Sunday 26 June 2016

My Boring Weekend



สวัสดีเย็นๆวันอาทิตย์ ขณะนี้วันอาทิตย์แต่บล็อกนี้จะเขียนจบเมื่อไรจะได้อัพวันนี้ไหมก็ไม่รู้เหมือนกันนะคะ ช่วงที่ผ่านมานี้มีเรื่องที่น่าสนใจเกิดขึ้นเยอะมาก ซึ่งทุกคนคงติดตามกันได้ทั่วไป ตั้งแต่เกิดเหตุร้ายติดๆกันที่เมืองออแลนโด้ เมืองนี้เป็นเมืองที่เราไม่รู้อะไรมากนอกจากเป็นเมืองที่มีทีมบาสเก็ตบอล ออแลนโด้แมจิก สมัยมัธยมมีดาวดังคือ ชาคิล โอนีล กับ แอนเฟอนี่ ฮาร์ดอะเวย์ ว่าแต่ตอนนี้ทีมบาสนี้ยังมีอยู่ไหมนะ 

ข่าวดังทั่วโลกล่าสุดคือ #BrExit หรือการลงประชามติว่าจะให้สหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรปหรือไม่ ในไทยก็ต้องเป็นอองซานซูคยีมาประเทศไทย ว่าแต่นายกรัฐมนตรีของพม่าชื่ออะไรนะ ฮาฮาฮา ถ้าเป็นสมัยมัธยมเราจะเดาว่าชื่อนายกรัฐมนตรีโลกจำชื่อไม่ได้ต้องออกในข้อสอบสังคมศึกษาแน่ๆ
เรื่องเยอะแยะที่น่าสนใจแต่เรารู้สึกว่าทุกคนคงหาข้อมูลอ่านกันตามสบายกันอยู่แล้ว อ่านฝ่ายที่ตัวเองชอบก็อย่าลืมเหลือบไปมองฝ่ายที่ไม่ชอบด้วยนะคะ จะได้เอามาบาลานซ์กัน (นี่ก็พูดดีไปอย่างนั้น หุหุ) 

ส่วนวันนี้เราขอพูดเรื่องซีรี่ย์ญี่ปุ่น (อีกแล้ว) ก็นะตอนนี้ไทยมีแต่ซีรี่ย์เกาหลีฮอตฮิต ไม่ได้แอนตี้นะแต่เราชอบดูของญี่ปุ่นมากกว่าเราเลยจะมาแนะนำเผื่อหาแนวร่วมได้
ที่เราเลือกใช้สีนี้ในการเขียนentryนี้เพราะตอนแรกตั้งใจจะแนะนำเรื่องเดียว คือ เรื่อง Higanbana (Whispers from a Crime Scene) ทำไมถึงต้องสีนี้เพราะดอกฮิกันบานะในภาษาไทยคือพลับพลึงแมงมุมแดง ดอกไม้ชนิดนี้จะมีพิษอยู่ที่หัวก็เปรียบเสมือนผู้หญิงที่สวยงามแต่ก็มีพิษร้ายซ่อนอยู่  เรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับหน่วยหนึ่งในกรมตำรวจญี่ปุ่น โดยมีชื่อว่า หน่วยฮิกันบานะ หน่วยนี้จะมีแต่ผู้หญิงไล่มาตั้งแต่หัวหน้ามาจนนักสืบ สิ่งที่หน่วยนี้มีความพิเศษคือนักสืบคนหนึ่งมีความสามารถได้ยินเสียงนึกคิดจากคนรอบข้าง และถ้าอยู่ในที่เกิดเหตุเธอจะรับรู้ความรู้สึกของผู้ถูกทำร้ายหรือฆาตรกรได้ นักแสดงที่รับบทนางิสะ ผู้มีพลังพิเศษคือ Maki Horikita ถ้าใครเป็นแฟนซีรี่ย์ญี่ปุ่นไทยพีบีเอสคงจำคุณหมออุเมะได้ ใครอยากดูมีให้ดูที่แฟนเพจ Aiolos Fansub https://www.facebook.com/AiolosFansub/
หรือไม่ก็ http://dramajo.com/index.php?topic=256.0 ตอนนี้มีอัพแล้ว 8 ตอนด้วยกันอีกแค่ 2 ตอนก็จบแล้ว


