Wednesday 28 March 2012

เพลงที่ฟังไม่ออกแต่ชอบ

มีเพลงที่ชอบร้องได้ แต่ฟังไม่ออกันไหมคะ อารมณ์เหมือนเพลงประกอบซีรี่ย์ญี่ปุ่นแหละค่ะ แต่เพลงเหล่านี้ที่ชอบก็มาจากหลายๆเหตุผลที่ฟังแล้วคลิ๊ก โดยไม่สามารถบรรยายเหตุผลให้คนอื่นเข้าใจได้ว่าทำไมถึงชอบ


1.Pour Que Tu M'aimes Encore
ถึงจะใช้เวลา 3 ปีกับการเรียนภาษาฝรั่งเศส แต่มันไม่เข้ามาอยู่ในหัวเลยด้วยซ้ำ ทุกๆเทอมหมดเวลากับการไปซ่อมฝรั่งเศสมากกว่า เพลงนี้ชอบเพราะน้าเป็นนักเรียนเก่าสวิส เอาเพลงนี้มาเปิด ไม่เข้าใจแต่ชอบมากๆ ตอนนั้นมีทั้ง Celine Dion ทั้ง Patricia Kaas แต่ชอบเพลงนี้ที่สุด






2.เพลง  The Moon Represent My Heart 
เพลงนี้ถ้าใครเคยไปเรียนภาษาจีนคงมีเหล่าซือเอามาสอนกันบ้าง เพลงนี้ชอบเพราะเพื่อนคนไต้หวันเอามาเปิดให้ฟังค่ะ เสียงเติ้งลี่จวิน นุ่มนวลสุดๆ




3.เพลง Mon Mec a Moi
เพลงนี้ขณะนี้ก็ยังไม่เคยไปอ่านแปลเป็นภาษาอังกฤษ แต่ชอบมากๆ เป็นเพลงแรกที่ชอบ Patricia รู้แค่ชื่อเพลงแปลว่า That guy of mine




ลากันไปง่ายๆอย่างนี้แหละค่ะวันนี้มีเรื่องเครียดแต่อยากเขียนบล๊อกแก้บ้า

Tuesday 27 March 2012

เพลงไทยใน Ipod 1

วันนี้ส่งเพลงไปให้คนรู้จักที่อายุมากกว่า 3 ปี พี่เขาอยู่ต่างประเทศเกิดอยากฟังเพลงไทยสมัยพี่เขาอยู่มัธยม เลย นั่งคิดหาเพลงไปด้วยเมื่อคืนทำให้นอนดึกเลยกว่าจะได้นอน เกือบตี2 นั่งไล่หาเพลงใน itunes ด้วย หาในคอมเครื่องเก่าด้วย พี่คนนี้เป็นอะไรที่โลว์เทคมากๆ กว่าจะคะยั้นคะยอให้ใช้ ipod ได้ และกว่าจะสอนพี่แกใช้เป็น ดีนะที่ไม่คิดจะดูหนังใน ipod ไม่งั้นกว่าจะสอนคอนเวิร์ทไฟล์ แค่คิดก็เหนื่อย ก็เลยได้เพลงสมัยยุคอินดี้เฟื่องฟูมาฟังหลายเพลง สมัยนั้นก็ต้อง Boyd แต่คนคงพูดถึงเยอะแล้วเราก็จะไม่พูดถึง ^^ เพลง เธอคือความฝัน ด้วยนะฮิตจริงๆ แต่คนรู้จักเยอะแล้ว


1.เพลงรักจังเลย อ้อม จริยา ฉัตรสุวรรณ
อัลบัมนี้ซื้อเทปด้วยนะ แต่หายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ถึงอยู่ก็คงยืด เอาไปแช่ตู้เย็นก็คงไม่หาย (ประสบการณ์ที่เด็กสมัยนี้ไม่รู้จัก)  เพลงนี้มีเนื้อเพลงที่เพราะมากๆ คนแต่งเก่งจริงๆ


"เธอรู้ไหมเธอเป็นดังกำลังใจ ดังดวงไฟให้ฉันมองเห็นทาง ฟ้าร้องลมแรงไม่หวั่น แค่เพียงเรานั้นได้เคียงข้างกัน....................."




2.เพลงฟ้าใสกับอันดา  อ้อม จริยา ฉัตรสุวรรณ
คนที่เคยดูหนังเรื่อง "อันดากับฟ้าใส" คงคุ้นเพลงประกอบเวอร์ชั่นผู้ชายมากกว่า แต่เราชอบเวอร์ชั่นนี้มากกว่า เชื่อหรือไม่ใน Youtube มีอยู่แค่ลิ้งเดียว บ่งบอกความนิยมได้ดีทีเดียว




3.เพลงแบบสุขกึ๋น  ไทยร็อค
เนื้อเพลงง่ายๆ แต่คนแต่งเก่งอีกแล้วเรียงร้อยคำได้เก่งมาก ฟังแล้วชอบตั้งแต่ เริ่มเพลง




4.เพลงเหนื่อยใจ XL Step
เพลงอกหัก ขนาดที่ไม่อกหักแบบเศร้าขนาดแต่ ชอบเพลงนี้มากๆไม่รู้ทำไมถึงเศร้าไปด้วย


5.เพลง นก บนฟ้า  พรรณนา
เพลงนี้ชอบเพราะซื้อเทปเพลงคอนเสิร์ตของพี่ปั่น แล้วมีวงนี้มาร้องแล้วก็มีเพลงนี้ชอบมากๆ จนเทปชุดนี้หายไปไหนแล้วก็ไม่รู้หลังจากวนเข้าวนออกตู้เย็นเป็นว่าเล่น 





Sunday 25 March 2012

Miscellaneous 5

มาแบบรวมมิตรอีกวันหลังจากไปเป็นบ้านนอกเข้ากรุงมาเมื่อวานนี้

1.ตามรอย ททท มา อ้อ ททท ไม่ใช่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ที่เคยหลงเดินเข้าไปในสำนักงานที่ราชดำเนินนะคะ (แอร์เย็นดี) แต่ไปตามรอย เทยเที่ยวไทย ค่ะ น่าจะเคยดูรายการนี้กันอยู่นะคะ รายการนี้เป็น Talk of the town มาซักพักแล้ว ที่ตามนี่คือตามไปทานอาหารที่ร้านที่มีพ่อค้าแซ่บ วันนี้เราไปทาน ทัก คาลบี้ ตรงถนนอังรีดูนังค์มา ประทับใจคนผัดดูเขาใส่ใจดีเห็นว่ามีเด็กไปด้วยก็บอกว่าจะเผ็ดนะครับ เราก็ยิ้มๆเขาก็บอกว่าเห็นมีเด็กมาด้วยประทับใจน้องเขาที่เอาใจใส่ลูกค้า ส่วนอีตาคนรับออร์เดอร์ก็ดีแต่ดูใส่ใจไม่เท่าไม่บอกเลยว่าเผ็ด คือไม่ใช่เด็กกินเผ็ดไม่ได้แต่มันบ่งบอกถึงการเอาใจใส่ลูกค้า 


ร้านนี้อย่าไปทานตอนหิวนะคะ เพราะช้าพอควรเลยกว่าจะได้ทาน ต้องรอคนผัดอีกต่างหาก อาหารไม่ได้แบบว่าอร่อยมากจนต้องไปซ้ำ แต่ถ้าจะไปเพราะเพื่อนอยากไปลองหรือชื่นชมน้องคนผัดที่อัธยาศัยดี ห่วงลูกค้าก็แนะนำค่ะ คนผัดชื่อ กอล์ฟ ส่วนอีตาคนรับออเดอร์ชื่อ นิค ทำออร์เดอร์ตกไปอย่างด้วยนะ แต่ตามไปก็ไม่ช้าค่ะ ดูกันได้ค่ะว่าอาหารหน้าตาเป็นแบบไหน




2.Lido แอบเสียใจเล็กๆว่าจะพาน้องไปดูหนังแต่ไม่ได้โทรไปเช็ครอบให้ดีก่อนเช็คจากเนตไปเท่านั้น เลยเกิดความผิดแผนอดดูไป แต่ก่อนเปิดเทอมยังไงคงพาน้องไปดูแน่ๆก่อนที่ชาตินี้พวกมันคงไม่ได้สัมผัสบรรยากาศโรงหนัง stand alone เพราะเคยไปดูแต่พวก cinepelx ความจริงก็อยากให้ดูเรื่องอื่นแต่หนังดูไม่เหมาะ อีกคนก็เคยดู The Hunger Games แล้ว ตัวเลือกก็เลยเหลือแต่ The Artist มีอีกรอบก็เย็นไปเลย 
(ตอนแรกว่าถ้าไปคนเดียวจะไปหา She ดู)


