทธิ์กันความปลอดภัยก็จะมี ถามจริงมีประเทศไหนปลอดภัย 100% บ้าง ประเทศที่ crime low rate ในสแกนดิเนเวียก็เถอะ มันก็ไม่ปลอดภัยแน่นอน ที่ชอบที่สุดคือเรื่องแนวคิดชายเนใหญ๋ที่ฝังหัวมาตั้งแต่เกิดเป็นสิ่งที่ต้องปรับเปลี่ยน โดยหวังว่าคุณแม่รุ่นใหม่คงสอนทัศนะดีๆให้ลูกๆของเธอ  ส่วนอื่นก็ลองไปดูกันค่ะ เราชอบนะที่ ThaiPBS ทำรายการสนใจเพศวิถีที่มี ญ รัก ญ เป็นต้นเรื่องบ้าง ตอนนี้ทุกคนมุ่งไปยัง กระเทย หรือ ช รัก ช มากกว่า แต่อีกเรื่องด้วยที่คนทำกิจกรรมเป็น LGBT อาจจะทำให้สังคมต่างจังหวัดยิ่งเป็นพื้นที่มุสลิมอย่าง 3 จังหวัดชายแดนคนอาจจะมี bias ได้ เราเริ่มเข้าใจที่นักทำกิจกรรมเรื่องความเท่าเทียมทำไมจึงอยากให้เป็น straight มากกว่า ในแง่เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชนทั่วไป



สุดท้ายช่วงนี้ติดเพลงนี้ Moving on and getting over.



จบบล็อกไปแล้วค่ะ บล็อกหน้าถ้าไม่ขี้เกียจจะเขียนเร็วๆนี้ค่ะ