ส่วนอีกเรื่องคือเรื่อง Doctor X เรื่องนี้เก่าแล้วมี 3 ซีซั่นแล้ว โดยส่วนตัวซีซั่นแรกสนุกสุดแต่นางเอกสวยขึ้นทุกซีซั่น ใครชอบสาว สว แนะนำค่ะ เรานี่แฟนสาวซีรี่ย์ญี่ปุ่นวัย เลข 4 ฮาฮาฮา แล้วชอบพวกตัวละครหมอๆเป็นพิเศษ หมอเรื่องนี้เก่งเวอร์ ขัดใจตอนหมอผ่าตัดแล้วต้องถลึงตาอย่างเดียวค่ะ ใครสนใจ google เลยค่ะ ซีซั่นแรกมีแบบพากย์ไทย ส่วนอีก 2 ปี มีแต่ซับไทย ดูแล้วไม่กรี๊ดคุณหมอไดมอนแนะนำให้ไปดูใหม่ค่ะ ดูไปก็จิ้นไปกับคุณหมอดมยาก็ได้อยู่นะ   หุหุ



เราเอาลิ้งก์จากyoutube มาแปะให้ดูนะคะ แต่อาจจะโดนลบได้ตลอดถ้าใครจะดูแนะนำว่า google ค่ะ มีพากย์ไทยและซับไทยให้เลือก

http://www.series24hr.com/Doctor-X-Season-1/
ลาไปแล้วค่ะ ถ้ามีโอกาสได้ดูแล้วชอบก็อย่าลืมแวะมาบอกกันบ้างนะคะ

Sunday 12 June 2016

รอรักเธอ Pam's Story : You Don't Know Me




วันนี้วันอาทิตย์นั่งดูวอลเลย์บอลหญิงไทยแข่งกับทีมเยอรมนีไป เขียนบล็อกไปจริงๆคิดอยู่ว่าจะเขียนถึงนิยายเล่มนี้ของคิลินดีไหม ไม่ใช่จะไม่อยากเขียนนะคะ คิดว่าจะรอตอนอีกเล่มของ Series นี้ออกมาก่อน แล้วจะเขียนถึงพร้อมกันทีเดียวดีกว่า แต่เรากลัวจะรอนานเดี๋ยวการเขียนมันจะไม่สดใหม่ในความคิดเรา
สำหรับเล่มนี้ขอพูดโดยรวมๆคือ การเขียนของคิลินจะไม่เหมือนเล่มอื่น อาจจะมีตัดฉุบฉับปัจจุบันอดีต ในตอนแรกอาจจะมีคนอ่านแล้วงง แต่บอกได้เลยว่าอ่านเถอะค่ะ มันมีเหตุและผลของการเขียนแบบนี้ เป็นสไตล์การเขียนของนักเขียน ถ้าจะคิดว่านักเขียนต้องเขียนแบบเดิมตลอดเพราะคนอ่านติดกับการเขียนอย่างเก่าก็คงบอกได้เพียงว่าเล่มนี้คงไม่ใช่แนวของคุณค่ะ เพื่อการตัดสินใจแนะนำว่าโหลดตัวอย่างมาอ่านค่ะจะได้สะระตะถูกว่าเสียเงินดีไหม อ้อประเด็นใหญ่ใครชอบ NC เยอะๆ เราบอกเลยว่าไม่มีค่ะ

เรื่องย่อ

"อะไรนะ ! ให้พูดถึงแพทริเชียหรือ...?
ไม่ล่ะ ฉันอธิบายไม่เก่ง ฉันไม่ค่อยเข้าใจความรู้สึกพวกนี้

อ้อ คุณอนุญาตให้ฉันเปรียบเปรยได้?...งั้นขอคิดก่อนได้ไหม
.
..
เอ่อ...อบอุ่นเหมือนหมี ร่าเริงเหมือนคนบ้า ยียวนเหมือนคู่กัด
กวนประสาทเหมือนรถแท็กซี่
...
....
คุณไม่เข้าใจ? ฉันบอกแล้วไงว่าฉันอธิบายไม่เก่ง เราไม่พูดเรื่องนี้กันเลยก็ได้นะ
.....
......
ใช่ ฉันวกวนและไม่ละเอียดสักเท่าไหร่ คุณบอกได้เลยใช่ไหมล่ะ
โอ้ นั่นก็ใช่ ฉันไม่ค่อยจะยอมรับความรู้สึกตัวเอง
แล้วก็ออกจะขี้ขลาดเอามากๆเลยด้วย
......
........
ให้ฉันเล่าไปเรื่อยๆ หรือ...จะดีหรือ?
...คุณจะจับต้นชนปลายเองได้ใช่ไหม