3.ไปเป็นบ้านนอกเข้ากรุงที่ Terminal 21 มาพาน้องไปเดินดู แต่พูดตรงๆก็ไม่เห็นจะมีอะไร แต่ร้านอาหารเยอะดีไว้ค่อยไปหาอะไรกินกับเพื่อนดีกว่า น้องๆชอบ theme ห้องน้ำมาก โดยส่วนตัวคิดว่าที่ทำเป็นโซนต่างๆ ไม่เห็นมันจะมีอะไรเลยนอกจากตรงห้องน้ำ แต่ดีหน่อยลงรถไฟฟ้าก็เข้าห้างเลย เพราะจอดรถไว้ชิดลม แล้วนั่งรถไฟฟ้าไปนู่นนี่ 


4.ได้หนังสือมา 1 เล่ม จริงๆอยากได้ นิตยสาร Diva ที่หน้าปกเป็น Lip Service แต่ที่ B2S ไม่มี นิตยสารหัวนอกที่ B2S น้อยเทียบกับ Asia Books แต่ที่ชิดลมดีอย่างที่มี Starbuck ให้ B2S สั่ง Grande Americano มานั่งคลายความเมื่อย แถมเมื่อวานคนน้อย ปกติคนอย่างกับหนอน


ได้หนังสือเล่มนี้มา ทั้งๆที่หนังสือที่ห้องก็จะไม่มีที่วางอยู่แล้ว แต่เข้าร้านหนังสือแล้วไม่มีหนังสือติดกลับมาก็ยังไงอยู่ เพราะร้านหนังสือที่บ้านเล็กเกินไป



 5.ท้ายสุดคิดถึงร้าน Angelina ที่ชิดลม แล้วจะไปกิน Best Hot Chocolate in the World ได้ที่ไหนล่ะ ปิดไปนานแล้วแต่ไปทีไรก็ยังเสียดายอยู่ อ้อเมนูขนมหวานอันใหม่ของ เกรย์ฮาวด์ อร่อยดี ถ้าตอนแรกคิดว่าจะไป Terminal 21 ก่อนคงไม่ไปกินขนมที่ เกรย์ฮาวด์ 

Friday 23 March 2012

Films on the shelves 1

หนังบนชั้นนั้นมีหลายเรื่อง เวลาคนเดินเข้ามาบอกว่าขอยืมหนังไปดูหน่อยสิ แต่บนชั้นมีแต่หนังนอกกระแสคูรจะหยิบอะไรให้เขาเหล่านั้นยืมคะ โดยส่วนตัวก็มีไม่กี่เรื่องที่หยิบไปให้ยืมได้โดยไม่กลัวเพื่อนด่าว่าเอาอะไรมาให้ดูเนี้ย วันนี้เรื่องแรกที่จะมาพูดถึงคือ

Happy Go Lucky



หนังเรื่องนี้เป็นหนังอังกฤษ ฟอร์มเล็ก ของ Mike Leigh (ผู้กำกับ Vera Drake) จริงๆแล้วหนังอังกฤษที่ไม่ได้ร่วมลงทุนก็จัดเป็นฟอร์มเล็กหมด เป็นหนังเกี่ยวกับคุณครูสาวอายุ 30 กว่า ที่คิดในแง่บวกตลอดเวลา ดูไปก็คิดไปว่าจะมีคนอย่างนี้จริงๆบนโลกไหมเนี้ย พร้อมทั้งเล่าเรื่องราวของคนทำงานในอังกฤษอย่างเป็นจริงไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน ดูกันแบบไม่ต้องคิดอะไรให้มากมาย ไม่ต้องคิดว่าผู้กำกับต้องการสะท้อนอะไรในสังคมชนชั้นล่างของอังกฤษออกมา ดูแล้วยิ้มกับความพยายามที่ Poppy ต้องการให้คนอื่นๆมีความสุขกับชีวิต ฉะนั้นเรื่องนี้จริงหยิบมาให้คนอื่นยืมได้อย่างไม่ต้องคิดอะไรมาก ไม่ต้องกลัวว่าคนที่ยืมไปจะไม่ชอบหรือไม่เข้าใจ เพราะหนังเรื่องนี้มันไม่มีอะไรจะเสีย ไม่มีพิษไม่มีภัย ไม่ต้องตีความหลายชั้น 

โดยส่วนตัวที่ซื้อดีวีดีมาเพราะ เป็นหนังอังกฤษ, ชอบ Mike Leigh และที่สำคัญที่สุด Sally Hawkins ชอบเธอมาจาก Little Britain กับ Fingersmith  หนังเรื่องนี้ถ้าจะดูลึกลงไปก็จะพบถึงประเด็นปัญหาทางสังคมอยู่ด้วยที่พบได้ในสังคมไทยสมัยนี้ ทั้งเรื่องผู้ปกครองปล่อยให้ลูกหลานเล่นเกม ไม่พาออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน ปัญหาทำร้ายกันในโรงเรียน (ที่อังกฤษปัญหานี้รุนแรงมาก เมื่อก่อนเคยคิดว่าปัญหานี้ในเมืองไทยไม่ค่อยรุนแรง แต่เท่าที่เสพย์ข่าวในปัจจุบัน รุนแรงเหมือนกัน) ปัญหาด้านการศึกษา (ซึ่งตอนนี้ในสังคมไทยนั้นต้องการครูผู้สอนที่มีคุณภาพมากกว่า tablet pc) ถ้าจะดูจริงๆหนังเรื่องนี้มันเหมือนยาที่ถูกเคลืบไว้ด้วยช๊อกโกแลต บริโภคได้ง่ายแต่พออมไปสักพักเพื่อพิจารณารสชาติจะพบความขมแฝงไว้ แต่ถ้าเมื่อใดใส่ปากแล้วกลืนเลยก็จะพบแต่ความอร่อย


ถ้าสนใจจะดูแต่ไม่รู้จะหาแผ่นจากไหนก็นี่ค่ะในyoutube มี

Wednesday 21 March 2012

Japanese Cartoon

อ่านการ์ตูนญี่ปุ่นกันไหมคะ ตอนสมัยประถมก็อ่านตามลูกพี่ลูกน้องที่เป็นผู้ชาย เขาอ่านดราก้อนบอล หมัดเทพเจ้าดาวเหนือ อะไรพวกๆนี้จาก ทาเล้นท์กับซีโร่ เคยมีหุ่นฟิกเกอร์ตัว เฮียวงะ จากเซนต์เซย่า เพราะเข้าไปร้านของเล่นกับแม่และน้องชาย พวกน้องได้มาคนละตัวแม่ก็กลัวลูกสาวคนนี้น้อยหน้า ให้เลือกมาหนึ่งตัว ยังจำได้เลยว่าน้องซื้อเซย่า กับ ฟีนิกส์ มา ส่วนเราเลยเอาเฮียวงะ พอโตเข้ามัธยมทาเล้นท์กับซีโร่หายไป มี Boom กับ C-Kids มาแทน ก็อ่านตามพวกพี่ๆน้องๆบ้าง สงสัยเพราะบ้านนี้ลูกหลานผู้หญิงน้อยเลยไม่ได้อ่านการ์ตูนผู้หญิงตาหวานเท่าไหร่


กว่าจะรู้จักอ่านการ์ตูนตาหวานของญี่ปุ่นก็กำลังจะขึ้น ม.1 อยู่แล้วระหว่างรอเรื่องโรงเรียนลูกพี่ลูกน้องที่อยู่กรุงเทพก็ขน Yawara มาให้อ่านพร้อมอีกหลายๆเรื่อง แต่จชื่อจำไม่ได้ มีเรื่องหนึ่งเอาไปอ่านที่โรงเรียนจำได้ติดตาเลยเพื่อนอ่านอยู่ตอนกลางวัน ครูประจำชั้นมายึดไปทั้งชุดสนุกด้วยแต่จำชื่อเรื่องไม่ได้


จนช่วงม.ปลายไปเรียนมีเพื่อนคนหนึ่งเขาติดการ์ตูนมากๆ ต้องซื้อการ์ตูนมิมิทุกเล่ม (การ์ตูนมิมิ คือหนังสือการ์ตูนที่มีหลายเรื่องรวมกัน ของสำนักพิมพ์หมึกจีน) เลยก็เวียนกันอ่านนั้นแหละดีนะที่ช่วงม.ปลายที่โรงเรียนมีนักเรียนน้อย เลยไม่ต้องแย่งกันมากเล่มเดียวพอ พออ่านมิมิแล้วก็ติดการ์ตูนตาหวานซะแล้ว เริ่มซื้อแบบรวมเล่มตอนนั้นเวลาไปเรียนพิเศษที่ภาษาไทย ครูลิลลี่ที่สยาม ก่อนเข้าเรียนก็ต้องเข้าร้านหมึกจีนกับร้านการ์ตูนใต้ลิโด้ที่ติดร้านขายพวกของจากญี่ปุ่น เคยติดการ์ตูนแล้วซื้อเก็บกันบ้างไหม