.....................// แพม //.......................
อย่างที่นักเขียนบอก “...คุณจะจับต้นชนปลายเองได้ใช่ไหม” ส่วนเรื่องย่อแบบโคตรย่อจากเราคือ เรื่องความรักของเพื่อนสนิทที่ไม่รู้จะไปทางไหน รักแบบเพื่อนคืออยู่ได้นาน แต่ถ้าเปลี่ยนไปรักแบบคนรักล่ะ  ต่อไปจะมีการเปิดเผยเนื้อหาของนิยายนะคะ ใครยังไม่ได้อ่านฉบับเต็มก็แนะนำว่าปิดไปตรงนี้  หรือจะฟังเพลงก่อนก็ได้ โดยเนื้อเพลงมิได้เกี่ยวกับเนื้อหาใดๆของนิยายเรื่องนี้ทั้งสิ้น แค่เราชอบ 





ขณะนี้ดูวอลเลย์บอลหญิงบอลแรกไทยไม่ดีเลย ตามสาวเยอรมันแบบห่าง แม้นักวอลเลย์เยอรมันจะสวยก็ไม่สามารถทำให้เราหยุดแช่งพวกเธอได้ 555 เบอร์ 11 สวยมากนะ
Louisa Lippmann




เรื่องนี้จะมีตัวดำเนินเรื่องเด่นอยู่ 2 คน คือแพมกับแพท ก็แน่ล่ะมันเรื่องของสองสาวนี้นี่ และสิ่งที่ตัวละครทุกตัวในนิยายมีเหมือนกันมันคือความ pathetic ทุกตัวละครมีปมเพียงแต่จะเลือกแสดงออกมาต่างกันไป คนเดียวที่เราไม่เจอปมหลังจากการอ่านคือ มิสซิสพอตต์  บรรดานักเรียนแลกเปลี่ยนตัวประกอบแสดงถึงความเป็นคนต่างชาติที่ไปอาศัยประเทศอื่นอยู่ต้องต่อสู้กับการเรียน การยอมรับ ต้องแสดงว่าตัวเองเจ๋ง ตัวเองดี แถมยังต้องไม่แสดงความอ่อนแอให้คนอื่นเห็นเพราะกลัวว่าพอคนอื่นรู้แล้วจะกลับมาโจมตีทุกเมื่อ อย่างที่คิลินเขียนนั่นแหละมีเต็มไปด้วย EGO โง่ๆเต็มไปหมด แล้วทำไมมันถึงเต็มไปด้วย EGO พวกนั้นล่ะ ก็เพราะพวกนี้คือเด็กหัวกะทิที่แก่งแย่งแข่งขันสอบมา มันไม่เหมือนเด็กที่พ่อแม่มีกำลังจะส่งไปเอง ซึ่งพวกนั้นก็จะไปแข่งกันเรื่องอื่น เช่น แข่งกันใช้เงินเป็นต้น ส่วนคนอื่นๆ พ่อก็มีเรื่องที่ลูกสาวอย่างแพทไม่ยอมรับ เซนก็เรื่องพ่อให้ความสำคัญกับพี่สาวมากกว่าตัวเอง เจนก็เรื่องตั้งหน้าตั้งตาหาสามีเพื่อแต่งงาน อาจจะรวมถึงเบบี๋ทองของเธอด้วย แพทก็มีเรื่อง พ่อ ครอบครัว เรื่องแม่ที่ตายไปและราโมน่า ส่วนแพมประเด็นใหญ่สุดก็คงเรื่องพ่อแม่ที่เสียชีวิตไปกับเรื่องของแพทที่เธอไม่กล้าจะเสี่ยงบอกแพทไปตรงๆว่าเธอรู้สึกอย่าไร ส่วนเรื่องญาติเธอตัดปัญหาได้ตั้งแต่ย้ายออกมาอยู่เอง  แต่ด้วยปมเหล่านี้มันทำให้นิยายออกมาแตกต่างจากยูริอื่นๆที่มีให้อ่านทั่วไป หลายๆคนอาจจะชอบนิยายที่ตัวละคร perfect ชีวิตนี้อะไรจะขนาดนั้นคะ สวย รวย ครอบครัวรับได้ ไม่มีปัญหาอะไรเลยในชีวิต  อย่าเพิ่งคิดว่าเราอคติกับนิยายแบบนั้นเราอ่านนะคะ อ่านเยอะด้วย สิ่งเดียวที่จะทำให้เราไม่อ่านก็คือภาษาค่ะบอกเลย
แล้วนิยายเรื่องนี้สนุกยังไงล่ะ สำหรับเราคือการที่เราได้คิดตามความคิดของแพม รักความกวนตีนของแพท แม้อาจจะมีการหงุดหงิดใจกับนิสัยของแพมเรื่องของแฟนๆ เพราะสำหรับเราคือไม่ใช่ก็ไม่ต้องมี ทำไมต้องโลเลกับอีพี่ต้าคือนิสัยออกจะรู้เช่นเห็นชาติกันดีว่าต้ามีใครอีกคนที่เป็นของตายมาตลอด จะคบไว้เพื่อ sex ก็ไม่น่าใช่นะ  อีกตัวละครที่น่าหงุดหงิดสำหรับเราคือเจนค่ะ เป็นเพื่อนที่อะไรเนี่ยยุ่งไปซะทุกเรื่อง แต่ก็นะยังมีความดีตอนท้ายเรื่องอยู่บ้าง

ท้ายนี้ไม่รู้ว่าเขียนถึง Pam’s Story จะเป็นการทำให้นักอ่านเลือกที่จะไม่อ่านแทนที่จะอ่านรึเปล่า ฮาฮาฮา

ป.ล. การเขียนนิยายสะท้อนนักเขียนคือมันต้องมีมุมตัวตนอะไรบางอย่างของนักเขียนใส่มาบ้างนิดๆหน่อยๆ  ว่าแต่คุณว่ามีอะไรมาจากคิลินบ้างล่ะ ;-)

Tuesday 7 June 2016

Rustic & Blue - Handgrown Produce & Artisan Food



สวัสดีค่ะ หายหน้าไปสักเดือนได้มั้งกับบล็อกล่าสุด จริงๆมีเรื่องน่าสนใจมากมายที่จะหยิบยกมาพูดถึง แต่ไม่ค่ะเราขี้เกียจ จึงขอยกเรื่องล่าสุดที่เราอยากแบ่งปันมาเขียนถึงดีกว่า นั่นก็คือร้านชาและขนมที่เราไปเจอดื่มแล้วชอบค่ะ 
 
เชียงใหม่เขาว่าเป็นเมืองแห่งร้านกาแฟคือขยำทิชชู่ปาไปตรงไหนสักที่เราจะต้องเจอร้านกาแฟ เราไม่เถียงว่าร้านกาแฟเชียงใหม่มีดีเยอะจริง ดีจนกลับมาบ้านแล้วกำลังคิดว่าทำไมแถวบ้านเราไม่มีบ้างนะ ข้อมูลร้านกาแฟคงมีคนกล่าวถึงเยอะแล้ว เราขอมาพูดถึงร้านที่ขายชาบ้างดีกว่า ส่วนตัวนั้นเราชอบดื่มทั้งชาและกาแฟ ชอบมากกว่าพวกแอลกอฮอลด้วยซ้ำ
โดยส่วนตัวเราไม่ได้รู้จักร้านที่เชียงใหม่ แค่ทำการรีเสริชก่อนไป อาจจะมีร้านชาดีๆอีกหลายร้านก็ได้ค่ะ แต่ถือว่าเราชอบร้านนี้ แถมอยู่ในนิมมานที่นักท่องเที่ยวเยอะ แล้วเวลาคนไปเชียงใหม่ก็มักจะไปแถบนั้นอยู่แล้ว ถ้าไปแบบไม่รู้จะนั่งร้านไหนก็ลองร้านนี้ดูได้

Rustic&Blue ค่อนข้างดังกับนักท่องเที่ยวต่างชาติพอควร เพราะร้านมีที่นั่งในสวนเก๋ทีเดียว ซึ่งหาได้ยากในย่านนี้ โดยส่วนตัวแนะนำว่าถ้าอยากนั่งในสวนมาเช้าๆไม่ก็ช่วงหน้าหนาวจะดีกว่า ไม่งั้นอากาศร้อนกับยุงจะทำลายอรรถรสการจิบชาและขนมไปซะฉิบ
ร้านนี้เปิดตั้งแต่ 08.28 – 21.58 ตามป้ายหน้าร้าน เท่าที่อ่านเจอคือเปิดทุกวัน แต่ก่อนไปแนะนำลองเข้าไปสอบถามที่ทางเพจของร้านดีกว่า