การ์ตูนที่ยังมีเก็บไว้ครบชุดมีแค่ 2 เรื่อง เพราะการ์ตูนพวกนี้ยังออกไม่จบตอนที่จบม.6 เลยแบกไปด้วยทุกที่ตอนก่อนจะไปเรียนต่อ หาซื้อมาเก็บจนครบ คือเรื่อง "แม่สาวทอร์นาโด" กับเรื่อง "Mars"  


การ์ตูนที่ซื้อเก็บแน่ๆแต่แม่เอาไปบริจาค เนื่องจากตอนไปเรียนต่อ ที่บ้านขายบ้านที่กรุงเทพเพราะไม่มีคนไปอยู่แล้ว ให้คนงานไปขนของพวกหนังสือกับของจิปาถะ แม่เอาหนังสือการ์ตูนที่ซื้อมาอ่านไปบริจาคเรียบไม่ดูว่าอันไหนครบชุดเลย จำได้ว่ามีทั้ง "ภาพรักในฝัน" ที่กระดาษจะเหลืองพร้อมทั้งเหม็นกลิ่นหมึกจากหมึกจีน , "มาร์มาเลดบอย" นี่ก็อีกเรื่องจากหมึกจีน และยังทั้ง "ยาวาระ" ที่ได้รับมรดกมาแล้วก็ตามเก็บมาเรื่อยแต่รู้สึกว่าจะไม่จบ มันเป็นอะไรที่หน้าเศร้ามากๆ


และยังมีอีกเรื่องที่อ่านแล้วจำได้ เรื่องนี้ขอยืมรุ่นพี่อ่าน คือเรื่อง "Virgin Blue เพราะหัวใจเพรียกหา" เรื่องนี้เศร้ามากๆ จำได้ว่ามันดังมากๆเลยต้องไปขวนขวายหามาอ่าน 


มองย้อนกลับไปไม่น่าเชื่อเลยว่าจะเคยอ่านนิยายการ์ตูนตาหวานแบบนี้แถมซื้อเก็บด้วยนะคะ ดูไม่ค่อยเข้ากับหน้าตาและนิสัยอย่างแรง แต่ตอนนั้นไม่ใช่ไม่อ่านการ์ตูนผู้ชายนะคะ ก็อ่านแต่ไม่ซื้อเก็บเอง คงเป็นเพราะเพื่อนซื้อ น้องชายซื้อ ลูกพี่ลูกน้องซื้อ ที่อ่านตลอดและบ่นตอนอ่านไปด้วยคือ  "คินดะอิจิ" หรืออ่านแล้วก็พอชอบอย่าง "ไซโคเมทเลอร์ เอย์จิ" รวมทั้งการ์ตูนกีฬาอย่าง "Harlem Beat" กับ "Prince of Tennis" ที่ยืมมาอ่านจากร้านคนรู้จัก  แต่ที่ชอบมากที่สุดแถมไม่ต้องลงทุนเองเพราะน้องชายซื้อทุกเล่มคือ การ์ตูนเกี่ยวกับอาหาร "โซ้ยแหลก" และการ์ตูนที่งงว่ามันจบหรือไม่จบอันนี้มีบางเล่มไม่ครบชุดคือ "โกโต้ ประธานเลือดเดือด" 


สรุปแล้วอ่านการ์ตูนกันบ้างไหมคะ

Tuesday 20 March 2012

Like We Never Loved At All

เคยฟังเพลงนี้กันไหมคะ ของ Faith Hill เพลงนี้ถือว่าเป็นเพลงที่ชอบมากๆอีกเพลงหนึ่ง แล้วทำไมถึงเขียยนถึงเพลงนี้ เพราะเรื่องของคนรู้จักค่ะ เขาเลิกกับแฟนมาสักพักแล้ว แต่ก็เหมือนยังเจ็บไม่หายเสียที ทั้งๆที่ผู้ชายคนนั้นมันไม่เห็นจะรู้สึกอะไรเลย เราก็เลยนึกถึงเพลงนี้ เราเป็นผู้ฟังที่ดีกับเพื่อนนะคะ ไม่ให้คำแนะนำด้วย อยากรักใคร รัก อยากเลิก ก็เลิก ที่ไม่ให้คำแนะนำเพราะโตๆกันแล้วชีวิตใครชีวิตมัน หรือถ้าไปเห็นว่าผู้ชายของเพื่อนมันแย่ เพื่อนมาขอคำแนะนำว่าเลิกดีไหม จะตอบไปว่าคิดเอาเองค่ะ เพราะเกิดบอกให้เลิกเกิดเขากลับมาดีกัน ดิฉันก็กลายเป็นหมาหัวเน่าน่ะสิคะ รับฟังค่ะพร้อมคำพูดที่ให้กำลังใจ แต่ในบางครั้งฟังบ่อยๆมันก็เบื่อเนอะ มาปรึกษากันจังไอ้คนไม่มีแฟนเนี้ย ไม่ใช่แค่ไม่มีแฟนนะคะ ไม่เคยมีแฟนด้วยค่ะ แล้วดิฉันจะไปเข้าใจหัวอกกลัดหนองของพวกท่านทั้งหลายกันได้อย่างไร 


ท้ายสุดเลยมอบเพลงนี้ให้กับเพื่อนคนนั้น ให้มันไปแปลเอง ทำเพื่อผู้ชายไปตั้งมากมายมันเห็นค่าบ้างไหม เปลี่ยนตัวเองเพื่อมันไปทำไม ไม่เข้าใจ เฮ้อ ดังๆสัก 5 ที ผู้ชายเลิกแล้วก็เลิกเลย แกจะมาเสียใจให้นานทำไมๆๆๆ




You never looked so good
As you did last night
Underneath the city lights
There walking with your friend
Laughing at the moon
I swear you looked right through me
But I'm still living with your goodbye
And you're just going on with your life

[CHORUS]
How can you just walk on by
Without one tear in your eye
Don't you have the slightest feeling left for me
Maybe that's just your way
Of dealing with the pain
Forgetting everything between our rise and fall
Like we never loved at all

You, I hear you're doing fine 
Seem like you're doing well
As far as I can tell
Time is leaving us behind
Another week has passed
And still i haven't laughed yet
So tell me what your secret is?
To letting go, letting go like you did, like you did

Did you forget the magic?
Did you forget the passion?
Did you ever miss me?
Ever long to kiss me

Maybe that's just your way
Of dealing with the pain
Forgetting everything between our rise and fall
Like we never loved at all
...................................


มาฟังเพลงไทยด้วยค่ะ แบบว่าอยู่คนเดียว แก่ขึ้นแล้วจะทำยังไง มักจะมอบเพลงนี้ให้ฟังค่ะ


Monday 19 March 2012

Miscellaneous 4

วันจันทร์อีกแล้ว แต่ถ้าไม่มีวันจันทร์ก็จะไม่มีวันอื่นๆตามมาจนถึงวันเสาร์-อาทิตย์ เลยต้องทนอยู่กับวันจันทร์ให้ได้ วันนี้เป็นวันจันทร์ที่ยุ่งมากๆงานราษฎร์ งานหลวง พร้อมใจกันเข้ามาในเวลาใกล้เคียงกัน เลยมาคุยเรื่องจิปาถะตามประสา


1.งานบวช
ช่วงนี้มีงานให้จำเป็นต้องไปเยอะมากทั้งงานบวชและงานแต่ง แต่เรามาเริ่มกันด้วยงานบวชก่อน คือ เราเป็นพุทธศาสนิกชน โดยกำเนิดไม่ได้เลือกที่จะมาเป็น แต่ไม่เข้าวัดฟังธรรมะ สวดมนต์ ถ้าไม่มีเหตุจำเป็น เราแค่คิดว่าเราไม่ต้องไปเบียดเบียนคนอื่นพอแล้ว โดยส่วนตัวชอบที่จะทำบุญกับเด็กมากกว่า เพราะเด็กเหล่านั้นต้องการกำลังเพื่อที่จะได้โตไปไม่โกง ไม่ไปเบียดเบียนผู้อื่น เด็กเหล่านั้นต้องการการศึกษา 
ส่วนเรื่องบวช ถ้าคนที่มีใจจะบวชเพื่อศึกษาธรรมจริงก็สนับสนุน แต่บวชเพื่อทดแทนคุณพ่อ-แม่ แต่ใจจริงไม่อยากบวชนั้น พ่อ-แม่ จะได้บุญจริงเหรอ อันนี้น่าสงสัย โดยส่วนตัวคนใกล้ตัวบวชเรียนหลายคน ทำให้มีความเห็นว่าบวชสักพรรษานั้นดีที่สุด แต่ต้องไปวัดเคร่งๆหน่อย เพราะทำให้คนบวชได้เรียนรู้ แถมยังใจเย็นขึ้นอีกเยอะ ส่วนบวชแค่อาทิตย์ สองอาทิตย์ ไม่เห็นจะดีขึ้นตรงไหน ดีแค่ได้บอกว่าบวชแล้วนะ


2.งานแต่ง
ปีนี้งานแต่งเยอะมากๆ ถึงมากที่สุดแทบจะเดือนละงาน อันนี้หมายถึงคนที่สนิทแต่งงานนะคะ แค่จะบอกว่ามันเปลืองงบประมาณมากๆค่ะ ทั้งค่าซองอย่างต่ำก็1,000 บาท เพราะสนิทกัน ยังไม่รวมค่าเสื้อผ้า ค่าเดินทาง ที่สำคัญที่สุดคงไม่ได้จัดงานแต่งเพื่อจะได้เงินช่วยงานคืนด้วย ฉะนั้นมันช่างเป็นค่าใช้จ่ายที่น่าเศร้าจริงๆ จะแต่งกันทำไมนักหนา โลกจะแตกอยู่แล้วนะจ๊ะ 555+


3.India Arie ft Adele 
เพิ่งเจอวีดีโอนี้บน youtube แถมเป็นเพลงโปรดที่ได้นักร้องที่ชอบมากทั้งสองคนมาร้องด้วยกันอีกต่างหาก เราว่าเพลงนี้ก็บ่งบอกความเป็น Adele ได้ดีเยี่ยมเหมือนกัน ถึงจะชอบ original version มากกว่านิดนึงก็เถอะ เธอทั้งสองร้องร่วมกันตั้งแต่คอนเสิร์ต VH1 Divas Concert 2009 เก่าแล้ว


shared ลิ้งไม่ได้ก็กดเข้าไปดูกันเองนะคะ VIDEO

4.ขอบ่นเรื่องราคาน้ำมันหน่อยเหอะตอนนี้เติมน้ำมันเต็มถึงทีแล้วอยากจะร้องไห้ จริงๆแล้วตอนเติมไม่ค่อยร้องนะ จะร้องตอนจ่ายค่าบัตรเครดิตมากกว่า คืออะไรๆก็อย่ามาอ้างค่าการตลาดถ้าค่าการตลาดมันแรงขนาดนั้นทำไม ปตท ถึงกำไรปีที่แล้วเยอะขนาดนั้น เซ็งมาก จำว่าตอนน้ำมันจะลิตรละ 18 ยังโอดครวญกันซะ ตอนนี้ 40 กว่า โอ๊ย เกินเยียวยาจริงๆ


ลากันไปสั้นๆง่ายแค่นี้ล่ะค่ะ 

Sunday 18 March 2012

กีฬา กีฬา

กีฬา กีฬา เป็นยาวิเศษ...... แต่สำหรับคนที่ ดู อย่างเดียวกีฬาไม่ใช่ยาวิเศษค่ะ เพราะไม่ได้ออกกำลังกาย ดูแล้วเชียร์หัวใจจะวายไปกับนักกีฬาที่ชอบและเชียร์


มานั่งนึกๆดูสมัยเด็กประถมก็ดูกีฬาตามที่บ้านพวกซีเกมส์ เอเชี่ยนเกมส์ โอลิมปิค แต่ก็ไม่ได้ถึงกับกรี๊ดนักกีฬาคนไหนเป็นพิเศษ พอขึ้นชั้นมัธยมจำได้ว่ามีซีเกมส์นักว่ายน้ำสมัยนั้นต้อง ณุก รัฐพงษ์ ศิริสานนท์ กับ แหวน ประพาฬสาย มินประพาฬ แนวโน้มมากเพราะกรี๊ดแหวนมากๆ ขับเขี่ยวกับ Jocelyn Yeo ของสิงคโปร์ สุดๆ  แล้วก็ดูบาสเก็ตบอลตามเพื่อน เชียร์ Chicago Bulls ที่มีทั้ง Michael Jordan, Scotty Pippen, Dennis Rodman, Toni Kukoc แถมตอนนั้นบ้าบาสมาก อาจจะเป็นเพราะทีมบาสเกตบอลหญิงไทย ที่มี แว่น สิริรัตน์ ยนต์โยธินกุล อยู่ในทีม มีแต่คนกรี๊ดแต่เรากรี๊ดไม่นา ^^ ทำให้เรารู้จักนักบาสเกตบอลใน NBA หลายคน ทั้ง Charles Barkley, Anfernee Hardaway, Shaq ฯลฯ  แล้วก็ดู Tennis สมัยนั้นก็ต้อง Sweet Pete กับ Steffi Graf  จนมายุค Martina Hingis, Daniela Hantuchova ฯลฯ 


ส่วนตอนนี้ก็ดูจับฉ่ายมากๆ ถ้ามีเวลาก็ดู Handball โดยเฉพาะทีมนอร์เวย์กับเดนมาร์ก, วอลเลย์บอล เชียร์สาวไทยสุดใจ แล้วก็ดูแข่ง Volleyball European League บ้างเพราะนักวอลเลย์น่าตาดีมากๆ, ดูเทนนิสเมื่อมีถ่ายทอดยิ่งตอนนี้มีเหตุผลให้ดูเทนนิสมากขึ้นเพราะ Umpire ติดตามข่าวสารแบดมินตันบ้างเพราะนักแบดไทยมีสิทธิลุ้นตั๋วโอลิมปิค


เหมือนจะดูเยอะเนอะ แต่จริงๆไม่มีโอกาสได้ดูเท่าไหร่ ก็ติดตามข่าวจากหนังสือและอินเตอร์เนตเนี้ยะแหละ คุณล่ะดูกีฬาบ้างไหม 










  

Friday 16 March 2012

Miscellaneous 3

วันนี้มาแบบรวมมิตรค่ะ 


1) ตอนนี้ว่าจะเริ่มหา Series Spain เรื่อง 'Tierra de Lobos' มาดูเพราะเห็นสองสาวนักแสดงชนะ 'Cutest Couple on Television' ตอนที่ Afterellen ทำ poll ตอนแรกก็เฉยๆเพราะไม่ค่อยดูซีรี่ย์ย้อนยุคเท่าไหร่ นอกจาก Downton   Abbey ที่เพิ่งจะโหลดมาดูหลังจาก Rizzoli&Isles จบซีซั่น2 แต่พออ่านสัมภาษณ์ของ Adriana Torrebejano แล้ว ว่าจะลองไปหาดูดีกว่า เพราะเธอสวยมากถึงมากที่สุด สีตาสวยมาก ไม่รู้ทำไมแต่สาวที่แสดงเป็นเลสในซีรี่ย์สเปนส่วนใหญ่สวยมากตั้งแต่ Patricia Vico, Marian Aguilera แล้วก็ Adriana 




2) เพิ่งได้อ่านนิยายของคุณฝุ่นละอองเรื่อง "สายลมกับดวงดาว" แล้วชอบมากๆถึงมันอาจจะดู surreal ไป แต่ก็นิยายนี่นา มันคงไม่ realistic จนคนอ่านไม่สนุก เรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องแรกๆของคุณฝุ่นละออง อ่านแล้วชอบถึงแม้ timeline จะสับสนนิดๆตามความเห็นเรานะคะ ขอบทั้งพัดชา,เพลงพิน และนรี มีเพื่อนอย่างนรีแค่คนเดียวก็เกินพอไม่ต้องมีเพื่อนให้มากมาย แต่ออกจะรำคาญนายสามภพแต่คนอย่างนี้มันมีอยู่ในโลก ไม่อยากเจอก็ต้องเจอ สรุปชอบค่ะ ตอนนี้เป็นแฟนนิยายตุณฝุ่นละอองอย่างถอนตัวไม่ขึ้น แถมติดตามเรื่อง "เคียงใจ" ใน เด็กดี แล้วแทบอยากให้คุณฝุ่นรวมเล่มซะที ตอนที่ 18 นี่ อ่านแล้วมีความสุขปนสงสารปลาดาวนิดๆค่ะ






3) Gillian Anderson ให้สัมภาษณ์ว่า "I was in a relationship with a girl for a long time when I was in highschool...." คืออยากบอกว่าถึงจะไม่ได้เป็นแฟนตัวยงของ The X Files แต่ก็นะมันมีบางอย่างตอนดูThe X Files ที่บอกว่า Gillain ไม่ straight ผู้หญิงอะไรใส่สูทแล้วเท่เป็นบ้า






4)เรื่องนี้ไร้สาระสุดๆ คืออยากกิน BLT Sandwish, Roasted beef กับ Yorkshire Pudding และ Sausage กับ mash ราดด้วย Baked beans มากเวลาได้เข้าเมืองกรุงทีไร มีแต่คนจะกินญี่ปุ่นไม่ก็เกาหลี แถมยังไม่เจอร้านไหนทำ Yorkshire pudding อร่อยเลยให้ตายเถอะ 








no copyright intended 



Thursday 15 March 2012

English songs from Scandinavian singers

วันนี้มาเร็วเคลมเร็ว แบบโฆษณาที่บอกว่าประกันยุคใหม่เป็นอย่างนี้ เพราะเมื่อวานเขียนยาวเลยมาแบบสั้นๆบ้าง จะได้มีเรื่องมาเขียนทุกวันตามที่หวังไว้