อาหารและขนมอร่อยมาก ใครสายถ่ายรูปเรามั่นใจว่าจะเพลินกับสีสันบนจานอาหารขนาดเราไม่ใช่คนถ่ายรูปสวย คือมีกล้องก็แค่กดๆไปเรายังว่าสวยเลย เราไปเชียงใหม่คราวนี้ ไม่ได้ซ้ำร้านไหนเลย แต่เราไปRustic&Blue มื้อแรกและมื้อ(ตอนแรกคิดว่าเป็นที่)สุดท้ายก่อนไปขึ้นเครื่อง อ้อมีไปจิบชากับขนมตอนกลางคืนอีก ไปมา 3 ครั้ง ซื้อชากลับมาบ้านด้วย ตอนแรกก็เล็งๆว่าจะซื้อแยมโฮมเมดด้วยแต่เป็นขวดแก้วกลัวแตก

คำเตือน รูปเยอะนะคะ
อาหารที่ชอบมาก Warm Brie Salad ผักอร่อยมากมีความกรุบกรอบของกราโนล่า ถั่วต่างๆ แล้วก็น้ำสลัดอร่อย แถมสีสวยมาก



ขนมนี่น่าจะเป็น Mille-feuille อะไรสักอย่าง อร่อยเหมาะกับกินคู่กับชาร้อนๆหอม


อันนี้น่าจะเป็นเลมอนชีสเค้ก อร่อยเปรี้ยวตัดความเลี่ยนของชีส เหมาะกับชาอีกนั่นแหละ



ไอศกรีมโฮมเมดเราขอแนะนำรส ฮันนี่-ลาเวนเดอร์ อร่อยสุดๆ กลิ่นรสน้ำผึ้งชัดเจนมากๆ



ส่วนรสนี้เราไม่ชอบกลิ่นงาดำแรงไปมาก aftertaste กลิ่นงาแรงเหมือนดินสำหรับเรา


อาหารเช้าก็อร่อย Awesome French Toast อร่อยแต่เยอะไปกินคนเดียวไม่หมด ที่ชอบที่สุดคือเป็นองุ่นแบบไม่มีเมล็ด ส่วนเสาวรสเราไม่กินแบบลูกๆอะค่ะเลยไม่ได้กิน




อันนี้เราไม่แน่ใจว่าอะไร



ชาเราดื่มมา 2 รสที่ร้าน แล้วก็ซื้อกลับบ้าน 2 ห่อ
วันแรกดื่ม Hazelnut Yerba Mate หอมมาก


อีกวันดื่ม Rooibos Vanilla หอมอีกเช่นกัน


ใครตัดสินใจไม่ได้ ไปดมกลิ่นชาก่อนได้นะคะ




เราชอบร้านที่สูงโปร่งนั่งแล้วไม่อึดอัด อ้อใครไปร้านหลัง 5 โมงเย็นซื้อขนมกลับบ้านลดราคาด้วยนะคะ น่าจะเฉพาะ จ-ศ เราซื้อครัวซองมา 1 ชิ้นกินเช้าวันรุ่งขึ้นแบบไม่ได้อุ่นยังประทับใจเลยค่ะ นี่ถ้าได้อุ่นร้อนๆกินกับแยมสตรอเบอร์รี่คงมีกรีดร้อง(ใช้คำพูดโอเวอร์ไป)





กาแฟที่ Rustic ก็มีนะคะแต่เราว่ายังไม่ใช่ หรือไม่ก็เพราะเราสั่งที่ไม่ถูกปากมาด้วยก็ได้ คนสั่งอยากลอง Pumpkin Spice Latte ลองแล้วก็บอกว่าคงครั้งเดียว ส่วนวันสุดท้าย เราอยากลอง Espresso Chai กับ คาปูชิโน่ เขาโรยซิมนาม่อนมาเลย คนดื่มไม่ชอบ แต่นะสั่งแล้วต้องรับผิดชอบ




ใครจะไป นิมมานซอย 7 เข้าจากปากซอยฝั่งนิมมานมาประมาณ 100 เมตร อยู่ตรงข้ามชาลีน่าเพลสเลย ใครสนใจดูรูปเพิ่มเติมไปเพจของร้านเลยค่ะ ยิ่งรูปในสวนเห็นแล้วเหมือนไม่ใช่นิมมาน
ไปนั่งอ่านนิยายก็ได้นะคะ ตอนนี้นิยายยูริออกใหม่หลายเล่มเชียว สาวกคุณคิลินอย่าลืมไปอุดหนุนกันล่ะ

เรื่องอย่างนี้อะเขียนยาวเชียว