เคยนึกกันบ้างไหมคะว่าทำไมคนแถบสแกนดิเนเวียถึงใช้ภาษาอังกฤษได้ดีมากๆ เขาเรียนกันยังไงนะ คือถ้าเปรียบเทียบกับประเทศอื่นในยุโรปด้วย เริ่มเรียนก็พอๆกันแต่สู้พวกสแกนไม่ได้เลย ส่วนคนไทยไม่ต้องพูดถึงระบบการศึกษาล้มเหลวค่ะ ถ้าไม่ได้เรียนโรงเรียนที่ดีจริง ภาษาอังกฤษนี่แทบไม่กระดิกหู ไม่ต้องย้อนไปถึงยุคที่ จขบ(เจ้าของบล๊อก) เรียนประถมนะคะ เอายุคนี้แหละโรงเรียนประถมในจังหวัดใกล้กรุงเทพ เด็กนักเรียนประถมศึกษาปีที่5 ยังไม่รู้ศัพท์พื้นฐานง่ายๆเลย เติม s ไม่เติม s หลัง present simple ยังไม่รู้ว่าใช้เมื่อไหร่ด้วยซ้ำ

1.Lene Marlin - Sitting Down Here
Lene น่าจะเป็นนักร้องจากสแกนที่เรารู้จักเป็นคนแรกๆเลยมั้ง รู้จักสมัย นิตยสารเพลง POP (รู้จักไหมเนี้ยะ)




2.M2M - Mirror Mirror
สองสาว M2M ก็ดังอยู่ในไทยอยู่พักใหญ่




3.Kings of Convenience - Cayman Island
วงนี้น่าจะเป็นที่รู้จักพอสมควรเคยเข้ามาแสดงที่ไทยด้วยตอนนั้นเสียดายมากที่รู้ช้าไป อดไปดูเลย แถม1ในนั้นยังมาทำเพลงกับปาล์มมี่ด้วย




4. Kate Havnevik - Unlike Me
รู้จักจาก Grey's Anatomy เพลงหลอนดีชอบมากๆ




5. Vincent - Miss Blue
หนุ่มคนนี้เพื่อนชาวนอร์เวย์เอาเพลงเขามาทำวีดีโอลง YT เลยรู้จักเพลงน่ารักดี เป็นหนึ่งเดียวที่มาจากสวีเดน




The End ค่ะ




Wednesday 14 March 2012

หนังที่ชอบ 1

เขียนเรื่องเพลงติดต่อกัน 2 บล๊อกแล้ว ไม่รู้ว่าคนอ่านเบื่อไหม แต่คนเขียนเบื่อ ;-) เมื่อวานเลยนั่งคิดดูว่าจะเขียนเรื่องอะไร ก็เหลือบไปเห็นนิตยสารที่ซื้อเป็นประจำทุกเดือนคือ Flimax กับ Bioscope (2 ฉบับนี้ซื้อเอง ส่วนนิตยสารเล่มอื่นอาศัยคนที่บ้านอ่าน) เลยคิดว่าจะเขียนเรื่องหนัง โจทย์ต่อไปจะเขียนถึงหนังเรื่องอะไรดี คำตอบที่ได้คือหนังที่ดูเกิน 2 ครั้ง เพราะชอบ ดูแล้วยิ้ม มีหนังเข้ารอบอยู่หลายเรื่อง แต่หนังจำพวก Hollywood ตัดออกไปเนื่องจากมีคนเขียนถึงเยอะแล้ว เลยเลือกหนัง yuri มาเขียนเพราะเห็นว่าหนังกลุ่มดังกล่าวมีคนพูดถึงน้อยกว่าหนัง yayoi (เอ่อ จขบ ก็ไม่ค่อยดู yayoi เท่าไหร่ ดูรอบเดียวพอไม่ได้ปลื้มถึงขั้นดูซ้ำเพื่อเก็บรายละเอียดเหมือนหนัง yuri) ฉะนั้นเลยเหลือหนัง yuri ประเภท feel good อยู่ในหัว 2 เรื่อง คือ 'Saving Face' กับ 'Imagine Me & You' ตัดสินใจเลือกไม่ถูกแต่ Saving Face อยู่ในคอมเครื่องเก่าไม่มีแผ่นดีวีดี ที่สามารถหยิบขึ้นมาดูแบบผ่านเพื่อกระตุ้นความจำได้ เลยมา final decision ที่ IMAGINE ME &YOU 


Imagine Me & You


ปกติหนังที่มีบทเกี่ยวกับคนที่รักเพศเดียวกันมักจะทำให้ชาว LGBT (Lesbian, Gay, Bi, Trans) ผิดหวังเพราะทัศนคติในแง่ลบ อาจจะถึงขั้นเลวร้ายต่อคนรักเพศเดียวกัน หรือบทมักจะเป็นบทเสริมเล็กๆของความรักระหว่างหญิงชาย หรือไม่ก็เป็นหนังนอกกระแสหาดูได้ยากมากถึงมากที่สุด แต่ IM&Y เป็นหนังที่ถือว่าฉายในโรงใหญ่ไม่ได้ฉายแต่ในเทศกาลเท่านั้น (ได้ฉายทาง HBO ด้วย) ถือว่าเข้าถึงคนดูหลายกลุ่มไม่เฉพาะเจาะจง แต่คนดูเหล่านั้นต้องมีใจที่เปิดกว้าง ที่จะยอมรับความแตกต่างของคนอื่นไม่ใช่คิดว่าความรักบนโลกนี้มีแต่ ระหว่างชาย-หญิงเท่านั้น กอปรกับหนังเรื่องนี้ไม่ได้แสดงถึงด้านมืดที่คนโดยทั่วไปคิดว่าความรักระหว่างเพศเดียวกันเป็น แถมพล๊อตหลักของเรื่องเป็นเรื่องของสองสาวอีกต่างหาก

มาแนะนำตัวแสดงหลักกันก่อนดีกว่า

Luce (Lena Heady)
Rachel (Piper Perabo)
Heck (Mathew Goode)

เริ่มเรื่องมาวันที่ Rachel กำลังจะ tie the knot (แต่งงาน) กับเพื่อนและคนรัก Heck โดยมีนักจัดดอกไม้ Luce มาเนรมิตดอกไม้ที่โบสถ์กับที่งานเลี้ยงให้ ในงานเลี้ยง Luce ช่วย Rachel งมแหวนขึ้นมาจากที่ใส่น้ำพันซ์หลังจากนั้น Rachel ก็ถูกชะตากับ Luce เหลือเกินพยายามจะจับ Luce กับ Cooper ในที่สุด Rachel ก็รู้ว่า Luce เป็น gay จึงเริ่มงงกับความรู้สึกตัวเองที่มีต่อ Luce พยายามที่จะหักห้ามใจก็ทำไม่ได้ Luce เองก็ไม่ชอบที่จะไปทำลายชีวิตแต่งงานของใคร จึงตกลงกันว่าความสัมพันธ์คงเป็นไปไม่ได้เพราะทั้งสองสาวไม่อยากที่จะทำร้ายผู้ชายที่แสนดีอย่าง Heck (ดีจริงๆนะ ถ้ามีผู้ชายอย่างนี้ในโลกสักเกินครึ่งหนึ่งของประชากรเพศชายบนโลกใบนี้ คงทำให้ปัญหาความรุนแรงในครอบครัวน้อยลงไปมาก อ้อ ต้องชายแท้ด้วยนะ จะหาสินสอดไปสู่ขอ Heck เลย) แล้วทั้งสองสาวจะต่อสู้กับความรู้สึก รักนะแต่เป็นไปไม่ได้ ได้ไหม คนที่ยังไม่ได้ดูก็ไปดูเอานะคะ ส่วนคนที่ดูแล้วอ่านต่อข้างล่างนะคะว่าชอบอะไรในเรื่องเหมือนเราไหม

อ้อ ชื่อเรื่องผู้กำกับ/คนเขียนบท เอาท่อนแรกของเพลง Happy Together ของวง Turtles เพลงนี้ถือว่ามีบทบาทสำคัญทีเดียว มาฟังกันดีกว่า










มาคุยว่าเราชอบอะไรในเรื่องกันบ้างดีกว่า 

ชอบตอนต้นเรื่องที่ Edie ชวน Luce ไปเที่ยวแล้วบอกว่า
Edie: You need a love life.
Luce: I've got a like life.
มันทำให้เห็นว่าทุกคนไม่จำเป็นต้องมีความรัก ชีวิตนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความรัก สำหรับเรานะคะ คนอื่นอาจจะไม่เห็นด้วย เราชอบดูหนัง Rom-Com แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องมองหาความรัก ชอบเพราะมันทำให้เรายิ้มมีความสุข และแม้เราไม่ได้มีความรักชีวิตเราก็ไม่ได้ bitter ซะหน่อยยังมีความสุขกับสิ่งที่เราชอบได้

ชอบตอนที่ H ถามคำถามที่โบสถ์ไม่มีใครตอบได้แต่ Luce ตอบได้ (ชอบสาว nerd ^^) แถมชอบตอนที่ Heck บอกว่า I haven't got a bastard clue ชอบมัน bloody English ดี (ก็หนังอังกฤษนี่นา)
คำถามและคำตอบมีผลต่อการตัดสินใจของ Heck ตอนจะจบอยู่หน่อยนึงนะคะ

H: What happen when an unstoppable force meets an immovable object?
ไม่มีใครตอบได้จน Luce ช่วย
Luce: It never happens. If there a thing that can't be stopped, it's not possible for there to be something else which can't be moved and vice versa, they can't both exist.

ชอบชื่อ Henrietta แถมชอบชื่อเล่นของคื่อ H เพราะมาจาก Jesus 'H' Christ ตอนแม่รู้ว่าตั้งท้อง แถมน้องหนู Boo Jackson เล่นได้น่ารักไม่กระแดะเหมือนเด็กหลายๆคนในละครไทย (อ้าวเฮ้ยไปกระแนะกระแหนนได้ไงคนละเรื่องเลย 555)

ชอบตอนที่ Heck รู้ว่า Luce เป็น Gay แล้วบอกว่า Lovely, well-done (bloody English again) ฟังแล้วนึกถึงเวลาดูรายการ 'The Big fat Quiz of the Year' ตอน David Williams พูด You were great, congretuwelldone! มันออกแนวประชดยังไงไม่รู้ อันนี้ Heck คงประชดตัวเองว่าทำไมถึงดูไม่ออกวะว่าเป็น gay

ชอบตอนที่ Rachel ไม่สามารถหักห้ามตัวเองโดยการใส่เสื้อ cardigan ให้ Luce บนหลังคาได้เพราะ Luce หนาว มันแบบเหมือนว่า ขอแตะนิดแตะหน่อยก็ยังดี 

ชอบที่Supermarket ที่ Heck บอก Rachel ว่า Luce นั้นเป็น gay ขำว่า Gay as a tennis player แหมมนักเทนนิสไม่ใช่เลสก็เยอะแยะนา เมื่อก่อนคงต้องบอกว่า gay เหมือน Martina หรือ Amelie ตอนนี้คงต้องบอกว่า Sam Stosur ถึงเธอจะไม่ได้ออกมายอมรับก็เถอะ

ชอบฉากที่ H present งานที่ห้อง แล้ว Luce วางมือไว้ข้างตัว Rachel ก็เอามือมาวางข้างตัวเช่นกัน มือจะได้สัมผัสเล็กๆกับมือของ Luce น่ารักเหมือน Rachel จะบอกว่าขอแค่มีความสุขจากไอสัมผัสเล็กๆก็พอใจ แม้ความคิดจะเตลิดไปถึงไหนต่อไหนแล้วก็ตาม

ชอบฉาก ตอน Guy Fawkes Day ที่ Rachel เห็น Luce กับแม่แล้วรู้สึกไม่ดีเหมือนจะหึง พร้อมกับคิดถึงจึงอยากจะขจัดความรู้สึกไปโดยการชวน Heck กลับบ้าน แต่ก็อดไม่ได้ที่ถึงบ้านแล้วโทรไปหา Luce แต่ก็ไม่กล้าจะพูดเลยวางหูไป

ชอบฉากที่สนามบอลที่ Luce สอนให้ Rachel ตะโกน แล้วRachel ให้ Luce ใช้สองมือจับกระบังลม เพราะมันเหมือน Luce กอดเธอและเธอก็รู้สึกดี สังเกตุได้จากใบหน้า

ชอบฉากตอนเดินกลับบ้านที่คุยกันเรื่องความหมายของดอกไม้ แล้ว Rachel พยายามให้ Luce บอกความหมายของดอกลิลลี่ให้ได้ สีหน้าตอน Luce พูดว่า I dare you to love me นั้นแบบว่า กล้าไหมล่ะ

ชอบตอนที่ Rachel ไปบอก Luce ว่าฉันรู้สึกอย่างนี้กับเธอไม่ได้นะ มันไม่ควรแล้วก็ออกไปแต่ก็หักห้ามใจไม่ได้เข้ามาหา Luce อีกครั้ง (เรื่องกำลังน่ารักเลยอีตา Heck ดันโผล่มาให้ สองสาวรู้สึกผิด)

ชอบตอนวันเกิด Rachel ที่ Heck รู้แล้วว่าใครเป็นคนที่ Rachel รัก เพราะ H บอกว่า Luce กำลังไปที่อื่น She's going on a very long holiday แล้วหน้าตา Rachel แสดงออกเลยว่ารู้สึกอย่างไร จน Heck รู้เลยว่า Rachel หลงรัก Luce พร้อมกับบอกว่า 'Because what you're feeling now Rachel, is the unstoppable force. Which means I've got to move.  พอฟังคำนี้ก็เลยนึกขึ้นได้ว่าคำถามของ H ตอนต้นเรื่องถือว่าเป็นคำถามสำคัญทีเดียว เมื่อความรักเกิดขึ้นแล้วมันเหมือนเป็น unstoppable force 

ชอบตอนที่ Rachel ได้ยินหนุ่มขี่จักรยานร้องเพลงแล้วเลยรู้ว่า Luce ก็รถติดอยู่แถบๆเดียวกับเธอ เพลงเนื้อหาน่ารัก Imagine me and you, I do....

ชอบนักแสดง Matthew Goode เป็นผู้ชายที่น่ารัก เพิ่งได้ดู Leap Year เล่นเป็นหนุ่มกวนตีนได้น่ารักจริงๆ

ชอบ Lena Heady ชอบจริงจังก็จากเรื่องนี้แหละ เพิ่งนึกได้ตอนหลังว่า Lena เคยแสดงเป็นเลสใน Possession เรื่องที่ดูที่ฝรั่งเศสแถมพากษ์ฝรั่งเศสด้วย ดูไม่รู้เเรื่องเลยจินตนาการจากภาพอย่างเดียว แต่เห็นหน้า Gwyneth ก็คุ้มแล้วตอนนั้น 555+

ชอบ Piper Parebo ชอบมาตั้งแต่ Coyote Ugly ถึงตอนนั้นจะดูเพราะ Maria Bello ก็เถอะนะ แต่เราว่า Lena กับ Piper เคมีเข้ากันจริงๆ 

ไปทำงานต่อแล้วค่ะ

Tuesday 13 March 2012

เพลงโปรด 2

มาคุยกันเรื่องเพลงต่อกันเป็นวันที่2 ก็รู้ๆกันอยู่นะคะเพลงที่ดังคนรู้จักเยอะเราจะไม่พูดถึง อ้อเพลงนี้ดังสำหรับคนต่างชาติพอควรนะคะ ที่เราว่าไม่ดังคือในเมืองไทยค่ะ วันนี้จะพูดถึงเพลงที่ออกแนวเฟมินิสนิดๆ เพลงที่มีคติว่าให้รู้สึกดีกับหน้าตาตัวเอง มีสมองย่อมดีกว่าแต่งตัวไปวันๆเพลงนี้คือ

Video by India Arie

เพลง Video เป็นซิงเกิ้ลแรกของอัลบัมแรกที่ India เปิดตัวในอัลบัมที่มีชื่อว่า Acoustic Soul ในปี 2001 เพลงนี้ถือว่าเป็นเพลงที่ประสบความสำเร็จที่สุดของ India เนื่องจากได้อยู่ใน 100 อันดับของชาร์ต Billboard ในปี 2002 รวมถึงได้ถูกเสนอชื่อชิง Record of the year บนเวที Grammy Awards  ด้วย แต่ก็พ่ายแพ้ต่อ Walk On ของ U2 ไป (แอบมี bias เราว่า Video เพราะว่า Walk On อีกนะ) เพลงนี้เราว่าแปลยากนะแต่จะแปล ^^

Sometimes I shave my legs and sometimes I don't
Sometimes I comb my hair and sometimes I won't 
Depend on how the wind blows, I might even paint my toes
It really just depends on whatever feels good to my soul
บางครั้งฉันก็โกนขนขา และบางครั้งฉันก็ไม่
บางครั้งฉันหวีผม และบางครั้งฉันก็ไมทำ
ขึ้นอยู่กับว่าลมจะพัดไปทิศไหน ฉันอาจจะทาเล็บเท้า
จริงๆแล้วขึ้นอยู่กับอะไรที่รู้สึกดีกับความรู้สึกฉัน

[CHORUS]
*I'm not the average girl from your video
And I ain't built like a supermodel 
But I learned to love myself unconditionally,
Because I am a queen
ฉันไม่ใช่สาวทั่วๆไปที่เธอเจอในวีดีโอ
ฉันไม่ได้ถูกสร้างมาให้หุ่นเหมือนนางแบบ
แต่ฉันเรียนที่จะรักตัวเองอย่างไม่มีเงื่อนไข
เพราะฉันเป็นราชินี

I'm not the average girl from your video
My worth is not determined by the price of my clothes 
No matter what I'm wearing, I will always be
India,Arie

ฉันไม่ใช่สาวทั่วๆไปที่เธอเห็นในวีดีโอ
คุณค่าของฉันไม่ได้ขึ้นอยู่กับราคาเสื้อผ้า
ไม่ว่าฉันจะใส่อะไร ฉันก็ยังคงเป็น...
อินเดีย เอรี่

When I look in the mirror and the only one there is me
Every freckle on my face is where it's suppose to be
And I know my creator didn't make a mistake on me
My feet, my tights, my lips, my eyes, I'm loving what I see
เมื่อฉันส่องกระจก คนเดียวที่ฉันเห็นก็คือตัวฉันเอง
กระบนหน้าฉัน มีก็อยู่ในที่ที่มันสมควรจะมี
แล้วฉันก็รู้ว่าคนที่สร้างฉันขึ้นมาไม่ได้ สร้างข้อผิดพลาดบนตัวฉัน
เท้า น่อง ริมฝีปาก ตา ของฉัน ฉันรักสิ่งที่ฉันเห็น

[CHORUS]

Am I less of a lady?, if I don't wear a pantyhose
My momma said a lady ain't what she wears but what she knows
But I've drawn a conclusion, it's all an illusion
Confusion's the name of the game
A misconception, a mass deception 
Something gotta change
ฉันจะเป็นผู้หญิงน้อยไปหรือ ถ้าฉันไม่ใส่ถุงน่อง
แม่บอกว่าการเป็นผู้หญิงไม่ได้ขึ้นกับสิ่งที่สวมใส่ แต่ขึ้นอยู่กับรู้อะไร
เป็นการเข้าใจที่ผิด, การหลอกลวงอย่างยิ่งใหญ๋ (เรื่องเสื้อผ้า)
บางสิ่งจำเป็นที่ต้องเปลี่ยนแปลง

Now don't be offended, this is all my opinion
Ain't nothing that I'm saying law
This is a true confession
Of a life learned lesson 
I was sent here to share with y'all
So get in when you fit in
Go on and shine
Clear your mind
Now's the time
Put your salt on the shelf
Go on and love yourself
'Cause everything gonna be alright
อย่าขุ่นเคืองเพราะนี่เป็นแค่ความคิดของฉัน
ไม่มีสิ่งไหนที่ฉันพูดถือว่าเป็นกฎหมาย
มันคือคำสารภาพจริงๆของฉัน
ที่ได้มาจากประสบการณ์ชีวิต
ที่ฉันถูกส่งมาให้มาแบ่งปันกับทุกๆคน
เข้ามาเมื่อคุณเห็นด้วย
ล้างความคิดออกจากสมองไปซะ
มันถึงเวลาแล้ว
เก็บเกลือไว้ที่ชั้นวางซะ 
(คาดว่าเพราะพวกรักษาหุ่นจะใช้เกลือเป็นตัวช่วยในการอดอาหาร)
จงรักตัวเอง
เพราะทุกอย่างจะต้องดีแน่ๆ
*The context of the song is self-acceptance and the acceptance of ones looks. Putting the salt on the shelf may be a very indirect reference to ceasing the consumption of salt in quantities sufficient to induce vomitting/purging, a practice employed by some anorexics and bulimics.

[CHORUS]

Keep your fancy drink and your expensive minks
I don't need that to have a good time
Keep your expensive cars and your caviar
All I need is my guitar
เก็บเครื่องดืมแพงๆกับเสื้อขนมิ้งของเธอไปซะ
ฉันไม่ต้องการมีเวลาที่ดี
เก็บรถกับคาร์เวียร์เธอไปเหอะ
สิ่งที่ฉันต้องการแค่กีตาร์เท่านั้น

Keep your crystal and your pistol
I'd rather have a pretty piece of crystal
Don't need your silicone, I prefer my own
What god gave me is just fine
 เก็บคริสตัลกับปืนเธอไปซะ
ฉันขอแค่คริสตัลน่ารักๆชิ้นเล็กๆก็พอ
ฉันไม่ต้องการซิลิโคน ฉันพอใจกับสิ่งที่ฉันมี
สิ่งที่พระเจ้าให้ฉันก็เพียงพอแล้ว

เพลงนี้ถือว่าเป็นเพลงที่บอกว่าให้ยอมรับสิ่งที่มี ไม่ต้องพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเอง มีสมองย่อมดีกว่าแต่งตัวไปวันๆ เราถือว่าเพลงนี้ออกจะ feminist ไม่ใช่อะไรก็ต้องทำตามสื่อต่างๆว่าต้องผอม หน้าอกใหญ่ๆถึงจะสวยผู้ชายจะมาชอบ 

เคยฟังกันไหมคะแล้วชอบไหมคะ




Monday 12 March 2012

เพลงโปรด1

เนื่องจากหมดมุกไม่รู้ว่าจะเขียนอะไร เรื่องที่คิดว่าจะเขียนก็ขี้เกียจจะหาข้อมูลเพิ่มเติม ขี้เกียจทำรูป สรุปลงท้ายที่เพลงโปรด ที่เขียนว่าเพลงโปรดเพราะจะเขียนถึงเพลงที่ชอบ อาจจะชอบเพราะเนื้อหาหรือนักร้องก็แล้วแต่ โดยส่วนมากน่าจะเป็นเพลงจากนักร้องโปรดแล้วก็เลือกเพลงจากนักร้องที่ชอบและไม่ค่อยมีคนพูดถึง คือเพราะสำหรับเราแต่อาจจะไม่โดดเด่นเท่าเพลงอื่นในอัลบัม วันนี้เราจะมาเริ่มกันด้วยวงที่โปรดที่สุด ซื้อทุกอัลบัม และลงทุนซื้อดีวีดีคอนเสิร์ตเก็บด้วย คือ The Corrs


I Never Loved You Anyway

เพลงนี้อยู่ในอัลบัม Talk on Corners ที่วางแผงในปี 1997 ซึ่งในอัลบัมนี้มีเพลงที่คนส่วนใหญ่รู้จักและกล่าวถึงคือ What Can I Do? กับ Only When I Sleep แต่เราจะพูดถึงเพลงนี้เพราะเราชอบเนื้อหา ไม่ใช่เพลงที่ง้อผู้ชาย ดูได้จากเนื้อเพลงที่แต่งโดย The Corrs กับ Carole Bayer Sager จะแปลออกแนวด่าๆจิกกัดนะคะ

You bored me with your stories
เธอทำให้ฉันรำคาญด้วยเรื่องแหลๆของเธอ


I can't believe that I endured as long as I did
ไม่น่าเชื่อที่ฉันทนเธอได้มานานขนาดนี้


I'm happy, it's over, I'm only sorry
that I didn't make the move before you
ฉันแสนจะดีใจที่เรื่องมันจบซะที มีเรื่องเดียวที่ฉันเสียใจ
คือฉันไม่ได้เป็นฝ่ายเดินออกจากความสัมพันธ์นี้ก่อน


And when you go, I will remember
to send a thank you note to that girl, (oh that girl) 
ก่อนที่เธอจะย้ายออกไปฉันจะไม่ลืมที่จะส่งโน๊ตไปขอบคุณผู้หญิงคนนั้น


I see she's holding you so tender
ฉันเห็นผู้หญิงคนนั้นกอดเธออย่างอ่อนโยน


Well I just wanna say...
(Just wanna say...)
สิ่งที่ฉันอยากจะพูดแค่


I never really loved you anyway
ฉันไม่เคยรักเธอจริงๆอยู่แล้ว


No I didn't love you anyway
ไม่ฉันไม่เคยรักเธอเลย


I never really loved you anyway
ฉันไม่เคยรักเธอจริงๆอยู่แล้ว


I'm so glad you're moving away
ฉันโคตรจะดีใจเลยที่เธอจะย้ายออกไปซะที


Valentino, I don't think so
วาเลนติโน่เหรอม ฉันไม่คิดอย่างนั้นนะ


You're watching MTV while I lie dreaming in my empty bed
เธอดู MTV ตอนที่ฉันนอนฝันในเตียงที่ว่างเปล่าของฉัน


And come to think of it, I was misled
และเมื่อมานึกถึง ฉันถูกทำให้หลงผิดไป


My flat, my food , my everything
แฟลตของฉัน, อาหารก็ของฉัน,ทุกสิ่งเป็นของฉันทั้งสิ้น


And thoughts inside my head
ความคิดทั้งหมดที่วิ่งอยู่ในหัวฉัน


Before you go I must remember
ก่อนที่เธอจะไปฉันต้องจำว่า


To have a quiet word with that girl
ต้องมีการคุยกับผู้หญิงคนนั้นอย่างลับๆ


Does she know you're not a spender
ผู้หญิงคนนั้นเธอรู้หรือเปล่านะว่า เธอมันไม่เคยออกค่าใช้จ่ายอะไรเลย


Well I just have to say
ฉันมีสิ่งที่จำเป็นต้องพูดแค่



I never really loved you anyway
ฉันไม่เคยรักเธอจริงๆอยู่แล้ว


I'm so glad you're moving away
ฉันโคตรจะดีใจเลยที่เธอจะย้ายออกไปซะที
.
.
.
.
.
Yeah I'm delighted you're moving away
เย่ ฉันโคตรปลาบปลื้มเลยที่เธอกำลังออกไปจากชีวิตซะที




ขอจบบล๊อกอย่างเรีบยง่ายไปเท่านี้ก่อนนะคะ ว่าจะเขียนเรื่องเพลงต่อไปอีกสักระยะ เคยฟัง/ไม่เคยฟังเพลงนี้มาแลกเปลี่ยนความห็นกันได้นะคะว่าชอบไหม หรือเป็นแฟน The Corrs ไหม  

Friday 9 March 2012

My Top 25 Female TV Characters

After reading Afterellen.com's Top 50 Female TV Charaters so I decided to write my own list, at first I want to do only 15 but then the list is getting longer and longer so finally I made my mind for 25 characters.

*Warning this blog is gonna be the longest blog so far.

25. Caitlin Dowd (Bonnie Somerville), Cashmere Mafia
Cashmere Mafia is a short-lived series on ABC, which follows the lives of four ambitious women and why I love Caitlin that because Caitlin has a dry humour, a loyal friend even she was dumped by her girlfriend, Caitlin is still be able to force a smile. Actually it's very hard to decide between Caitlin and Juliet but since Caitlin is a bi curious or a real bi then I chose her to be in my list.


24.Katrina Finlay (Lorraine Pilkington), Monarch of the Glen
I don't think many people could remember who Katrina is, Monarch of the Glen was the first British drama series that I watched when I was in the UK. At that time I think Katrina is so charming and so cute when she was with Archie, I was sad when she left Glenbogle to London but I admired her ambitious to choose work over love.


 23.Kathaleen Maguire (Kim Delaney), Philly
My love in legal tv dramas had made me watching Philly then I can't deny myself to fall in love with Kathaleen. I love women in a suit LOL. Kathaleen is a single mum who work to earn money to look after herself and her child. Yes I always love tough working women ;) and I forgot to mention that I like a brunette.


22. Melanie Healy (Tamzin Outhwaite), EastEnders
Admittedly that I didn't watch much British soap during my time in the UK because I was working a part-time job in the evening so I only sometime watched EastEnders omnibus and I saw Melanie then I like her even I hate the story line. Tamzin is a beautiful actress in my opinion.

 21.Kimberly 'Kim' Zambrano (Kim Raver), Third Watch
Kimberly is a FDNY paramedic. I like that Kim is a working mum but I don't like that she can't get over her ex but her appearance is beautiful so I put her in my list.

20.Amy Abbott (Emily VanCamp), Everwood
When I started watching Everwood, I like the relationship between Ephram and his father then I like a friendly relationship between Amy and Ephram so I was a fan of Everwood and Amy too.


19. Amita Ramanujan (Navi Rawat), Numb3rs
A math genius that why I like Amita even I don't understand a word when Amita, Charlie and Larry explaining all the possibility in math theories but her exotic look that keep me watching her LOL.

18.Alex (Anna Torv), Mistresses
Alex is a minor character in Mistresses but Alex has made an impression to me first she is a lesbian who is getting married to her girlfriend, however Alex has have a fling with her wedding planner. Charming, isn't she? LOL To be honest, I would like Alex to choose to be a runaway bride and be happy with Jessica but NO, the director didn't agree with me. T_T


17.Stacie Monroe (Jaime Murray), Hustle
I first saw Jaime in 'The Bill' but not until I became a Hustle fan then I'm a Jaime's huge fan. Stacie is an only female member in a con gang and of course she is stunning, need me to say anymore reason why Stacie is on my list even if you do but I don't have any :p


16. Judge Amy Gray (Amy Brenneman), Judging Amy
I watched Judging Amy while I was in the UK, strange I know that I watched many US series than UK series  but my free time had collided when  Judging Amy was on tele. After Amy divorced then became a judge and balancing her work and her family. Amy is a tough women that why I like her.

 15.Annabeth Chase (Jennifer Finnigan), Close to Home
Another lawyer character on my list, Annabeth is a Deputy Prosecutor who was happily married in the 1st season but became a widow in the 2nd season. Annabeth dedicated her life to work and family.

  

14.Serena Southerlyn (Elisabeth Rohm), Law&Order
Serena is a Assistant District Attorney who isn't so popular among L&O fan but I like her and she is lesbian too and you can't deny to accept that she is one of the hottest ADA in L&O franchise.


13. Spencer Carlin (Gabrielle Christian), South of Nowhere
I like South of Nowhere and wishing that in the near future Thailand will have a teen drama that tackled edgy and realistic subject matters like SoN. I love Spencer because of her loveliness and friendliness, she has a problem to deal with her own sexuality and to come out to her parents especially to her mother.


12.Silvia Castro (Marian Aguilera), Los hombres de Paco
I was a real late 'Pepsi' fan, I read about Pepa and Silvia in Afterellen long before I had a chance to watch it on Youtube then I felt head over heels to their loveliness and cuteness. Silvia loves Pepa since they were young but she kept in to herself until Pepa came back to her and bring all the charming to win Silvia's heart.
Silvia refused to admit that she loves Pepa at first but after she admitted, Silvia couldn't stop her passionate to smile and touching Pepa.
   
11. Dr Maura Isles (Sasha Alexander), Rizzoli&Isles
I love that Maura is a neek (geek+nerd) who is useful than google LOL, pretty sure that Muara Translate is better than google Translae ;)


10.Jane Rizzoli (Angie Harmon), Rizzoli&Isles
Jane is a tough woman who is also a detective, tough and detective that two words somehow really fit together. I love Jane's humour, love when Jane tries to get a yes or no answer from Maura. Actually, I love Angie hahaha 


9. Dr Macarena 'Maca' Fernandez (Patricia Vico), Hospital Central
Maca is a pediatrician who is from a wealthy family. A doctor,beautiful, nice, kind and rich see I can't stop myself to love her after watching her using her charm to encourage Esther to be her girlfriend.


8.Dana Fairbanks (Erin Daniels), The L Word
A tennis player who confused between a sous chef and a soup chef, Dana is hilarious but honestly I can't see that she is a tennis player at all. Love her when she is with Alice and Lara.

   
7. Sara Sidle (Jorja Fox), CSI
Sara is a quiet CSI who gives her heart to her boss, strong but sensitive that why I love Sara. Sara is just simply stunning in her uniform.

6.Sam Murray (Heather Peace), Lip Service
It's really hard to me to choose Sam or Frankie but Sam is a detective who is loyal to her girlfriend. Her tight shirt and a pair of jean really suit her. I can say that I fell in love with Heather and then I fell in love with Sam.

5. Temperance 'Bones' Brennan (Emily Deschanel), Bones
Another beautiful geek that on my list, I love that Bones is lack of social skills (like me ROTFL) and so sarcastic even she didn't mean to.
  
4. Dr Susan Lewis (Sherry Stringfield), ER
Susan loves her sister even her sister loves to bring problems to her, Susan is a capable doctor who is nice and friendly. I love when I think if I were her friend, she was the one that I can relay on. I hoped that she would be end up with Mark but then she left to Phoenix, I felt oh one reason to me for watching ER had gone.
  
3. Dr Anna Del Amico (Maria Bello), ER
I wrote a blog about her so no need to say more ;)

2.Siu-Lung-Noi (Carman Lee), The Condor Heroes 95
The author describes her physical appearances as 'skin as white as snow, beautiful and elegant beyond convention and cannot be underestimated but appear cold and indifferent'. Carman is the best Siu-Lung-Noi in my humble opinion.

1.Eriko Osawa (Amami Yuki), Boss
I knew Amami because of Boss, Eriko is a boss of a new police division, who was trained from the US. Beautiful, strong and stubborn but she loves her employees dearly that why I love her and wish I have a boss like her. I wrote a blog about Amami Yuki before and if you have time feel free to read it :p